ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิต “A” หุ้นกู้ไม่มีประกัน “ธ. ทิสโก้” วงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาทในโครงการ Medium-term Debenture

ข่าวทั่วไป Wednesday January 25, 2012 09:21 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตระดับ “A” ให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในโครงการ Medium-term Debenture วงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาทของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.98% โดย บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารที่ระดับ “A” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันชุดปัจจุบันของธนาคารที่ระดับ “A” และ “A-” ตามลำดับ โดยแนวโน้มอันดับเครดิตยังคงเป็น “Positive” หรือ “บวก” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร การมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี และความสามารถในการรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสินทรัพย์คุณภาพดีและความสามารถของธนาคารในการรักษาระดับกำไรที่เพียงพอไว้ได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากปัจจัยบางประการ ได้แก่ การมีเครือข่ายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อื่น ๆ ความเสี่ยงในการระดมเงินฝากที่อาจเกิดขึ้นหลังการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันคุ้มครองเงินฝาก รวมถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการออกตั๋วแลกเงิน นอกจากนี้ ธนาคารยังเผชิญกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ตลอดจนผลกระทบที่ยังไม่ชัดเจนจากอุทกภัยครั้งใหญ่ ความไม่แน่นอนของการเมืองภายในประเทศและภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในระยะยาว

แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนความคาดหวังว่าธนาคารทิสโก้จะสามารถดำรงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และมีผลประกอบการที่ดีได้ตามคาดในระยะปานกลาง แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของธนาคารในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอซึ่งจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงในอนาคตอันเกิดจากสภาพเศรษฐกิจรวมถึงธุรกิจที่ยังไม่แน่นอน ทั้งนี้ อันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารยังคงเผชิญกับความท้าทายจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นภายหลังการบังคับใช้ พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก อาทิ ความสามารถในการดำรงความแข็งแกร่งและรักษาเสถียรภาพของฐานเงินทุนได้ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เป็นต้น

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคารทิสโก้มีการพัฒนาบุคลากรระดับบริหารจนมีความเชี่ยวชาญภายใต้แนวทางการบริหารที่ระมัดระวังอันเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ธนาคารเติบโตในตลาดเฉพาะกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ธนาคารมีขนาดสินทรัพย์รวมอยู่ในอันดับที่ 10 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 15 แห่ง ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับสินเชื่อรวมที่ 2.3% และเงินรับฝากที่ 0.5% ธนาคารยังสามารถขยายสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 จำนวนทั้งสิ้น 176 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จาก 145 พันล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2553 จากการเพิ่มขึ้นของทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถรักษาสถานะทางการแข่งขันในธุรกิจหลักอันได้แก่สินเชื่อเช่าซื้อเอาไว้ได้ โดยเป็นผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 ที่ประมาณ 13% จากฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ฐานะทางการเงินของธนาคารทิสโก้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีกำไรสุทธิในปี 2553 จำนวน 1,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จาก 1,357 ล้านบาทในปี 2552 ในขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยสำหรับปี 2553 เท่ากับ 1.36% และ 17% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจาก 1.08% และ 12.03% ในปี 2552 นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของธนาคารยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2554 เท่ากับ 2,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รวมทั้งจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากความสามารถในการควบคุมต้นทุนดำเนินงานและต้นทุนสำรองหนี้สูญที่มีประสิทธิภาพด้วย

ธนาคารทิสโก้พัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพจนสามารถควบคุมดูแลให้สินทรัพย์ยังคงมีคุณภาพดีซึ่งสะท้อนจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non-performing Loan -- NPL) ต่อสินเชื่อรวม ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ธนาคารมีอัตราส่วน NPL ลดลงเหลือ 1.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 4% ของธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 11 แห่งจากฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง นอกจากนี้ ธนาคารยังมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Asset — NPA ซึ่งประกอบด้วยเงินให้สินเชื่อจัดชั้นค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน ยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และทรัพย์สินรอการขาย) คิดเป็น 0.15 เท่าของผลรวมของเงินกองทุนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ โดยลดลงจาก 0.27 เท่าในปี 2552 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.53 เท่าทางด้านแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องนั้น ธนาคารทิสโก้มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในระดับหนึ่งเนื่องจากมีหนี้สินระยะสั้นที่จะครบกำหนดชำระคืนภายในเวลา 12 เดือนมากกว่าสินทรัพย์ที่จะครบกำหนดในช่วงเดียวกัน นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแหล่งเงินทุนที่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่จำนวนมากซึ่งอาจก่อให้เกิดความผันผวนได้ง่าย ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ธนาคารมีแหล่งเงินทุนที่มาจากผู้ฝากเงินและผู้ให้กู้ยืมรายใหญ่ (เงินฝากหรือตั๋วแลกเงินที่มากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป) คิดเป็นประมาณ 77% ของเงินรับฝากรวมตั๋วแลกเงิน ธนาคารอาจเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องในกรณีที่ลูกค้ารายใหญ่จำนวนมากเบิกถอนเงินในคราวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็มีกลยุทธ์ที่จะเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้ารายย่อยให้มากขึ้นเพื่อให้แหล่งเงินทุนมีการกระจายตัวดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังเผชิญกับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งและเสถียรภาพของแหล่งเงินทุนอันได้แก่ ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการออกตั๋วแลกเงินมากขึ้น รวมทั้งวงเงินคุ้มครองเงินฝากที่จะลดลงจาก 50 ล้านบาทเป็น 1 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม 2555 ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก

ในส่วนของเงินกองทุนนั้น ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ธนาคารทิสโก้มีอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวมเท่ากับ 9.88% และ 14% ตามลำดับ ลดลงจาก 11.29% และ 15.23% ในปี 2553 อันเป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราส่วนเงินกองทุนรวมของธนาคารจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 15.40% แต่ธนาคารยังคงมีเงินกองทุนที่เพียงพอและสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระดับ 8.5% นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงด้านเครดิตโดยวิธีการจัดอันดับเครดิตภายใน (Internal Ratings Based Approach -- IRB) ภายใต้หลักเกณฑ์ Basel II อีกทั้งยังพัฒนากระบวนการประเมินความเพียงพอของเงินกองทุนภายใน (Internal Capital Adequacy Assessment Process -- ICAAP) ด้วย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะช่วยให้ธนาคารมีระบบการบริหารความเสี่ยงและจัดการเงินกองทุนที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCOB)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                        คงเดิมที่ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TSCO125A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555                คงเดิมที่ A
TISCO192A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562         คงเดิมที่ A-
TISCO195A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562    	คงเดิมที่ A-
TISCO205A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563     	คงเดิมที่ A-
TISCO20DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563     	คงเดิมที่ A-
หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2565   	คงเดิมที่ A-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debenture   	A
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                        Positive (บวก)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ rapee@tris.co.th  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html








เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ