ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท “บ. บ้านปู” และคงอันดับองค์กร & หุ้นกู้ชุดปัจจุบันที่ระดับ “AA-/Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday May 3, 2012 16:30 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาทของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “AA-” ด้วยเช่นกันโดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้เดิมและใช้สำหรับการลงทุนในอนาคต อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมถ่านหินในภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนความหลากหลายของแหล่งถ่านหินและฐานลูกค้า รวมถึงรายได้เงินปันผลที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้า ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลีย และแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทบ้านปูจะยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่เหมาะสมในระหว่างการขยายธุรกิจถ่านหิน ทั้งนี้ การทำสัญญาขายถ่านหินล่วงหน้ากับลูกค้าหลายรายจะช่วยลดผลกระทบจากราคาถ่านหินที่อ่อนตัวลงได้ในปัจจุบัน

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทบ้านปูเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานรายใหญ่ในเอเชียซึ่งก่อตั้งในปี 2526 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตถ่านหินในประเทศไทย บริษัทขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันมีแหล่งถ่านหินอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย จีน และออสเตรเลีย นอกจากนี้ บริษัทยังขยายการลงทุนสู่ธุรกิจไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและจีนด้วย ธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียยังคงเป็นแหล่งสร้างกำไรหลักของบริษัท โดยในปี 2554 กำไรจากธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียมีสัดส่วน 68% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) กำไรจากธุรกิจในประเทศออสเตรเลียคิดเป็น 26% ของ EBITDA ในขณะที่กำไรจากธุรกิจในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 6% ของ EBITDA ส่วนในประเทศจีนไม่มีกำไรหลังจากการขายหุ้นเหมือง Daning ออกไปในไตรมาสแรกของปี 2554 เมื่อพิจารณาในด้านประเภทธุรกิจแล้ว กำไรจากธุรกิจถ่านหินในปี 2554 คิดเป็นสัดส่วน 94% ของ EBITDA เพิ่มขึ้นจาก 91% ในปี 2553 ในขณะที่กำไรส่วนที่เหลือซึ่งมาจากธุรกิจไฟฟ้ามีสัดส่วน 6% ในปี 2554

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในปี 2554 ปริมาณการผลิตถ่านหินของกลุ่มบ้านปู (ไม่รวมประเทศจีน) คิดเป็นจำนวน 39.9 ล้านตัน โดยประกอบด้วยถ่านหินที่ผลิตในประเทศอินโดนีเซีย 24.6 ล้านตันและในออสเตรเลีย 15.4 ล้านตัน ณ เดือนธันวาคม 2554 ปริมาณสำรองถ่านหินของบริษัทในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียมีจำนวนรวม 833 ล้านตัน ในขณะที่ปริมาณสำรองถ่านหินคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 599 ล้านตัน ปริมาณสำรองดังกล่าวเทียบเท่ากับปริมาณการผลิตราว 19 ปี อายุปริมาณสำรองถ่านหินของบริษัทเพิ่มขึ้นในปี 2554 มีปัจจัยหลักมาจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ซึ่งช่วยให้การขุดเหมืองทำได้ลึกมากขึ้น

ธุรกิจถ่านหินในประเทศออสเตรเลียซึ่งดำเนินงานภายใต้บริษัท Centennial Coal Co., Ltd. (CEY) มีผลการดำเนินงานตามคาดโดย CEY ขายถ่านหินได้ 14.9 ล้านตันในปี 2554 และมีรายได้ 32,751 ล้านบาท แม้ว่าราคาขายเฉลี่ยของ CEY จะค่อนข้างต่ำจากสัญญาขายถ่านหินระยะยาว แต่อัตรา EBITDA ยังเป็นที่น่าพอใจโดยอยู่ที่ระดับ 25% เมื่อเทียบกับธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียของบริษัทบ้านปูที่ระดับ 29% ทั้งนี้ CEY มี EBITDA ในปี 2554 เท่ากับ 8,218 ล้านบาท

ในปี 2554 บริษัทบ้านปูซื้อหุ้น 100% ใน Hunnu ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศออสเตรเลียด้วยมูลค่าเงินลงทุน 472 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย Hunnu เป็นผู้สำรวจและพัฒนาเหมืองถ่านหินโดยมีโครงการเหมืองถ่านหิน 15 แห่งในประเทศมองโกเลีย และมีปริมาณสำรองถ่านหินที่มีศักยภาพ (Coal Resource) รวม 691 ล้านตัน (คิดจากสัดส่วนการถือหุ้น) เนื่องจากเหมืองเกือบทั้งหมดของ Hunnu ยังอยู่ในขั้นตอนการสำรวจและพัฒนา Hunnu จึงมีผลขาดทุนสุทธิ 38 ล้านบาทในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2554

ธุรกิจไฟฟ้าในประเทศไทยที่ดำเนินงานโดยบริษัทร่วมทุนคือ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP Power Ltd. -- BLCP) ซึ่งบริษัทบ้านปูถือหุ้น 50% ยังคงมีผลการดำเนินงานตามที่คาดไว้ BLCP เป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินขนาด 1,434 เมกะวัตต์ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent Power Producer — IPP) BLCP นำส่งกำไรตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 1,952 ล้านบาทแก่บริษัท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 6% ของ EBITDA รวมของบริษัทบ้านปูในปี 2554 กำไรตามวิธีส่วนได้เสียของ BLCP ลดลงจากค่าเฉลี่ยที่บริษัทสร้างกำไรให้แก่บริษัทบ้านปูราว 3,000 ล้านบาทต่อปีในปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากราคาขายไฟฟ้าที่ลดลงตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว โดยกำไรจาก BLCP จะทยอยลดลงเป็นลำดับในอนาคตตามราคาขายไฟฟ้าในสัญญา อย่างไรก็ตาม โครงการหงสาซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระในประเทศลาวจะช่วยชดเชยผลกำไรที่ลดลงของ BLCP ในอนาคต ปัจจุบันโครงการหงสาอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในปี 2558 เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้ขายถ่านหินรายใหญ่ของ BLCP ได้แจ้งขอเจรจาปรับราคาขายถ่านหินเพิ่มจากสัญญาปัจจุบันที่กำหนดไว้ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเนื่องจากราคาตลาดของถ่านหินปรับตัวสูงกว่าราคาตามสัญญามาก BLCP จึงได้เจรจาขอปรับราคาขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เนื่องจากปกติผู้ผลิตไฟฟ้าจะส่งผ่านต้นทุนถ่านหินไปยังราคาขายไฟฟ้าที่ทำสัญญาไว้กับ กฟผ. ปัจจุบัน กฟผ. อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการปรับราคาขายไฟฟ้า

อัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทบ้านปูปรับตัวดีขึ้นในปี 2554 หลังจากเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2553 จากการซื้อกิจการของ CEY อัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทลดลงเหลือ 42.4% ณ เดือนธันวาคม 2554 จาก 51.6% ในเดือนธันวาคม 2553 โดยเป็นผลมาจากการขายหุ้นเหมือง Daning มูลค่า 699 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทบ้านปูเพิ่มงบลงทุนเป็น 1,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับปี 2555-2558 จากงบลงทุนเดิมที่ 1,339 ล้านดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูงขึ้นโดยรวมงบลงทุนสำหรับโครงการ Hunnu ที่เพิ่งซื้อกิจการเข้ามาใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมี EBITDA ปีละประมาณ 900-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานจึงน่าจะเพียงพอต่อแผนการลงทุนที่วางไว้ และเมื่อพิจารณาจากแผนชำระคืนหนี้ปีละ 200-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่านโยบายโครงสร้างเงินทุนของบริษัท

บริษัทบ้านปูรายงานผลกำไรสุทธิสูงถึง 20,060 ล้านบาทในปี 2554 เนื่องจากมีกำไรหลังหักภาษีจากการขายเหมือง Daning จำนวน 6,307 ล้านบาท อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 25.5% ในปี 2554 จาก 17.4% ในปี 2553 เนื่องจากราคาขายถ่านหินอยู่ในระดับสูง EBITDA เพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 31,979 ล้านบาทในปี 2554 สำหรับในปี 2555 แม้ว่าปัจจุบันราคาถ่านหินจะอ่อนตัวลง แต่กำไรของธุรกิจถ่านของบริษัทบ้านปูจะยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจเนื่องจากบริษัทได้ทำสัญญาขายถ่านหินล่วงหน้าในราคาสูงในสัดส่วนประมาณ 60% ของปริมาณขายถ่านหินของปี 2555 ในประเทศอินโดนีเซีย สำหรับธุรกิจถ่านหินในประเทศออสเตรเลียนั้น ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยจะปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับสะท้อนราคาส่งออกหลังจากสัญญาเก่าทยอยหมดอายุลง อย่างไรก็ตาม บริษัทบ้านปูยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจถ่านหินมากขึ้น โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้รัฐบาลออสเตรเลียได้ผ่านกฎหมายการเก็บภาษี Mineral Resources Rent Tax และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการผ่านกฎหมายภาษีสำหรับธุรกิจเหมืองแร่ฉบับที่ 2 หลังจากเพิ่งผ่านกฎหมายภาษีก๊าซคาร์บอน (Carbon Tax) ไปเมื่อปลายปี 2554 และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกกฎหมายซึ่งกำหนดให้ผู้ถือหุ้นชาวต่างประเทศในเหมืองถ่านหินลดสัดส่วนการถือหุ้นให้อยู่ในระดับไม่เกิน 50% ภายใน 10 ปีหลังจากการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรายละเอียดการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวยังไม่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบังคับใช้สำหรับเหมืองใหม่หรือมีผลย้อนหลัง หรือการบังคับใช้จะมีผลครอบคลุมผู้ได้รับสัญญาสัมปทานทุกประเภทหรือไม่ เป็นต้น ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU)
อันดับเครดิตองค์กร:	                              คงเดิมที่ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BP125A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555  	คงเดิมที่ AA-
BP145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557  	คงเดิมที่ AA-
BP15NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558  	คงเดิมที่ AA-
BP165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559  	คงเดิมที่ AA-
BANPU184A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561	คงเดิมที่ AA-
BANPU214A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564	คงเดิมที่ AA-
BANPU234A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566	คงเดิมที่ AA-
BANPU264A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569	คงเดิมที่ AA-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2565	AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                            Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html







เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ