ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่มีประกัน “บ. กรุงเทพดุสิตเวชการ” ที่ “A+/Stable”

ข่าวทั่วไป Monday October 29, 2012 16:32 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์และหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความเป็นผู้นำธุรกิจของบริษัทในฐานะผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ความสามารถในการรองรับและให้บริการผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเครือข่ายของบริษัทที่ขยายใหญ่ขึ้นหลังการควบรวมกับกลุ่มโรงพยาบาลพญาไท (PYT) และกลุ่มโรงพยาบาลเปาโล (Paolo) รวมถึงคณะผู้บริหาร บุคลากร และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีความสามารถและมากประสบการณ์ บริการที่มีคุณภาพในระดับสูง และเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงจากผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการลงทุนในอนาคตของบริษัทที่อาจจะใช้เงินทุนจากการกู้ยืม ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการสะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถคงความเป็นผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนทั้งในประเทศและในภูมิภาค อีกทั้งยังคาดหวังให้บริษัทดึงดูดผู้ป่วยให้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นและคงผลประกอบการที่เข้มแข็งเอาไว้ได้ โดยการลงทุนหรือการซื้อกิจการใดใดในอนาคตควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อคงความแข็งแกร่งทางการเงินเอาไว้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการก่อตั้งในปี 2512 เพื่อดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนภายใต้ชื่อโรงพยาบาลกรุงเทพ บริษัทเป็นผู้นำธุรกิจในฐานะผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 28 แห่งภายใต้ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลในประเทศที่เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างแพร่หลายจำนวน 5 ตราสัญลักษณ์และภายใต้ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลต่างประเทศอีก 1 ตราสัญลักษณ์ โดยมีโรงพยาบาลที่ประกอบกิจการภายใต้ชื่อโรงพยาบาลกรุงเทพ 14 แห่ง ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลสมิติเวช 3 แห่ง ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลบีเอ็นเอช 1 แห่ง และอีก 2 แห่งภายใต้ชื่อ Royal International Hospital ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลอีก 2 ตรา คือ โรงพยาบาลพญาไทและโรงพยาบาลเปาโลเข้ามารวมในกลุ่มบริษัทเมื่อเดือนเมษายน 2554 บริษัทมีความสามารถในการให้บริการผู้ป่วยทั้งสิ้น 4,140 เตียง นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนจะเปิดโรงพยาบาลขนาด 120 เตียงอีก 1 แห่งที่จังหวัดอุดรธานีภายในสิ้นปี 2555 นี้ด้วย เครือข่ายที่แข็งแกร่งนี้เป็นปัจจัยที่ช่วยขยายแหล่งรายได้ของบริษัทตลอดจนฐานลูกค้าจนครอบคลุมกลุ่มคนไข้ระดับกลางถึงระดับบนในหลากหลายทำเลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ โรงพยาบาลในเครือของบริษัทจำนวน 9 แห่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Joint Commission International (JCI)

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการมาจากความหลากหลายทั้งในด้านบริการ ฐานลูกค้า และทำเลที่ตั้ง บริษัทเป็นศูนย์รวมของบุคลากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ พยาบาล พนักงานคลังยาและเวชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งยังมีเครือข่ายระบบส่งต่อผู้ป่วยที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย โรงพยาบาลในกลุ่มเน้นรักษาและให้บริการระดับตติยภูมิซึ่งจะช่วยปรับเพิ่มรายได้และการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์รวมทั้งบริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการมากยิ่งขึ้น การประหยัดจากขนาดซึ่งเป็นผลจากการใช้บริการห้องปฏิบัติการ การจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือทางการแพทย์หลักร่วมกันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การนำระบบบริหารเงินโดยการทำ Cash Pooling มาใช้กับโรงพยาบาลในกลุ่มยังช่วยลดระดับความต้องการเงินกู้ระยะสั้นในแต่ละโรงพยาบาลและลดต้นทุนทางการเงินของกลุ่มโดยรวมลงด้วย

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลในปี 2554 เพิ่มขึ้น 50% มาอยู่ที่ 35,224.5 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 34.9% สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ การเติบโตของจำนวนคนไข้ ความซับซ้อนของโรค จำนวนผู้ป่วยส่งต่อที่เพิ่มขึ้น และการรวมรายได้จากกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลเข้ามา โดยในปี 2554 โรงพยาบาลมีความสามารถในการให้บริการผู้ป่วยนอก 20,322 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และรองรับผู้ป่วยใน 2,665 เตียงต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากผู้ป่วยประมาณ 53%-55% มาจากผู้ป่วยใน และที่เหลือมาจากผู้ป่วยนอก ส่วนรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยที่ชำระเงินเองมีมากกว่า 70% ของรายได้รวม

สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่เข้มแข็ง กระแสเงินสดของบริษัทยังคงแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 4,372 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 6,605 ล้านในปี 2554 และบริษัทสามารถสร้างเงินทุนจากการดำเนินงานได้ 4,096 ล้านบาทสำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 อัตรากำไรจากการดำเนินงานค่อนข้างเสถียรอยู่ที่ระดับ 20%-22% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาถึงแผนการควบคุมต้นทุน รวมถึงการเพิ่มการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่ใช้ร่วมกันภายในกลุ่ม และการขยายการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่โรงพยาบาลซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแล้วคาดว่าการทำกำไรของบริษัทในระยะปานกลางจะปรับตัวดีขึ้น

ภาระหนี้ของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการเพิ่มขึ้นในระยะหลัง โดยเพิ่มขึ้นจาก 10,751 ล้านบาท ณ ปลายปี 2553 มาอยู่ที่ 16,792 ล้านบาท ณ ปลายปี 2554 และ เพิ่มขึ้นเป็น 20,968 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 เนื่องจากบริษัทได้รับเอาภาระหนี้ของกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลเข้ามาหลังการควบรวมกิจการ และเป็นผลจากการลงทุนในโรงพยาบาลแห่งใหม่และบริษัทในเครือ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เพิ่มฐานทุนในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันซึ่งทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงเล็กน้อยจาก 39.8% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 37.5% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ภาระหนี้ส่วนใหญ่ของบริษัทก็เป็นเงินในสกุลบาทที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ดังนั้น บริษัทจึงไม่มีความเสี่ยงในด้านอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน

การลงทุนในปัจจุบันของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการในโรงพยาบาลแห่งใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี และระยองจะนำมาซึ่งโอกาสในการเติบโตที่ดีในอนาคต ตลอดจนทำให้เครือข่ายโรงพยาบาลของบริษัทขยายกว้างขวางขึ้น และก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่โรงพยาบาลอีก เช่น การให้บริการห้องปฏิบัติการ การผลิตและจำหน่ายยา รวมถึงการให้บริการด้านเวชภัณฑ์ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในช่วงปี 2555-2558 ประมาณปีละ 6,200-7,700 ล้านบาท ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH)
อันดับเครดิตองค์กร:	                            คงเดิมที่ A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BGH133A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556	คงเดิมที่ A+
BGH143A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557	คงเดิมที่ A+
BGH146A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,970 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557	คงเดิมที่ A+
BGH153A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558	คงเดิมที่ A+
BGH166A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559	คงเดิมที่ A+
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                           Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ