ทริส ประกาศผลการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการ “ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 20, 2004 18:06 —ทริส เรตติ้ง

ทริส ประกาศผลการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการของ บมจ. ธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ผลการจัดอันดับของธนาคารได้คะแนนรวม 7.50 อยู่ในระดับ “ดี” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของธนาคารมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และมีความตั้งใจในการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดียิ่งขึ้นต่อไป ทริสเปิดเผยว่า คะแนนรวมดังกล่าวได้มาจากการพิจารณาปัจจัยด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีการถ่วงน้ำหนักจากคะแนนย่อยทั้ง 4 เกณฑ์ ได้แก่ สิทธิของผู้ถือหุ้น 6.80 คะแนน องค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร 7.52 คะแนน การเปิดเผยข้อมูล 8.09 คะแนน และวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการ 7.37 คะแนน ธนาคารได้คะแนนสูงสุดในด้านการเปิดเผยข้อมูล โดยคุณภาพของการจัดทำข้อมูล ได้แก่ รายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร (MD&A) และข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงิน โดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้งการจัดทำและเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญครบถ้วนและตรงตามระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ทริสกล่าวต่อไปอีกถึงเรื่ององค์ประกอบและบทบาทของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร โดยธนาคารมีสัดส่วนของกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหาร ซึ่งรวมถึงกรรมการอิสระ อยู่ในระดับที่สูง จึงก่อให้เกิดการถ่วงดุลที่ดี นอกจากนี้ จากการที่ธนาคารมีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กรรมการจึงมาจากการแต่งตั้งของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ คณะกรรมการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ และให้ความสำคัญกับการติดตามผลการดำเนินงานของธนาคาร นอกจากนี้ คณะกรรมการตรวจสอบได้ทำหน้าที่กำกับดูแลและสอบทานความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของรายงานทางการเงิน สอบทานระบบควบคุมภายใน ตลอดจนสอบทานการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับเรื่องวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการของธนาคารนั้น คณะกรรมการธนาคารได้แต่งตั้งคณะทำงานประสานงานการกำกับดูแลกิจการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้พนักงานมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และสนับสนุนให้เกิดการถ่ายทอดวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการอย่างจริงจังและทั่วถึงทั้งองค์กร โดยธนาคารได้จัดอบรมนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีของธนาคารและจริยธรรมทางธุรกิจให้แก่ผู้บริหารและพนักงานทั่วทั้งองค์กรกว่า 6,000 คน แต่ธนาคารยังมีสัดส่วนการกระจายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเพียงร้อยละ 17.52 ซึ่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับรัฐวิสาหกิจอื่นที่มีการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้หากมีการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิที่ธนาคารได้ออกจำหน่ายในปี 2546 เป็นหุ้นสามัญทั้งจำนวนภายในเดือนพฤศจิกายน 2547 สัดส่วนการถือหุ้นของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จะลดลงเหลือร้อยละ 47.46 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการกระจายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยของธนาคารสูงขึ้น และก่อให้เกิดการถ่วงดุลที่ดีขึ้นระหว่างผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อย ทริสชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องสิทธิของผู้ถือหุ้น ซึ่งธนาคารมีมาตรการในการอนุมัติการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน และการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เพื่อทำให้ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทนอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น ในเรื่องการให้ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างแท้จริง โดยการให้สารสนเทศที่มีรายละเอียดเพียงพอแก่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น และการปรับปรุงวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงในระหว่างการประชุมให้ดียิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ