ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกัน “บ. การบินไทย” ที่ “A+/Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday March 7, 2013 16:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจการบินระหว่างประเทศในเส้นทางการบินของประเทศไทยและประโยชน์จากการเป็นสมาชิก Star Alliance ซึ่งเป็นเครือข่ายพันธมิตรสายการบินที่ใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการมีภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง ตลอดจนความเสี่ยงจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผันผวน ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กระทบต่อธุรกิจสายการบิน เช่น โรคระบาด ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความไม่สงบทางการเมือง รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากสายการบินทั่วไปและสายการบินต้นทุนต่ำที่จะกดดันอัตรารายได้ต่อผู้โดยสาร-กิโลเมตรอย่างต่อเนื่องทั้งในระยะสั้นและระยะปานกลาง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทการบินไทยจะยังคงสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจการบินระหว่างประเทศของไทย นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทไม่ควรลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทต้องมีการลงทุนอย่างมาก ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังอยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่อไปโดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติ

อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทซึ่งสะท้อนถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในฐานะที่บริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจและสายการบินแห่งชาติ ดังนั้น อันดับเครดิตจะได้รับการปรับลดลงหากรัฐบาลลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือต่ำกว่า 50% ปัจจุบันกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 51% นอกจากนี้ ยังมีธนาคารออมสินซึ่งเป็นธนาคารของรัฐบาลไทยเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 2.1% ด้วย ในขณะที่หุ้นของบริษัทในสัดส่วน 15.5% ที่ถือโดยกองทุนวายุภักษ์นั้นจัดเป็นการถือหุ้นโดยผู้ลงทุนภาคเอกชนแม้กองทุนวายุภักษ์จะได้รับการจัดตั้งโดยกระทรวงการคลังเพื่อลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม

ปัจจุบันบริษัทการบินไทยเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซีย โดย ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ณ สนามบินปลายทาง 63 แห่งทั่วโลก ด้วยเที่ยวบินจำนวน 619 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยความสามารถในการบรรทุกซึ่งวัดจากจำนวนที่นั่ง-กิโลเมตรของบริษัทเพิ่มขึ้น 1% สู่ระดับ 79,231 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตรในปี 2555 บริษัทมีสถานะทางการตลาดในเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งแม้ว่าจะปรับลดลง โดยส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทในด้านจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติต่าง ๆ ของประเทศไทยลดลงจาก 34.1% ในปี 2554 เป็นระดับ 33.6% ในปี 2555 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจากสายการบินอื่น ๆ โดยเฉพาะสายการบินจากตะวันออกกลางและสายการบินภูมิภาคอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้น 3.9% เป็นระดับ 13.2 ล้านคนในปี 2555

สำหรับการบินภายในประเทศนั้น ปริมาณการจราจรทางอากาศโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่สายการบินต้นทุนต่ำเริ่มให้บริการในประเทศไทยในปี 2546 ทำให้จำนวนผู้โดยสารทั้งระบบเพิ่มขึ้นจาก 7.2 ล้านคนในปี 2546 มาอยู่ที่ 15.4 ล้านคนในปี 2555 กระนั้นส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทก็ลดลงจาก 85% ในปี 2546 เหลือ 36% ในปี 2554 อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้น 16.8% สู่ระดับ 6.1 ล้านคนในปี 2555 ซึ่งส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 39.8% ในปี 2555 ธุรกิจการบินภายในประเทศสร้างรายได้ให้แก่บริษัทเพียง 10% ของรายได้รวม การมีต้นทุนดำเนินงานที่ค่อนข้างสูงกว่าสายการบินต้นทุนต่ำทำให้บริษัทต้องกำหนดกลยุทธ์ที่จะเพิ่มกำไรโดยการลดจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศที่มีผลประกอบการขาดทุนและเปิดโอกาสให้สายการบินราคาประหยัดที่เป็นพันธมิตรของบริษัทคือ “นกแอร์” เป็นผู้ให้บริการแทน นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดให้บริการสายการบินระดับกลางภายใต้ชื่อ “ไทยสไมล์” ในช่วงกลางปี 2555 ซึ่งเน้นให้บริการแก่กลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางด้วย โดยไทยสไมล์จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการแข่งขันเพื่อเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดจากสายการบินต้นทุนต่ำอื่น ๆ ทั้งในเส้นทางการบินภายในประเทศและในภูมิภาคเอเชีย

บริษัทมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 6.2% เป็น 76.6% ในปี 2555 เนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการรณรงค์ส่งเสริมการขายแบบเชิงรุก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 16.8% เป็น 20.3 ล้านคนในปี 2555 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ก็ลดลงจากระดับ 56.2% ในปี 2554 เป็น 54.2% ในปี 2555 ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

ในปี 2555 ผลการดำเนินงานของบริษัทฟื้นตัวเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นและราคาน้ำมันเครื่องบินที่มีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่รุนแรงยังคงมีผลจำกัดการปรับเพิ่มราคาค่าโดยสารและค่าชดเชยน้ำมัน อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 9.9% ในปี 2554 เป็น 13.5% ในปี 2555 และอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.5 เท่าในปี 2554 เป็น 4.3 เท่าในปี 2555 ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมก็ปรับปรุงดีขึ้นจาก 11.0% ในปี 2554 เป็น 15.5% ในปี 2555 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 70% ในปี 2554 และ 2555 ทั้งนี้ คาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นต่อไปในระยะปานกลางเนื่องจากบริษัทมีภาระลงทุนค่อนข้างสูงอันเกิดจากการจัดหาเครื่องบินใหม่ แต่บริษัทจะได้ประโยชน์จากการจัดหาเครื่องบินใหม่ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการบินที่เพิ่มขึ้น หรือปริมาณการใช้น้ำมัน และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ลดลง

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
THAI13OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,556.79 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 A+
THAI14OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A+
THAI155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
THAI165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
THAI16DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
THAI17OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
THAI185A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,555 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI185B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,445 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI192A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
THAI19OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
THAI215A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 833 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
THAI215B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,167 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
THAI222A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
THAI22OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
THAI243A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ