ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกัน “บ.ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง” ที่ “AA+" และคงแนวโน้ม "Stable”

ข่าวทั่วไป Wednesday June 19, 2013 16:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด ที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยหุ้นกู้ของบริษัทได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดยบริษัทแม่คือ ORIX Corporation (ORIX) ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “A-” จาก Standard & Poor’s และ “Baa2” จาก Moody’s Investor Services (Moody’s) ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือของ ORIX ซึ่งค้ำประกันหุ้นกู้แบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้

ตามเงื่อนไขข้อตกลงการค้ำประกันซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่น ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้สำหรับหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว โดยผู้ค้ำประกันพร้อมที่จะชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันในกรณีที่บริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด นอกจากนี้ หากมีการควบรวมหรือการครอบงำกิจการของผู้ค้ำประกันคือ ORIX บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการหรือบริษัทที่เข้าครอบงำกิจการของ ORIX จะต้องรับภาระผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย และในกรณีที่ ORIX ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ค้ำประกัน ณ ศาลในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ โดยที่ภาระการค้ำประกันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากมติเอกฉันท์จากผู้ถือหุ้นกู้

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งสะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ ORIX ซึ่งได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “A-“ ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก Standard & Poor’s และ “Baa2” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก Moody’s

อันดับเครดิตของ ORIX ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ได้รับแรงหนุนจากสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยจุดแข็งของ ORIX คือการกระจายตัวของธุรกิจและแหล่งเงินทุน ORIX ก่อตั้งในปี 2507 โดยความร่วมมือของสถาบันการเงิน 5 แห่งและบริษัทธุรกิจการค้าอีก 3 แห่ง บริษัทเป็นต้นแบบในการบุกเบิกอุตสาหกรรมลีสซิ่งในประเทศญี่ปุ่น กว่า 50 ปีของการดำเนินงาน ORIX ได้ขยายขอบเขตความหลากหลายของธุรกิจ จนกระทั่งปัจจุบันมีการให้บริการทางการเงินที่กว้างขวางนอกเหนือจากการให้บริการลีสซิ่ง โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 สินทรัพย์รวมทั้งหมดของบริษัทจำนวน 8.4 ล้านล้านเยนประกอบไปด้วย สินเชื่อผ่อนชำระ 2.7 ล้านล้านเยน ซึ่งคิดเป็น 31.9% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ตามด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ให้เช่าดำเนินงานจำนวน 1.4 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็น 16.5% เงินลงทุนในหลักทรัพย์ 1.1 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็น 13.0% และเงินลงทุนในสินทรัพย์ให้เช่าทางการเงินจำนวน 1.0 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็น 11.7%

ธุรกิจของ ORIX ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจ (Corporate Financial Services) ธุรกิจลีสซิ่งแบบเช่าบำรุง (Maintenance Leasing) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) ธุรกิจการลงทุนและการดำเนินงาน (Investment and Operations) ธุรกิจสำหรับลูกค้ารายย่อย (Retail) และธุรกิจต่างประเทศ (Overseas Business) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 สินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจสำหรับลูกค้ารายย่อยคิดเป็น 31.8% ของสินทรัพย์รวมตามกลุ่มธุรกิจ ตามด้วยกลุ่มธุรกิจต่างประเทศที่ 19.5% และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ 17.9% สินทรัพย์รวมตามกลุ่มธุรกิจของ ORIX ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 6.9 ล้านล้านเยนในรอบปีบัญชี 2552 (เมษายน 2551-มีนาคม 2552) เหลือ 6.0 ล้านล้านเยน ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2555 (เมษายน 2554-มีนาคม 2555) การลดลงของสินทรัพย์สะท้อนถึงความตั้งใจของ ORIX ที่จะลดขนาดสินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงด้านลบของเศรษฐกิจสูง สัดส่วนสินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลงจาก 26.7% ของสินทรัพย์รวมตามกลุ่มธุรกิจในรอบปีบัญชี 2552 เป็น 22.8% ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2555 และ 17.9% ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2556 (เมษายน 2555-มีนาคม 2556) ในขณะเดียวกัน ORIX พยายามที่จะพัฒนาความสามารถในการทำกำไรจากกลุ่มธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ในรอบปีบัญชี 2556 กลุ่มธุรกิจสำหรับลูกค้ารายย่อยและกลุ่มธุรกิจต่างประเทศซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ 2 ลำดับแรกของสินทรัพย์รวมตามกลุ่มธุรกิจได้สร้างผลกำไรในสัดส่วนที่สูงสุดใน 2 ลำดับแรกของกำไรรวมตามกลุ่มธุรกิจ คือ 21.9% ของกำไรรวมตามกลุ่มธุรกิจที่ 197.3 พันล้านเยนสำหรับกลุ่มธุรกิจสำหรับลูกค้ารายย่อย และ 26.7% สำหรับกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจลีสซิ่งแบบเช่าบำรุงก็เป็นกลุ่มธุรกิจที่ให้ผลกำไรดีเช่นกัน โดยสามารถสร้างผลกำไรเป็นสัดส่วนถึง 18.3% ของกำไรรวมตามกลุ่มธุรกิจแม้จะมีสินทรัพย์เพียง 9.7% ของสินทรัพย์รวมตามกลุ่มธุรกิจก็ตาม สินทรัพย์รวมตามกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกเป็น 6.2 ล้านล้านเยน ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2556 โดยเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจสำหรับลูกค้ารายย่อยและกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ

การกระจายความหลากหลายของธุรกิจช่วยให้ ORIX สามารถหลีกเลี่ยงการมีผลประกอบการขาดทุนได้แม้ในช่วงวิกฤตทางการเงินในปี 2551 โดยในรอบปีบัญชี 2552 แม้ว่าผลประกอบการทางการเงินจะลดลงอย่างมาก แต่ ORIX ก็ยังคงมีกำไร โดยมีกำไรสุทธิที่ 20.7 พันล้านเยน ลดลงจาก 168.5 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2551 กำไรสุทธิของบริษัทฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจาก 36.5 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2553 เป็น 111.9 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2556 ORIX ดำรงนโยบายด้านสภาพคล่องที่เข้มงวดโดยการรักษาเงินสดและวงเงินกู้แบบผูกพันการให้กู้ที่สามารถใช้ได้อย่างเพียงพอต่อการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นที่สามารถซื้อขายหรือโอนเปลี่ยนมือได้ โดยอัตราส่วนเงินสดและวงเงินกู้ต่อหนี้สินระยะสั้นที่สามารถซื้อขายหรือโอนเปลี่ยนมือได้อยู่ที่ระดับ 295% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 โดยใกล้เคียงกับระดับ 289% ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2555 ทั้งนี้ อัตราส่วนดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นจาก 204% ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2554

แนวโน้มที่ดีในอุตสาหกรรมลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์และการให้เช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานในประเทศไทยทำให้ ORIX มุ่งเน้นขยายธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้นโดยผ่านบริษัทลูกคือบริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง บริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้เช่าแบบลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในประเทศไทย บริษัทก่อตั้งในปี 2521 โดยความร่วมมือระหว่าง ORIX บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จากัด (มหาชน) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลายครั้งเนื่องจากการควบรวมและการเข้าครอบงำกิจการของผู้ถือหุ้นฝ่ายไทย ในปี 2553 ORIX ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจในประเทศไทยโดยการควบรวมบริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งและบริษัทที่ให้บริการเช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานคือ บริษัท โอริกซ์ ออโต้ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และเปลี่ยนเป็นนิติบุคคลที่มีการจัดตั้งขึ้นใหม่ แต่ยังคงใช้ชื่อบริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งเป็นชื่อของนิติบุคคลใหม่นั้น ปัจจุบัน ORIX ถือหุ้น 96.6% ในบริษัท ส่วนหุ้นที่เหลือ 3.4% ถือโดยบริษัทกรุงเทพประกันภัย

ธุรกิจหลักที่บริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งให้บริการประกอบด้วยธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์และธุรกิจการให้เช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงาน จากข้อมูลที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบบัญชี ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2556 บริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งมีสินทรัพย์ดำเนินงานซึ่งประกอบไปด้วยสินเชื่อหรือลูกหนี้จากธุรกิจลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์และสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิจากธุรกิจการให้เช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานจำนวน 13,403 ล้านบาท โดยสินทรัพย์จากธุรกิจลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์คิดเป็นประมาณ 62% ของสินทรัพย์ดำเนินงานรวม สินทรัพย์ดำเนินงานเพิ่มขึ้นมากในรอบปีบัญชี 2556 โดยเพิ่มขึ้น 39% จากรอบปีบัญชี 2555 บริษัทมีกำไรสุทธิ 432 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2556 เพิ่มขึ้นจาก 234 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2555 คุณภาพสินเชื่อลีสซิ่งสำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ORIX ได้แสดงความตั้งใจในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทไทยโอริกซ์ลีสซิ่งทั้งในด้านธุรกิจและด้านการเงิน ซึ่งรวมทั้งการให้ความรู้ในด้านธุรกิจ แนวปฏิบัติในการบริหารจัดการความเสี่ยงและการดำเนินงาน รวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งนี้ การสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากบริษัทแม่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต

บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด (TOLC)
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TOLC14NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AA+
TOLC154A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 AA+
TOLC16NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AA+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ