แท็ก
เครดิต
กรุงเทพ--9 พ.ย.--ทริส
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2539 บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิสจำกัด (ทริส) ประกาศเครดิตวาระสำหรับหุ้นกู้ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ คาเธ่ย์ทรัสต์จำกัด โดยหุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านบาท กำหนดไถ่ถอนปี 2543 อันดับเครดิตลดลงเป็น BBB- จากระดับเดิม BBB และหุ้นกู้ด้อยสิทธิมูลค่า 700 ล้านบาท กำหนดไถ่ถอนปี 2544 อันดับเครดิตลดลงเป็น BB+ จากระดับเดิม BBB- นอกจากนี้ ยังให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านบาทที่บริษัทจะออกเพิ่มเติมในระดับ BBB- ทั้งนี้เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลงภายใต้สภาพธุรกิจการเงินของประเทศที่มีการแข่งขันและความผันผวนมากขึ้น แม้ว่าผู้บริหารของบริษัทจะเริ่มดำเนินการตามแผนการปรับปรุงต่าง ๆ แต่ทริสคาดว่าคงจะต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขันและดำรงสถานะธุรกิจเช่นเดิมได้ อย่างไรก็ตาม การบริหารสภาพคล่องที่เพียงพอและการดำเนินกิจการที่ยาวนานของบริษัทภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดจากทางการยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยรองรับความเสี่ยงของบริษัทได้
หลังจากการประเมินผลอันดับเครดิตของบริษัทครั้งก่อน ผลการดำเนินงานของบริษัทลดลงจากที่เคยประมาณการไว้ โดยเฉพาะในครึ่งหลังของปีก่อน ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ของบริษัทเพียง 0.3% ในปี 2538 เป็นผลมาจากการลดลงของกำไรส่วนต่างของดอกเบี้ยและผลขาดทุนจากการดำเนินงานในธุรกิจหลักทรัพย์ รวมทั้งการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่ลดลงในปีที่ผ่านมา ผู้บริหารได้เร่งปรับปรุงการดำเนินงานโดยเฉพาะในธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันและการหารายได้ของบริษัทให้เพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรของบริษัทจะดีขึ้นแต่ในเวลาไม่รวดเร็วเนื่องจากสินเชื่อที่หยุดรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในจำนวนพอสมควร และโอกาสในการขยายสินเชื่อขนาดปานกลางที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทลดน้อยลงจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น สินทรัพย์รวมของบริษัทเติบโตน้อยกว่าในอดีตและต่ำกว่าที่ประมาณการไว้เนื่องจากสภาพธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ในครึ่งปีแรกของปี 2539 สินทรัพย์ของบริษัทขยายตัวจากสิ้นปี 2538 เพียง3% โครงสร้างของสินเชื่อคล้ายโครงสร้างเดิมและกระจายตัวอยู่ในหลายกลุ่มธรุกิจ สัดส่วนสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ยังคงอยู่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม ในขณะที่สินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่องตามนโยบายที่มุ่งเน้นฐานลูกค้าหลักทรัพย์ประเภทสถาบันมากขึ้น สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทด้อยลงบ้าง สินเชื่อที่หยุดรับรู้รายได้จำนวน 1,301 ล้านบาทซึ่งคิดเป็น 5.57% ของสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยจัดอยู่ในระดับสูงสินเชื่อมีปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและสำรองเผื่อหนี้สูญอย่างเพียงพอ จำนวนเงินสำรองกันไว้เผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 265ล้านบาทอยู่ในระดับที่ค่อนข้างจำกัดต่อสินทรัพย์จัดชั้น ความพยายามในการเพิ่มระดับเงินสำรองเผื่อหนี้มีปัญหาคงต้องใช้เวลาเนื่องจากความสามารถในการทำกำไรในระดับต่ำและความจำกัดในด้านการระดมเงินกองทุน แผนการเร่งรัดสินเชื่อมีปัญหาและการเพิ่มความรัดกุมในการอนุมัติสินเชื่อน่าจะมีส่วนช่วยให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทดีขึ้นเรื่อย ๆ
การบริหารสภาพคล่องโดยรวมของบริษัทอยู่ในระดับเพียงพอ เงินกู้ยืมจากประชาชนยังคงเป็นแหล่งเงินทุนหลักที่สำคัญ ในขณะที่มีการใช้ตราสารประเภทหุ้นกู้เพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนระยะยาว ณ เดือนมิถุนายน 2539 ระดับเงินกองทุนของบริษัทอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง การเพิ่มทุนจดทะเบียนเมื่อเร็ว ๆ นี้ช่วยให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์เพิ่มขึ้นในระดับประมาณ 7% อย่างไรก็ตามโครงสร้างเงินกองทุนยังไม่แข็งแกร่งเท่าใดนักเนื่องจากความสามารถในการทำกำไรและการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ที่จำกัดของบริษัท--จบ--
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2539 บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิสจำกัด (ทริส) ประกาศเครดิตวาระสำหรับหุ้นกู้ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ คาเธ่ย์ทรัสต์จำกัด โดยหุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านบาท กำหนดไถ่ถอนปี 2543 อันดับเครดิตลดลงเป็น BBB- จากระดับเดิม BBB และหุ้นกู้ด้อยสิทธิมูลค่า 700 ล้านบาท กำหนดไถ่ถอนปี 2544 อันดับเครดิตลดลงเป็น BB+ จากระดับเดิม BBB- นอกจากนี้ ยังให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านบาทที่บริษัทจะออกเพิ่มเติมในระดับ BBB- ทั้งนี้เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลงภายใต้สภาพธุรกิจการเงินของประเทศที่มีการแข่งขันและความผันผวนมากขึ้น แม้ว่าผู้บริหารของบริษัทจะเริ่มดำเนินการตามแผนการปรับปรุงต่าง ๆ แต่ทริสคาดว่าคงจะต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขันและดำรงสถานะธุรกิจเช่นเดิมได้ อย่างไรก็ตาม การบริหารสภาพคล่องที่เพียงพอและการดำเนินกิจการที่ยาวนานของบริษัทภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดจากทางการยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยรองรับความเสี่ยงของบริษัทได้
หลังจากการประเมินผลอันดับเครดิตของบริษัทครั้งก่อน ผลการดำเนินงานของบริษัทลดลงจากที่เคยประมาณการไว้ โดยเฉพาะในครึ่งหลังของปีก่อน ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ของบริษัทเพียง 0.3% ในปี 2538 เป็นผลมาจากการลดลงของกำไรส่วนต่างของดอกเบี้ยและผลขาดทุนจากการดำเนินงานในธุรกิจหลักทรัพย์ รวมทั้งการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่ลดลงในปีที่ผ่านมา ผู้บริหารได้เร่งปรับปรุงการดำเนินงานโดยเฉพาะในธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันและการหารายได้ของบริษัทให้เพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรของบริษัทจะดีขึ้นแต่ในเวลาไม่รวดเร็วเนื่องจากสินเชื่อที่หยุดรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในจำนวนพอสมควร และโอกาสในการขยายสินเชื่อขนาดปานกลางที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทลดน้อยลงจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น สินทรัพย์รวมของบริษัทเติบโตน้อยกว่าในอดีตและต่ำกว่าที่ประมาณการไว้เนื่องจากสภาพธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ในครึ่งปีแรกของปี 2539 สินทรัพย์ของบริษัทขยายตัวจากสิ้นปี 2538 เพียง3% โครงสร้างของสินเชื่อคล้ายโครงสร้างเดิมและกระจายตัวอยู่ในหลายกลุ่มธรุกิจ สัดส่วนสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ยังคงอยู่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม ในขณะที่สินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่องตามนโยบายที่มุ่งเน้นฐานลูกค้าหลักทรัพย์ประเภทสถาบันมากขึ้น สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทด้อยลงบ้าง สินเชื่อที่หยุดรับรู้รายได้จำนวน 1,301 ล้านบาทซึ่งคิดเป็น 5.57% ของสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยจัดอยู่ในระดับสูงสินเชื่อมีปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและสำรองเผื่อหนี้สูญอย่างเพียงพอ จำนวนเงินสำรองกันไว้เผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 265ล้านบาทอยู่ในระดับที่ค่อนข้างจำกัดต่อสินทรัพย์จัดชั้น ความพยายามในการเพิ่มระดับเงินสำรองเผื่อหนี้มีปัญหาคงต้องใช้เวลาเนื่องจากความสามารถในการทำกำไรในระดับต่ำและความจำกัดในด้านการระดมเงินกองทุน แผนการเร่งรัดสินเชื่อมีปัญหาและการเพิ่มความรัดกุมในการอนุมัติสินเชื่อน่าจะมีส่วนช่วยให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทดีขึ้นเรื่อย ๆ
การบริหารสภาพคล่องโดยรวมของบริษัทอยู่ในระดับเพียงพอ เงินกู้ยืมจากประชาชนยังคงเป็นแหล่งเงินทุนหลักที่สำคัญ ในขณะที่มีการใช้ตราสารประเภทหุ้นกู้เพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนระยะยาว ณ เดือนมิถุนายน 2539 ระดับเงินกองทุนของบริษัทอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง การเพิ่มทุนจดทะเบียนเมื่อเร็ว ๆ นี้ช่วยให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์เพิ่มขึ้นในระดับประมาณ 7% อย่างไรก็ตามโครงสร้างเงินกองทุนยังไม่แข็งแกร่งเท่าใดนักเนื่องจากความสามารถในการทำกำไรและการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ที่จำกัดของบริษัท--จบ--