ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม “บล. โนมูระ พัฒนสิน” ที่ “BBB+/Stable”

ข่าวทั่วไป Friday September 20, 2013 13:02 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และมีแนวทางการบริหารงานที่ระมัดระวัง ตลอดจนการมีฐานเงินทุนขนาดใหญ่ และการได้รับการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ จากกลุ่มโนมูระ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงแผนการขยายสาขาในต่างจังหวัดโดยมีความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากความผันผวนของธุรกิจหลักทรัพย์และแรงกดดันด้านอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายหลังการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ความเสี่ยงจากการที่บริษัทมีการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ค่อนข้างมากก็มีผลต่ออันดับเครดิตด้วยเช่นกัน ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงรักษาแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่ระมัดระวังและได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มโนมูระต่อไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดให้แข็งแกร่งจากการขยายสาขา อีกทั้งจะยังคงไว้ซึ่งระบบจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อใช้ควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์

บล. โนมูระ พัฒนสิน ก่อตั้งในปี 2513 ปัจจุบันมีกลุ่มโนมูระซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 38% นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่ได้จากการใช้ชื่อโนมูระแล้ว การเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโนมูระยังช่วยให้บริษัทได้รับยอดการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ต่อเนื่องจากเครือข่ายของโนมูระทั่วโลกด้วย มูลค่าซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติเหล่านี้คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 10% ของลูกค้านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทในกลุ่มยังมีความร่วมมือระหว่างกันในด้านงานวิจัยซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลงานวิจัยของบริษัทด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำสัญญาให้บริการทางการเงินในด้านต่าง ๆ กับบริษัทหลายแห่งในกลุ่ม ซึ่งรายได้จากการให้บริการตามสัญญาเหล่านี้นับว่าเป็นสัดส่วนสำคัญของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการของบริษัท

ก่อนหน้านี้บริษัทมีสำนักงานสาขาเพียงไม่กี่แห่งโดยสาขาทั้งหมดตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ แต่ในปี 2554 ที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกด้วยความร่วมมือกับ ธพว. ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของการขยายสาขาคือการดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนในต่างจังหวัดเพื่อขยายธุรกิจตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนของบริษัท ตลอดจนเป็นการขยายฐานลูกค้ารายย่อยในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งหวังที่จะมีโอกาสให้บริการด้านวาณิชธนกิจแก่ลูกค้าของ ธพว. ด้วย โดยกลยุทธ์ดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการขยายธุรกิจในครั้งนี้ แต่เนื่องจากต้นทุนในการเปิดสาขาใหม่และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีค่อนข้างต่ำ ความเสี่ยงที่บริษัทจะได้รับความเสียหายจากการขยายสาขาจึงมีไม่มาก

บริษัทมีประวัติผลงานที่ดีเยี่ยมในการควบคุมความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ กล่าวคือ แทบจะไม่มีความสูญเสียจากการให้สินเชื่อดังกล่าวเลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะหลังนี้อาจเป็นประเด็นที่ต้องระมัดระวังในแง่การบริหารจัดการความเสี่ยง ยอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ได้เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.0 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 มาอยู่ที่ระดับ 4.9 พันล้านบาท ณ กลางปี 2556 โดยในช่วงต้นปี 2556 สูงขึ้นเกินกว่า 6 พันล้านบาท ยอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท ณ กลางปี 2556 นี้คิดเป็นกว่า 10% ของยอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งอุตสาหกรรม เทียบกับส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3% การขยายตัวของการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์นี้ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงสามารถควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตในส่วนนี้ได้ต่อไปโดยใช้เกณฑ์การเรียกหลักประกันเพิ่มและการบังคับขายที่เข้มงวด รวมทั้งยังคงนโยบายการกำหนดเกณฑ์ของหลักประกันและการอนุมัติวงเงินที่เคร่งครัด

บริษัทมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนไม่มากนักเนื่องจากบริษัทไม่มีนโยบายการลงทุนเพื่อบัญชีของบริษัทในลักษณะเพื่อการเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม บริษัทเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจบริการค้าตราสารหนี้ ซึ่งอาจทำให้มีความเสี่ยงจากความผันผวนด้านราคาของตราสารหนี้อยู่บ้าง

บริษัทได้ทำการเพิ่มทุนเป็นจำนวนเงิน 1,434 ล้านบาท โดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในเดือนมิถุนายน 2556 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเพิ่มจาก 3.7 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 มาเป็น 5.3 พันล้านบาท ณ กลางปี 2556 ซึ่งทำให้บริษัทมีฐานทุนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรม บริษัทมีแผนจะใช้เงินเพิ่มทุนนี้เพื่อการขยายธุรกิจ เช่น การขยายสาขา ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริการค้าตราสารหนี้ การลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท บริษัทมีวงเงินสินเชื่อรวมที่สูงพอสมควรจากสถาบันการเงินหลายแห่งซึ่งเพียงพอที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจ รวมไปถึงตอบสนองต่อความต้องการสภาพคล่องในขณะใดขณะหนึ่งของบริษัทได้ บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่ออีก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัทร่วมแห่งหนึ่งในกลุ่มโนมูระซึ่งบริษัทได้เบิกใช้ไปในเดือนมกราคม 2556 เพื่อขยายธุรกิจการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์

การเปิดเสรีค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมาได้ทำให้อัตราค่าธรรมเนียมทั้งอุตสาหกรรมลดลงอย่างต่อเนื่อง อัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทก็ลดลงเช่นกัน แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอยู่เล็กน้อย บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไปและมีความสามารถในการทำกำไรในระดับที่เทียบเคียงได้กับคู่แข่งที่มีขนาดใกล้เคียงกัน สภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยได้ช่วยให้บริษัทมีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ที่ 277 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไปในระดับที่สูงมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 61% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ 7% ตามที่ทางการกำหนด

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ