ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม “บล. คันทรี่ กรุ๊ป” ที่ “BBB-/Stable”

ข่าวทั่วไป Friday September 20, 2013 16:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงพื้นฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งของบริษัทและรายได้ประจำที่ค่อนข้างสม่ำเสมอจากเงินลงทุนใน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากประวัติผลงานที่ยังไม่ยาวนานเพียงพอของคณะผู้บริหารชุดปัจจุบันในการดำรงผลการดำเนินงานและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในตำแหน่งสำคัญที่อาจจะเกิดขึ้น ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ การจัดอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความผันผวนของธุรกิจหลักทรัพย์และแรงกดดันด้านอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายหลังการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของบริษัทยังทำให้บริษัทมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในตลาดซึ่งมีผลต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงในคณะผู้บริหารที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2556 แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจได้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรอยู่บ้างจากขนาดของธุรกิจที่อาจจะหดตัวลง

บล. คันทรี่กรุ๊ป จัดได้ว่าเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย บริษัทก่อตั้งในปี 2509 ภายใต้ชื่อ บริษัท แอ๊ดคินซัน เอ็นเตอร์ไปรส์ จำกัด ความเปลี่ยนแปลงในด้านผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อตระกูลเตชะอุบลเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนตระกูลคิ้วคชาในปี 2549 ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 ตระกูลเตชะอุบลถือหุ้น 17.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท

นอกเหนือจากการให้บริการด้านต่าง ๆ ในธุรกิจหลักทรัพย์แล้ว บล. คันทรี่กรุ๊ป ยังมีเงินลงทุนใน บลจ. เอ็มเอฟซี โดยถือหุ้น 24.9% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดด้วย ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน บลจ. เอ็มเอฟซี นี้ถือเป็นแหล่งรายได้ประจำที่ค่อนข้างสม่ำเสมอแหล่งหนึ่งของบริษัท โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 15% ของกำไรก่อนภาษีของบริษัทในปี 2555 นอกจากนี้ บริษัทยังมี บลจ. เอ็มเอฟซี เป็นลูกค้าสถาบันในประเทศรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อีกด้วย

ส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทอยู่ในระดับ 5%-6% ตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2555 ซึ่งทำให้บริษัทจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายเดือนมานี้ ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทมีแนวโน้มลดลง โดยลงมาอยู่ที่ 3.6% ในเดือนสิงหาคม 2556 (อันดับ 13 ของอุตสาหกรรม) จากที่เคยสูงถึง 6.4% เมื่อเดือนมีนาคม 2556 (อันดับ 2) นอกจากนี้บริษัทยังมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในคณะผู้บริหารที่อาจเกิดขึ้นด้วย กล่าวคือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรายหนึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการซื้อหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์อีกแห่งหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็งทางธุรกิจตลอดจนผลประกอบการของบริษัทเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจสูญเสียพนักงานและลูกค้าให้กับบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงในคณะผู้บริหารของบริษัทจากเหตุการณ์นี้คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556

การลดลงของส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทจะยังไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทในทันที ทั้งนี้ เนื่องจากอันดับเครดิตที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ได้พิจารณาถึงความไม่แน่นอนที่ผู้บริหารชุดปัจจุบันจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในระดับสูงอย่างต่อเนื่องในระยะยาวเอาไว้ได้ด้วยแล้ว ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้ง อันดับเครดิตองค์กรของ บล. คันทรี่กรุ๊ป ในปัจจุบันจะยังอยู่ที่ระดับเดิมได้อยู่แม้ว่าบริษัทอาจจะสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปบ้าง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทอาจเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่คณะผู้บริหารชุดใหม่ไม่สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของบริษัทไว้ได้ หรือไม่สามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจได้ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า

แม้ว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้สุทธิของบริษัทจะลดลงบ้างจาก 81% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 75% ในปี 2555 แต่อัตราส่วนดังกล่าวก็ยังอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ระดับ 60% การที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงอาจทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงในสภาวะตลาดและอุตสาหกรรมตลอดจนการแข่งขันมากกว่าคู่แข่งได้

บริษัทมีความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาหลักทรัพย์อยู่บ้างจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของบริษัททั้งในส่วนของการเก็งกำไรรายวันและการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว ในด้านความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์นั้น บริษัทมียอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์คงค้างจำนวน 588 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ซึ่งคิดเป็น 17% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท และคิดเป็น 1.3% ของการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งอุตสาหกรรม

ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 3.4 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ฐานทุนขนาดใหญ่สามารถช่วยรองรับความเสี่ยงด้านเครดิตจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์และความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาหลักทรัพย์จากการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของบริษัทได้ บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไปในระดับที่สูงมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 106% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ 7% ตามที่ทางการกำหนดอยู่มาก

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ