ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกัน “บ. ทรู คอร์ปอเรชั่น” ที่ระดับ “BBB” และ “BBB-” จัดอันดับหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาทที่ระดับ “BBB-” และคงแนวโน้ม “Negative”

ข่าวทั่วไป Tuesday October 22, 2013 16:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB-” เช่นเดียวกันด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Negative” หรือ “ลบ” ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจะนำเงินส่วนใหญ่ที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้และขยายธุรกิจ อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมที่มีเทคโนโลยีโครงข่ายสื่อสารที่หลากหลาย ตลอดจนความแข็งแกร่งทางการตลาดในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) และธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก รวมทั้งความคาดหวังว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจะยังคงให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลัก รวมถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และภาระหนี้จำนวนมากของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงความเสี่ยงว่าผลประกอบการและโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอาจไม่ปรับตัวดีขึ้นตามประมาณการเนื่องจากการลงทุนที่สูงในกลุ่มธุรกิจทรูโมบายและการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทไม่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นภายในปี 2557 หรือโครงสร้างเงินทุนของบริษัทไม่ปรับตัวดีขึ้นภายในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตจะได้รับการปรับในเชิงบวกหากบริษัทสามารถจัดตั้งกองทุนได้สำเร็จ และผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามประมาณการ

บริษัททรู คอร์ปอเรชั่นก่อตั้งในปี 2533 และมีธุรกิจหลัก 3 กลุ่มซึ่งประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจทรูออนไลน์ (TrueOnline) ซึ่งให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง กลุ่มธุรกิจทรูโมบาย (True Mobile) ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และกลุ่มธุรกิจทรูวิชั่นส์ (TrueVisions) ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก บริษัทมีรายได้ในปี 2555 อยู่ที่ 8.94 หมื่นล้านบาท โดยธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้บริษัทในสัดส่วน 26% 63% และ 11% ตามลำดับ ในขณะที่สัดส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 60% 29% และ 12% ตามลำดับ

บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยสถานะทางการตลาดที่เข้มแข็งของกลุ่มทรูออนไลน์สะท้อนจากสัดส่วนทางการตลาดทั่วประเทศจากรายได้การให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงประมาณ 39% และในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 68% บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุด รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลำดับที่ 3 ของประเทศด้วย ณ เดือนมิถุนายน 2556 กลุ่มธุรกิจทรูวิชั่นส์มีลูกค้าที่เป็นสมาชิกรายเดือนประมาณ 733,000 ราย และที่ไม่เป็นสมาชิกรายเดือนประมาณ 1.5 ล้านราย ส่วนกลุ่มทรูโมบายมีสัดส่วนรายได้ทางการตลาดจากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ประมาณ 16% ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายจะให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ณ เดือนสิงหาคม 2556 เครือเจริญโภคภัณฑ์มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทประมาณ 63%

สถานะทางการเงินของบริษัทในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้ง บริษัทมีรายได้ที่เติบโตในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 และเต็มปี 2555 อยู่ที่ 9.7% และ 24.2% ตามลำดับ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มทรูโมบายเพื่อสร้างความได้เปรียบในการเป็นผู้ให้บริการ 3จีรายแรก รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในกลุ่มทรูโมบายและกลุ่มทรูวิชั่นส์ทำให้อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย/รายได้) ของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 19.3% ในครึ่งแรกของปี 2556 เปรียบเทียบกับ 18.7% ในปี 2555 และ 23.8% ในปี 2554 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่สูงมากที่ระดับ 91.5% ณ เดือนมิถุนายน 2556

ในช่วง 3 ปีข้างหน้า สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 9.4 พันล้านบาทถึง 1.11 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 6% ต่อปี โดยรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน และบริการด้านข้อมูลในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก รายได้ของบริษัทมีความเสี่ยงที่จะลดลงได้ในช่วงปลายปี 2557 เมื่อระยะเวลา 1 ปีสำหรับการให้บริการของทรูมูฟหมดอายุลง ทั้งนี้ กลุ่มทรูโมบายอาจไม่สามารถโอนย้ายผู้ใช้บริการภายใต้โครงข่าย 2จี มาได้หมดและอาจทำให้รายได้ของกลุ่มทรูโมบายลดลงประมาณ 5% ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้ง อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ของบริษัทน่าจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงในปี 2556-2557 และน่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2558 ไปอยู่ที่ระดับประมาณ 25% หลังจากที่โครงข่าย 2จี หยุดให้บริการและผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ภายใต้โครงข่าย 3จี ซึ่งมีต้นทุนใบอนุญาตที่ต่ำกว่า อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าค่าใช้จ่ายของทรูโมบายจะลดลงมาอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของรายได้ ทั้งนี้ บริษัทน่าจะสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ประมาณ 1-1.2 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2556-2557 จากนั้นกระแสเงินสดจากการดำเนินงานน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1.8-1.9 หมื่นล้านบาทต่อปีในปี 2558-2559 เนื่องจากอัตราส่วนกำไรที่ดีขึ้น ในส่วนของค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนซึ่งรวมถึงใบอนุญาต 3จี นั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.8-2 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า

อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถปรับโครงสร้างเงินทุนให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญภายในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยในเดือนตุลาคม 2556 ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้บริษัทจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าประมาณ 6-8 หมื่นล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะได้รับเงินสดประมาณ 4.4 หมื่นล้านบาทหลังหักเงินลงทุนประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่ากองทุน โดยเงินสดที่ได้รับคาดว่าจะนำไปใช้ชำระคืนหนี้ ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4 หมื่นล้านบาทจากการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์ ทั้งนี้ บริษัทจะมีข้อผูกพันด้านรายจ่ายและการโอนสิทธิในการรับรายได้ให้แก่กองทุนประมาณ 5 พันล้านบาทต่อปีเป็นระยะเวลาประมาณ 12-14 ปี ทริสเรทติ้งถือว่ามูลค่าปัจจุบันของรายจ่ายผูกพันดังกล่าวประมาณ 4 หมื่นล้านบาทเป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย ทริสเรทติ้งมองว่าการจัดตั้งกองทุนจะช่วยให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 67% และช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้แก่บริษัทในการระดมทุนในอนาคต อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทต่ำกว่าอันดับเครดิตของบริษัทอยู่ 1 ขั้นเนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนหนี้ที่มีหลักประกันต่อสินทรัพย์ในระดับสูง

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TRUE13NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 BBB-
TRUE144B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 BBB-
TRUE16OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB-
TRUE174A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 7,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB-
TRUE177A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 11,213 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2558 BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2556  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ