ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 วงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท “ธ. ธนชาต” ที่ระดับ “A/Stable” แทนที่หุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาทชุดเดิม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 6, 2014 09:12 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาทของ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ชุดใหม่ใช้แทนอันดับเครดิตหุ้นกู้เดิมที่ได้รับการจัดอันดับเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์ที่จะเพิ่มวงเงินรวมของหุ้นกู้เป็น 13,000 ล้านบาท จากเดิม 10,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารที่ระดับ “AA-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิและหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “A+” และ “A” ตามลำดับด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ อันดับเครดิตยังสะท้อนระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้นและการสนับสนุนจาก Bank of Nova Scotia (BNS) ซึ่งเป็นพันธมิตรจากประเทศแคนาดาที่ถือหุ้น 49% ในธนาคารธนชาตผ่าน Scotia Netherlands Holdings B.V. อย่างไรก็ตาม อันดับเดรดิตถูกจำกัดโดยคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและความไม่แน่นอนทางการเมืองในปัจจุบัน

อันดับเครดิต “A” ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK197A และ TBANK247A) สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิในการรับชำระหนี้และความเสี่ยงในการเลื่อนชำระดอกเบี้ย หุ้นกู้ดังกล่าวมีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และสะสมผลตอบแทน ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2562 และ 2567 โดยธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนก่อนครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับอนุมัติจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้ถือตราสารประเภทนี้จะมีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงิน รวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกัน และผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน ของธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยหากธนาคารมีผลขาดทุนในงวด 6 เดือนก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ย และไม่มีการจ่ายเงินปันผลในระยะเวลา 6 เดือนก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม จำนวนดอกเบี้ยที่จะจ่ายคืนนั้นเป็นดอกเบี้ยสะสมที่ยังมิได้ชำระ

อันดับเครดิต “A” หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ชุดใหม่ สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารประเภทนี้มีคุณสมบัติสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามเกณฑ์ของ ธปท. เพื่อนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ซึ่งจะสามารถนับได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจาก ธปท. แล้ว ตราสารดังกล่าวมีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ยได้ และสามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนด ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวจะถูกแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนบทบาทของการเป็นธนาคารหลักในกลุ่มธนชาต โดยคาดว่าธนาคารจะได้ประโยชน์จากการผสานกำลังในกลุ่มเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการตลาดด้านสินเชื่อ รวมทั้งเพื่อขยายฐานเงินรับฝาก แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อมิให้เสื่อมถอยลงไป อีกทั้งสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฐานเงินทุนรวมทั้งเพิ่มปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้มากยิ่งขึ้นได้

ธนาคารธนชาตเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นธนาคารในสัดส่วน 50.96% ธนาคารมีสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 6 โดย ณ เดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อที่ 7.8% และเงินรับฝากที่ 6.5% ธนาคารเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด ณ เดือนธันวาคม 2556 ประมาณ 24% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีสินเชื่อเช่าซื้อทั้งสิ้น 436.8 พันล้านบาท คิดเป็น 55% ของสินเชื่อรวม พอร์ตสินเชื่อของธนาคารมีการกระจายตัวในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดีขึ้น ภายหลังการซื้อกิจการธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2553 ทั้งนี้ ณ เดือนมีนาคม 2557 สินเชื่อของธนาคารประกอบด้วยสินเชื่อรายย่อย (69% ของสินเชื่อรวม) สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (19%) สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (10%) และสินเชื่ออื่น (2%)

ธนาคารมีความเสี่ยงด้านเครดิตอย่างมากเนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างรวดเร็วในปี 2555 นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งเน้นสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อเพิ่มส่วนต่างดอกเบี้ยให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจปัจจุบัน ธนาคารมีการอนุมัติสินเชื่อใหม่ด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้น โดยสินเชื่อขยายตัวเพียง 5% ในปี 2556 เทียบกับ 19% ในปี 2555 ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีสินเชื่อรวมดอกเบี้ยค้างรับทั้งสิ้น 790.1 พันล้านบาท ลดลง 0.1% จากเดือนธันวาคม 2556

สถานะทางเครดิตของธนาคารถูกลดทอนโดยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ได้แก่ สินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน สินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และสินทรัพย์รอการขาย) ที่มีในระดับสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสินเชื่อที่รับโอนมาจากธนาคารนครหลวงไทย คุณภาพสินเชื่อในปัจจุบันเริ่มเสื่อมถอยลงจากภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นจาก 32.5 พันล้านบาทในปี 2555 เป็น 35.3 พันล้านบาทในปี 2556 และ 36.1 พันล้านบาทในเดือนมีนาคม 2557 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 4.57% ณ เดือนมีนาคม 2557 เทียบกับ 4.30% ในปี 2555 ธนาคารมีสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดย ณ เดือนมีนาคม 2557 ปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารคิดเป็น 85% ของสินเชื่อด้อยคุณภาพ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงอ่อนแอ ธนาคารยังคงเผชิญความท้าทายต่อเนื่อง 2 ประการ อันได้แก่ การควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และการมีปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้มากยิ่งขึ้น

ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารอยู่ในระดับที่อ่อนแอกว่าธนาคารในกลุ่มเดียวกัน ในปี 2556 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 15.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการบันทึกกำไรจากการขายธุรกิจประกันชีวิต ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 1.52% ในปี 2556 แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม สำหรับไตรมาสแรกของปี 2557 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ย (ยังไม่ได้ปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ที่ 0.26% เทียบกับ 0.30% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ธนาคารมีเงินกองทุนที่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ณ เดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนรวมที่ 9.25% และ 14.00% ตามลำดับ ซึ่งแม้ว่าอัตราส่วนของธนาคารจะสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท. ที่ 6.00% และ 8.50% แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TBANK155A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
TBANK194A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
TBANK196A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
TBANK204A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
TBANK227A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 8,497 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
TBANK22OA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 4,018.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
TBANK197A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A
TBANK247A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ