ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. การบินไทย” ที่ ระดับ “A+” และจัดอันดับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทที่ระดับ “A+”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 15, 2014 09:56 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A+” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Negative” หรือ “ลบ” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดไถ่ถอนและสำรองเพื่อการลงทุน โดยอันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทซึ่งสะท้อนถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในฐานะที่บริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจและสายการบินแห่งชาติ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งและทันการณ์จากรัฐบาลโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่บริษัทเผชิญกับปัญหาด้านการเงิน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากการมีภาระหนี้ในระดับสูง ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ต้นทุนในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ และความผันผวนของราคาน้ำมัน ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงของอุตสาหกรรมการบินและอัตรากำไรของบริษัทที่ปรับลง อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการประกอบการของบริษัทยังอ่อนแออย่างต่อเนื่องหรือรัฐบาลปรับลดการช่วยเหลือ ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ได้หากบริษัทสามารถปรับปรุงอัตราการทำกำไรจากการดำเนินงานและความสามารถในการชำระหนี้ได้

บริษัทการบินไทยเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซียซึ่งให้บริการการบินเต็มรูปแบบและให้บริการสายการบินคุณภาพระดับกลางผ่านบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ “ไทยสมายล์” นอกจากนี้ บริษัทยังถือหุ้นในสัดส่วน 39.2% ใน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำรายสำคัญในประเทศไทยด้วย โดย ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ณ สนามบินปลายทาง 68 แห่งทั่วโลก ด้วยเที่ยวบินจำนวน 647 เที่ยวต่อสัปดาห์ และให้บริการเส้นทางการบินในประเทศ ณ สนามบินปลายทาง 10 แห่ง ด้วยเที่ยวบินจำนวน 357 เที่ยวต่อสัปดาห์

บริษัทมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกระทรวงการคลังมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 51% และธนาคารออมสินยังถือหุ้นในบริษัทอีก 2.1% ด้วย ในขณะที่หุ้นของบริษัทในสัดส่วน 15.1% ที่ถือโดยกองทุนวายุภักษ์นั้นจัดเป็นการถือหุ้นโดยผู้ลงทุนภาคเอกชนแม้กองทุนวายุภักษ์จะได้รับการจัดตั้งโดยกระทรวงการคลังเพื่อลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยลดลง 10.3% เป็น 17.56 ล้านคนเนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมืองภายในประเทศซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่ออัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของบริษัท โดยอัตราส่วนดังกล่าวปรับลดลงสู่ระดับ 68.3% เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 75.2% ในช่วงเดียวกันของปี 2556 อันเป็นผลจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารของบริษัทที่ลดลงอย่างมากถึง 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาและการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นจากสายการบินต้นทุนต่ำ ทั้งนี้ คาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองยุติลง แม้ว่าขณะนี้จะยังมีการบังคับใช้กฎอัยการศึกอยู่ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2557 ก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 6.1% สู่ระดับ 2.18 ล้านคนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องโดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงจากระดับ 19% ในปี 2552 สู่ระดับ 9.6% ในปี 2556 และอยู่ที่ระดับ 4.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในประเทศ เช่น อุทกภัยครั้งใหญ่ และความขัดแย้งทางการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนาน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงและการแข่งขันที่รุนแรงจากทั้งสายการบินเต็มรูปแบบและสายการบินต้นทุนต่ำซึ่งกดดันต่อการปรับเพิ่มราคา อีกทั้งบริษัทยังมีต้นทุนในการดำเนินงานในสัดส่วนที่สูงและที่ผ่านมาไม่สามารถปรับลดได้มากนัก จึงส่งผลให้ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงรวมถึงสภาพคล่องที่ตึงตัว

อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทปรับตัวลดลงจาก 2.9 เท่าในปี 2556 เป็น 0.9 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมก็ปรับลดลงจากระดับ 10.7% ในปี 2556 สู่ระดับ 3.5% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ทางด้านสภาพคล่อง บริษัทมีเงินสดอยู่ที่ระดับ 18,625 ล้านบาท ณ สิ้นดือนกันยายน 2557 และวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายจำนวน 7,000 ล้านบาทจากธนาคาร โดยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าบริษัทจะต้องชำระคืนเงินกู้จำนวน 28,733 ล้านบาท ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะบริหารสภาพคล่องอย่างรอบคอบเพื่อให้มีแหล่งเงินสำรองสำหรับปิดความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องให้ได้

ภาระหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด โดยเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2554 และคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะปานกลาง โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 66% ในปี 2553 สู่ระดับที่สูงกว่า 70% ในช่วงระหว่างปี 2554-2556 และเพิ่มเป็น 82.3% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่ใช้ไปในการจัดหาเครื่องบิน โดยในระหว่างปี 2554-2556 บริษัทได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 100,000 ล้านบาท และมีแผนจะลงทุนอีกประมาณ 20,000 ล้านบาทในปี 2557 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทรับมอบเครื่องบินจำนวน 41 ลำ โดย 18 ลำเป็นการเช่าทางการเงิน ส่วนที่เหลือเป็นการเช่าดำเนินงาน ในช่วงปี 2558-2561 บริษัทมีแผนรับมอบเครื่องบินจำนวน 22 ลำ โดย 10 ลำเป็นการเช่าทางการเงิน ในช่วง 4 ปีข้างหน้า บริษัทมีแผนลงทุนจำนวน 80,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีความจำเป็นต้องลงทุนเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฝูงบิน ทั้งนี้ การใช้งานเครื่องบินใหม่จะเกิดประโยชน์หลายประการ เช่น ปริมาณการใช้น้ำมันและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีหนี้สินที่สูงเกินมาตรฐานสำหรับระดับอันดับเครดิตในปัจจุบัน ซึ่งทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะมีแผนลดภาระหนี้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า

หลังจากการทำรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ก็ได้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้น โดยรัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนคือการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน 7 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทการบินไทยด้วย ซึ่งรัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และให้เข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจเพื่อดูแลแผนการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ บริษัทจะสรุปแผนการปฏิรูปธุรกิจในเดือนมกราคม 2558 และเริ่มดำเนินการตามแผนโดยทันที คาดว่าแผนดังกล่าวจะช่วยปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทให้ดีขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการทำกำไร ทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าของแผนการปรับโครงสร้างของบริษัท ซึ่งอันดับเครดิตของบริษัทขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน รวมถึงความช่วยเหลือทางการเงินในกรณีพิเศษ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากการปรับโครงสร้างของบริษัทไม่เป็นไปตามที่คาดไว้หรือใช้เวลาในการดำเนินงานมากกว่าที่คาดไว้

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
THAI155A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
THAI165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
THAI16DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
THAI17OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
THAI185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,555 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI185B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,445 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI185C: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI188A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
THAI192A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
THAI192B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
THAI19OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
THAI208A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
THAI212A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
THAI215A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 833 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
THAI215B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,167 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 256 A+
THAI222A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 256 A+
THAI22OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 256 A+
THAI238A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
THAI242A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+
THAI243A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ