ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท “บ. บางจากปิโตรเลียม” ที่ระดับ “A-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 20, 2015 18:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาทของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-” ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้เดิม และเพื่อการขยายธุรกิจของบริษัท อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท ตลอดจนการผสานธุรกิจการตลาดเข้ากับธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน การเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน และการขยายธุรกิจไปสู่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการขยายกิจการไปสู่ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่อยู่ระหว่างดำเนินการ รวมถึงความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าการกลั่น (GRM) ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในช่องทางการค้าปลีกน้ำมันได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะสร้างรายได้ที่แน่นอนให้แก่บริษัทและจะช่วยลดความผันผวนของธุรกิจน้ำมันและธุรกิจการตลาดของบริษัทลงได้บางส่วน
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท ประกอบด้วยการลดลงของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง GRM ของบริษัทต่ำกว่าที่ประมาณการไว้อย่างมีนัยสำคัญ และการที่บริษัทใช้เงินกู้สำหรับการลงทุนขนาดใหญ่เกินกว่าที่ประมาณการไว้ ในขณะที่ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่ออันดับเครดิตของบริษัท ได้แก่ การที่กระแสเงินสดของบริษัทได้รับผลกระทบไม่มากจากราคาน้ำมันที่ผันผวนเนื่องจากบริษัทมีธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น
บริษัทบางจากปิโตรเลียมก่อตั้งในปี 2528 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2536 บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีกำลังการกลั่น 120,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 11% ของกำลังการกลั่นทั้งหมดภายในประเทศ บริษัทยังดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้า “บางจาก” ด้วย โดย ณ สิ้นปี 2557 บริษัทมีสถานีบริการน้ำมันจำนวน 1,070 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 118 เมกะวัตต์ ณ เดือนกันยายน 2557 ผู้ถือหุ้นของบริษัทประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) 27.22% กระทรวงการคลัง 9.98% และส่วนที่เหลืออีก 62.80% ถือโดยนักลงทุนทั่วไป
สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทเกิดจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ และการผสานธุรกิจการตลาดเข้ากับธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ของบริษัทมีความสามารถในการกลั่นน้ำมันดิบได้หลากหลายชนิดและได้ผลิตภัณฑ์ที่ให้กำไรสูงในสัดส่วนที่สูง เช่น น้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยาน ในปี 2557 ปริมาณน้ำมันดิบเข้ากลั่นลดลงเหลือ 86,500 บาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ 99,300 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันตามแผนในเดือนพฤษภาคม 2557 สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันที่บริษัทกลั่นได้ในปี 2557 ประกอบไปด้วยน้ำมันดีเซล 49% น้ำมันเบนซิน 20% น้ำมันเตา 17% และน้ำมันอากาศยาน 10% โดยบริษัทมีค่าการกลั่นพื้นฐาน (Base GRM) ที่ 7.0 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลสำหรับปี 2557

แม้ว่าโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทจะหยุดซ่อมบำรุง แต่ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายผ่านสถานีบริการของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้น 3% จาก 245 ล้านลิตรต่อเดือนในปี 2556 เป็น 251 ล้านลิตรต่อเดือนในปี 2557 โดยน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายผ่านสถานีบริการของบริษัทคิดเป็น 60% ของยอดจำหน่ายรวมของธุรกิจการตลาดของบริษัท ส่วนที่เหลืออีก 40% เป็นการจำหน่ายโดยตรงให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม บริษัทให้ความสำคัญและเป็นที่ยอมรับทางด้านการให้บริการน้ำมันในกลุ่มแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 15.1% ในปี 2557 จาก 14.8% ในปี 2556 นับเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นั้น บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 118 เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยบริษัทได้รับส่วนเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้า (Adder) จำนวน 8 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้าง EBITDA จากโรงไฟฟ้าได้ปีละประมาณ 2,700-2,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20%-25% ของประมาณการ EBITDA รวมของบริษัท สำหรับปี 2557 ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สร้าง EBITDA ให้แก่บริษัทเป็นจำนวน 2,572 ล้านบาท ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลง

ในปี 2557 บริษัทมีรายได้ 183,016 ล้านบาท ลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากราคาน้ำมันลดลง ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทลดลงไม่มากเมื่อเทียบกับการปรับตัวลงของราคาน้ำมันเนื่องจากรายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยชดเชยผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลง ราคาน้ำมันได้ลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ส่งผลให้บริษัทขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงประมาณ 44% จากราคาเฉลี่ยในเดือนมิถุนายน 2557 ที่ 108 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เหลือราคาเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2557 ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายลดลงจาก 4.1% ในปี 2556 เป็น 1.8% ในปี 2557 ในขณะที่ EBITDA ลดลงจาก 9,463 ล้านบาทในปี 2556 เหลือ 5,162 ล้านบาทในปี 2557 อย่างไรก็ตาม การขาดทุนจากสต็อกน้ำมันไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทเนื่องจากบริษัทมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง โครงสร้างเงินทุนยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดย ณ สิ้นปี 2557 บริษัทมีเงินกู้รวม 31,203 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับ 48% ในช่วงปี 2558-2560 สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมี EBITDA เกินกว่า 8,000 ล้านบาทต่อปีบนสมมติฐานว่าราคาน้ำมันจะลดลงไม่มากจากระดับปัจจุบัน โดยมีปริมาณน้ำมันดิบเข้ากลั่น 100,000-110,000 บาร์เรลต่อวัน มีค่าการกลั่นพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายส่วนทุนและการลงทุนในระหว่างปี2558-2560 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 36,000 ล้านบาท โดยประมาณ 24,500 ล้านบาทจะใช้สำหรับการลงทุนในโครงการปัจจุบันซึ่งรวมการปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่น ขยายเครือข่ายธุรกิจการตลาด และเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานไบโอดีเซล ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 11,500 ล้านบาทนั้นสำรองไว้สำหรับการลงทุนใหม่ ๆ เช่น การลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โรงไฟฟ้า และโรงงานเอทานอล ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจาก EBITDA และแผนการลงทุนแล้ว คาดว่าสัดส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงที่มีการลงทุนใหม่ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าสัดส่วนนี้จะอยู่ในระดับไม่เกิน 50% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BCP174A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A-
BCP194A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
BCP194B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
BCP214A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A-
BCP224A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A-
BCP244A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2573 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ