แท็ก
เครดิต
กรุงเทพ--5 มี.ค.--ทริส
บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) ประกาศเครดิต พินิจของสถาบันการเงินในธุรกิจการเงินไทย โดยมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในทาง "ลบ" ทั้งนี้สถาบันการเงินของไทยอยู่ภายใต้สภาวะการประกอบธุรกิจที่ยากลำบากตลอดช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสภาพดังกล่าว คือ ความตกต่ำของภาคธุรกิจหลักทรัพย์ ของประเทศ การแข่งขันที่สูงภายในระบบการเงิน สภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย และนโยบาย การเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้มงวดมากขึ้น สถาบันการเงินได้รับผลกระทบใน ทางลบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามโครงสร้าง ธุรกิจและพื้นฐานความแข็งแกร่งของแต่ละสถาบัน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มีผลการดำเนิน งานที่ตกต่ำลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์และรายได้ที่เกี่ยว ข้องกับธุรกิจหลักทรัพย์ที่ลดลง ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการวางนโยบายการ ปล่อยสินเชื่อ ของสถาบันการเงินให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อควบคุมปริมาณธุรกรรม ที่ไม่ส่งผลสนับสนุนต่อการขยายตัวของประเทศ นโยบายดังกล่าวได้ชะลออัตราการขยาย สินเชื่อลง และส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการแข่งขัน การขยายตัวในระดับ สูงของเงินให้สินเชื่อ และการลงทุนในหลักทรัพย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดปัญหา แก่สถาบันการเงินขึ้น เมื่อสภาพเศรษฐกิจในประเทศตกต่ำ และมีปัญหาเกิดขึ้นในภาคธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่มากขึ้น และการลดลง ของมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ได้ส่งผลในทางลบต่อรายได้ และฐานเงินทุนของสถาบัน การเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินจำเป็นต้องตั้งสำรองเผื่อการขาดทุนจากความเสียหาย ดังกล่าว นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากจากประชาชนที่สูงเกินกว่า 100% เป็นตัวบ่งชี้ว่าสถาบันการเงินได้มีการขยายสินเชื่อมากกว่าที่ควรจะเป็นด้วยการใช้เงินกู้ยืม จากสถาบันการเงินไทยทั้งจากตลาดการเงินภายในประเทศและต่างประเทศการใช้เงินทุน ลักษณะนี้ทำให้สถาบันการเงินไทยมีความล่อแหลมต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยและ ปริมาณเงินที่มีอยู่ในตลาดเงิน ซึ่งค่อนข้างแปรปรวน รวมทั้งมีความเสี่ยงจากอัตราแลก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แม้ว่าจะอยู่ภายในขอบเขตที่ทางการกำหนดก็ตาม ผลการ ดำเนินงานที่ด้อยลงทั้งในด้านความสามารถในการทำกำไร และคุณภาพสินทรัพย์ทำให้ความ เชื่อมั่นของประชาชนในระบบการเงินไทยลดต่ำลง และการที่ผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้เรียก เงินกลับคืนทำให้สภาพคล่องในระบบตึงตัวและได้ก่อให้เกิดปัญหาแก่สถาบันการเงินบางราย
ในอดีตธุรกิจการเงินไทยอยู่ในสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบการ ทั้งนี้ เนื่องจากการมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงแม้ว่าจะมีเรื่องการแข่งขันและความผันผวนที่ สูงของภาคธุรกิจหลักทรัพย์ก็ตาม นอกจากนี้ การกำกับดูแลที่เข้มงวดและการสนับสนุน จากทางการได้ส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางการเงินและการคุ้มครองธุรกิจการเงิน มาตร การของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การกำหนดให้สถาบันการเงินตั้ง สำรองสำหรับสินทรัพย์ จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐานน่าจะช่วยเสริมความมีเสถียรภาพของธุรกิจ การเงินให้แข็งแกร่งต่อไปในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ความยุ่งยากในระบบการเงิน ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะแรงกดดันในด้านสภาพคล่อง และการหารายได้ของสถาบันการเงินได้ ก่อให้เกิดประเด็นพิจารณาในด้านสถานภาพทางการเงินระยะสั้นของธุรกิจการเงินประกอบ กับการเปิดเสรีที่มากขึ้นของระบบการเงินไทย และการที่เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในทางลบของธุรกิจ อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ สถาบันการเงินที่ทริสจัดทำอันดับเครดิต ขณะนี้ทริสอยู่ในระหว่างการทบทวนปัจจัยพื้นฐาน และระดับความเสี่ยงร่วมของธุรกิจการเงินไทยเพื่อประเมินถึงผลกระทบที่จะมีต่ออันดับของ สถาบันการเงินเหล่านี้--จบ--
บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) ประกาศเครดิต พินิจของสถาบันการเงินในธุรกิจการเงินไทย โดยมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในทาง "ลบ" ทั้งนี้สถาบันการเงินของไทยอยู่ภายใต้สภาวะการประกอบธุรกิจที่ยากลำบากตลอดช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสภาพดังกล่าว คือ ความตกต่ำของภาคธุรกิจหลักทรัพย์ ของประเทศ การแข่งขันที่สูงภายในระบบการเงิน สภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย และนโยบาย การเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้มงวดมากขึ้น สถาบันการเงินได้รับผลกระทบใน ทางลบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามโครงสร้าง ธุรกิจและพื้นฐานความแข็งแกร่งของแต่ละสถาบัน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มีผลการดำเนิน งานที่ตกต่ำลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์และรายได้ที่เกี่ยว ข้องกับธุรกิจหลักทรัพย์ที่ลดลง ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการวางนโยบายการ ปล่อยสินเชื่อ ของสถาบันการเงินให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อควบคุมปริมาณธุรกรรม ที่ไม่ส่งผลสนับสนุนต่อการขยายตัวของประเทศ นโยบายดังกล่าวได้ชะลออัตราการขยาย สินเชื่อลง และส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการแข่งขัน การขยายตัวในระดับ สูงของเงินให้สินเชื่อ และการลงทุนในหลักทรัพย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดปัญหา แก่สถาบันการเงินขึ้น เมื่อสภาพเศรษฐกิจในประเทศตกต่ำ และมีปัญหาเกิดขึ้นในภาคธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่มากขึ้น และการลดลง ของมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ได้ส่งผลในทางลบต่อรายได้ และฐานเงินทุนของสถาบัน การเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินจำเป็นต้องตั้งสำรองเผื่อการขาดทุนจากความเสียหาย ดังกล่าว นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากจากประชาชนที่สูงเกินกว่า 100% เป็นตัวบ่งชี้ว่าสถาบันการเงินได้มีการขยายสินเชื่อมากกว่าที่ควรจะเป็นด้วยการใช้เงินกู้ยืม จากสถาบันการเงินไทยทั้งจากตลาดการเงินภายในประเทศและต่างประเทศการใช้เงินทุน ลักษณะนี้ทำให้สถาบันการเงินไทยมีความล่อแหลมต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยและ ปริมาณเงินที่มีอยู่ในตลาดเงิน ซึ่งค่อนข้างแปรปรวน รวมทั้งมีความเสี่ยงจากอัตราแลก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แม้ว่าจะอยู่ภายในขอบเขตที่ทางการกำหนดก็ตาม ผลการ ดำเนินงานที่ด้อยลงทั้งในด้านความสามารถในการทำกำไร และคุณภาพสินทรัพย์ทำให้ความ เชื่อมั่นของประชาชนในระบบการเงินไทยลดต่ำลง และการที่ผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้เรียก เงินกลับคืนทำให้สภาพคล่องในระบบตึงตัวและได้ก่อให้เกิดปัญหาแก่สถาบันการเงินบางราย
ในอดีตธุรกิจการเงินไทยอยู่ในสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบการ ทั้งนี้ เนื่องจากการมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงแม้ว่าจะมีเรื่องการแข่งขันและความผันผวนที่ สูงของภาคธุรกิจหลักทรัพย์ก็ตาม นอกจากนี้ การกำกับดูแลที่เข้มงวดและการสนับสนุน จากทางการได้ส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางการเงินและการคุ้มครองธุรกิจการเงิน มาตร การของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การกำหนดให้สถาบันการเงินตั้ง สำรองสำหรับสินทรัพย์ จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐานน่าจะช่วยเสริมความมีเสถียรภาพของธุรกิจ การเงินให้แข็งแกร่งต่อไปในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ความยุ่งยากในระบบการเงิน ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะแรงกดดันในด้านสภาพคล่อง และการหารายได้ของสถาบันการเงินได้ ก่อให้เกิดประเด็นพิจารณาในด้านสถานภาพทางการเงินระยะสั้นของธุรกิจการเงินประกอบ กับการเปิดเสรีที่มากขึ้นของระบบการเงินไทย และการที่เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในทางลบของธุรกิจ อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ สถาบันการเงินที่ทริสจัดทำอันดับเครดิต ขณะนี้ทริสอยู่ในระหว่างการทบทวนปัจจัยพื้นฐาน และระดับความเสี่ยงร่วมของธุรกิจการเงินไทยเพื่อประเมินถึงผลกระทบที่จะมีต่ออันดับของ สถาบันการเงินเหล่านี้--จบ--