ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ธ. ธนชาต” ที่ “AA-”, หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ “A+”, และหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 2, 2015 13:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิและหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “A+” และ “A” ตามลำดับ โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคาร อีกทั้งยังสะท้อนการสนับสนุนจากพันธมิตรแห่งประเทศแคนาดา คือ Bank of Nova Scotia (BNS) ซึ่งถือหุ้น 49% ในธนาคารธนชาตโดยผ่าน Scotia Netherlands Holdings B.V. ด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเดรดิตถูกลดทอนจากระดับความสามารถในการทำกำไรของธนาคารที่ค่อนข้างต่ำและคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอแต่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและความซบเซาของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจจำกัดการเติบโตและบั่นทอนระดับความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร

อันดับเครดิต “A” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารดังกล่าวนี้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2

หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK24DA) มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และสามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวสามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคาร ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK25NA) มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และไม่สามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวสามารถตัดเป็นหนี้สูญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคาร ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะสามารถดำรงสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจหลักไว้ได้ และคาดว่าคุณภาพสินเชื่อของธนาคารจะอยู่ภายใต้การควบคุมและไม่เสื่อมถอยลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

สถานะเครดิตของธนาคารอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากความสามารถในการทำกำไรของธนาคารลดลงอย่างมากอันเป็นผลจากพอร์ตสินเชื่อที่หดตัวลงและต้นทุนด้านเครดิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สถานะเครดิตในทางบวกยังไม่น่าเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้เนื่องจากแนวโน้มสินเชื่อรถยนต์ที่มีจำกัดรวมทั้งภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงชะลอตัว

ธนาคารธนชาตเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นธนาคารธนชาตในสัดส่วน 50.96% ธนาคารมีขนาดสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 6 ของธนาคารพาณิชย์ไทย ส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับสินเชื่อและเงินรับฝากของธนาคาร ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ลดลงมาอยู่ที่ 6.5% และ 5.9% ตามลำดับ จากระดับ 8.7% และ 7.7% ในปี 2553 ธนาคารเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด ณ สิ้นปี 2557 ประมาณ 22% พอร์ตสินเชื่อของธนาคารในปัจจุบันมีการกระจายตัวมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ภายหลังจากการซื้อกิจการธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ ณ เดือนมิถุนายน 2558 พอร์ตสินเชื่อของธนาคารประกอบด้วยสินเชื่อรายย่อย (67% ของสินเชื่อรวม) และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (33%)

พอร์ตสินเชื่อของธนาคารหดตัวลงเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและยอดขายรถยนต์ที่ยังคงซบเซา โดยสินเชื่อรวมดอกเบี้ยค้างรับของธนาคาร ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 718.6 พันล้านบาท ลดลง 5% จากเดือนธันวาคม 2557 สินเชื่อรถยนต์ของธนาคารซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 53% ของสินเชื่อรวมมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 ภายหลังจากโครงการช่วยเหลือผู้ซื้อรถยนต์คันแรกซึ่งดำเนินการโดยรัฐบาลชุดก่อนได้สิ้นสุดลง โดยสินเชื่อรถยนต์มีปริมาณลดลง 9% ในปี 2557 และลดลงอีก 5% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ทั้งนี้ ธนาคารมีแผนขยายสินเชื่อในกลุ่มอื่นโดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อทดแทนการลดลงของสินเชื่อรถยนต์

สถานะเครดิตของธนาคารลดทอนลงจากการมีปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพที่อยู่ในระดับสูงซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสินเชื่อที่รับโอนมาจากธนาคารนครหลวงไทย อย่างไรก็ตาม ธนาคารปรับปรุงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ ตัดหนี้สูญ และจำหน่ายหนี้ด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ ธนาคารยังพิจารณาอนุมัติสินเชื่อใหม่ด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันมิให้คุณภาพสินเชื่อเสื่อมถอยลงไปอีก ทั้งนี้ สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารลดลงมาอยู่ที่ 28.4 พันล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2558 โดยลดลงจาก 36.9 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 3.9% ณ เดือนมิถุนายน 2558 เทียบกับ 6.1% ในปี 2553 อย่างไรก็ตาม อัตราการเกิดหนี้ด้อยคุณภาพอาจจะยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว ธนาคารได้เพิ่มปริมาณสำรองหนี้สูญส่วนเกินอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งไว้สำหรับรองรับความเสียหายจากสินเชื่อ โดย ณ เดือนมิถุนายน 2558 ธนาคารมีสำรองหนี้สงสัยจะสูญคิดเป็น 150% ของสำรองพึงกันตามเกณฑ์ของ ธปท. อย่างไรก็ตาม สำรองหนี้สูญของธนาคารยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

ธนาคารมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2557 จำนวน 10.2 พันล้านบาท ลดลง 35% จากปีก่อน อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของธนาคารในปี 2556 ได้รวมรายการพิเศษ 2 รายการไว้ด้วย ได้แก่ กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยซึ่งทำธุรกิจประกันชีวิตและการตั้งสำรองหนี้สูญเป็นพิเศษ โดยหากไม่รวมรายการดังกล่าวแล้ว กำไรสุทธิในปี 2557 จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากกำไรสุทธิในปี 2556 กำไรสุทธิสำหรับงวดครึ่งแรกของปี 2558 มีจำนวน 5.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ระดับความสามารถในการทำกำไรของธนาคารยังคงต่ำกว่าธนาคารอื่น โดยอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของธนาคารอยู่ที่ 1.0% ในปี 2557 และ 0.6% (ยังไม่ได้ปรับเป็นรายปี) สำหรับงวดครึ่งแรกของปี 2558 ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยเอื้ออำนวย ระดับความสามารถในการทำกำไรของธนาคารอาจลดลงได้อีกเนื่องจากพอร์ตสินเชื่อหดตัวหรือมีต้นทุนด้านเครดิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากคุณภาพพอร์ตสินเชื่อเสื่อมถอยลง

เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารมีสถานะที่ดีขึ้นและเพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนรวมของธนาคาร ณ เดือนมิถุนายน 2558 เท่ากับ 11.35% และ 17.19% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท. ที่ระดับ 6.00% และ 8.50% ทั้งนี้ ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมแต่ยังคงมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK)
อันดับเครดิตองค์กร:	                                                                                                                                       AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TBANK227A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิ 8,497 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565	                                                                       A+
TBANK22OA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิ 4,018.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565	                                                                       A+
TBANK24DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 13,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567      A
TBANK25NA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568        A
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                                                                                                                                       Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ