ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “บ. พรีเชียส ชิปปิ้ง” ที่ “BBB” และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ “BBB-” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 13, 2015 16:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานในการดำเนินธุรกิจที่ยาวนานและสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง (Dry-bulk Shipping) ตลอดจนความสามารถในการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากภาวะความผันผวนของอุตสาหกรรมและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมทั้งภาวะอุปทานส่วนเกินในอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าเทกอง อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่อ่อนตัวลงของบริษัท และแผนการลงทุนสำหรับซื้อเรือใหม่ด้วย ทั้งนี้ อันดับเครดิตตราสารหนี้มีระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้นซึ่งสะท้อนถึงสถานะด้อยสิทธิของหุ้นกู้เมื่อเปรียบเทียบกับเงินกู้จากธนาคารที่มีหลักประกัน โดย ณ เดือนกันยายน 2558 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้มีหลักประกันต่อสินทรัพย์รวม 42.5%

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าแห้งเทกองและการบริหารจัดการด้านการเงินที่ดี การปรับลดอายุกองเรือคาดว่าจะช่วยสนับสนุนความได้เปรียบด้านต้นทุนของบริษัท อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับขึ้นหากบริษัทมีผลประกอบการและสภาพคล่องดีกว่าที่คาด โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงกว่า 25% อย่างต่อเนื่อง อันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงในกรณีที่ปัจจัยลบในอุตสาหกรรมยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลให้ผลประกอบการและสภาพคล่องของบริษัทอ่อนตัวลง

บริษัทพรีเชียส ชิพปิ้ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2532 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2536 บริษัทเป็นเจ้าของและประกอบธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองแบบไม่ประจำเส้นทาง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2558 บริษัทมีเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองจำนวน 47 ลำ ซึ่งมีขนาดระวางบรรทุกรวม 1.68 ล้านเดทเวทตัน (Deadweight Tonnage -- DWT) ประกอบด้วยเรือขนาดเล็กแบบ Small Handy 18 ลำ เรือขนาด Handymax 12 ลำ เรือขนส่งปูนซีเมนต์ 4 ลำ เรือขนาด Supramax 9 ลำ และเรือขนาด Ultramax 4 ลำ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 นางสาวนิชิต้า ชาห์ และกลุ่มเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้น 43.29% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และยังมีนายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 8.43%

สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทสะท้อนถึงการมีประวัติที่ยาวนานและขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง และความสามารถในการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน ผลการดำเนินงานของบริษัทค่อนข้างผันผวนในช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องและความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในอุตสาหกรรมการขนส่ง ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index -- BDI) ที่ใช้เป็นดัชนีอ้างอิงค่าระวางเรือ (Time Charter Rate -- TC) ลดลงจากระดับค่าเฉลี่ย 2,758 จุดในปี 2553 มาอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 746 จุดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ในขณะที่ค่าระวางเรือเฉลี่ยของบริษัทลดลงจาก 12,304 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำเรือมาอยู่ที่ 6,373 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำเรือ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยของบริษัทลดลงในอัตราที่ช้ากว่า BDI จากการที่บริษัทมีสัญญาเช่าระยะยาวในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนในด้านต้นทุน บริษัทสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินเรือให้อยู่ในระดับเฉลี่ย 4,481-4,725 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำเรือในช่วงเดียวกัน ซึ่งเป็นระดับที่บริษัทระบุว่าต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ผลกระทบจากอัตราค่าระวางที่ตกต่ำลงทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทลดลง ทั้งนี้ อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทลดลงจาก 59.68% ในปี 2553 เหลือ 19.96% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ฐานะการเงินของบริษัทยังได้รับแรงกดดันจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากแผนการลงทุนเพื่อปรับลดอายุกองเรือของบริษัท โดยภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 221.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 เป็น 384.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 โครงสร้างเงินทุนของบริษัทยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้จากการมีฐานทุนที่แข็งแรงและการเพิ่มทุนจำนวน 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายน 2558 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ 43.53% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสภาพคล่องที่อ่อนแอลง อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% มาตั้งแต่ปี 2556

ในอนาคต บริษัทจะยังคงดำเนินตามแผนปรับลดอายุของกองเรืออย่างต่อเนื่อง บริษัทมีแผนจะขายเรือเก่าและมีประสิทธิภาพต่ำออกไป 20 ลำและรับเรือใหม่ที่สั่งต่อไว้ 21 ลำ ซึ่งจะทำให้อายุเฉลี่ยของกองเรือของบริษัทลดลงจาก 10 ปีมาอยู่ที่ประมาณ 5 ปี นอกจากนี้ การปรับกองเรือจะเพิ่มขนาดและประสิทธิภาพของกองเรือของบริษัทโดยรวมด้วย ในระหว่างปี 2558-2561 ทริสเรทติ้งคาดหมายว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างน้อย 7%-10% ต่อปีจากการที่บริษัทมีขนาดกองเรือที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งจากการที่เศรษฐกิจโลกค่อย ๆ ฟื้นตัว และการปรับตัวที่ดีขึ้นของอุปสงค์และอุปทานในตลาด ทั้งนี้ ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงาน จึงคาดหมายว่าอัตรากำไรของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นโดยจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า 30%

ในระยะ 12 เดือนข้างหน้าคาดว่าอุตสาหกรรมเรือสินค้าแห้งเทกองจะยังคงอยู่ในภาวะอ่อนไหว ในส่วนของบริษัทนั้นก็ยังต้องการเงินทุนเพื่อใช้ในการรับเรือที่สั่งต่อไว้และใช้ชำระหนี้ที่ครบกำหนด บริษัทมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนรวม 400-460 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้าซึ่งทำให้บริษัทต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติม จึงคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงปี 2558-2559 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวไม่ควรอยู่ในระดับสูงกว่า 50% อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) (PSL)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ