ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม “บ. พรีบิลท์” ที่ “BBB-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 4, 2016 13:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานในการก่อสร้างโครงการอาคารสูงของบริษัทที่น่าพอใจ รวมถึงการคงความสามารถในการทำกำไร และสถานะทางการเงินที่ยอมรับได้ ทว่าจุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในระดับสูงจากการมีลูกค้าน้อยราย ตลอดจนธรรมชาติที่ผันผวนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การแข่งขันที่รุนแรง และภาระหนี้ที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจหลักได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีภาระหนี้สูงขึ้น แต่ก็น่าจะสามารถบริหารจัดการได้แม้ว่าบริษัทจะมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นในระยะ 3 ปีข้างหน้าก็ตาม อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าอยู่ที่ระดับ 8% และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 55% หรืออัตราส่วนเงินกู้ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.2 เท่าในช่วงปี 2558-2561

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทประสบความสำเร็จในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีฐานรายได้สูงขึ้นและความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน อันดับเครดิต/และหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากบริษัทสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน หรือในกรณีที่รายได้และความสามารถในการทำกำไรลดลงหรือการล้มเหลวในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นเหตุให้ระดับภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้นและโครงสร้างทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลง

บริษัทพรีบิลท์ก่อตั้งในปี 2538 เพื่อดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วไปโดยเน้นงานก่อสร้างอาคารสูงสำหรับกลุ่มลูกค้าภาคเอกชน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2548 โดยมีกลุ่มตระกูลเจริญตาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 26% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ณ เดือนพฤษภาคม 2558 บริษัทขยายธุรกิจไปสู่การผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในปี 2547 โดยลงทุนผ่าน บริษัท พีซีเอ็มคอนสตรัคชั่น แมททีเรียล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บริษัทพีซีเอ็มคอนสตรัคชั่น แมททีเรียล เป็นผู้ผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูป ในปี 2552 บริษัทขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยจัดตั้ง บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเน้นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์ ตั้งแต่ปี 2553 บริษัทรับรู้รายได้จากทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการและจากคอนโดมิเนียม 4 โครงการ

อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่น่าพอใจของบริษัทในการก่อสร้างอาคารสูงสำหรับพักอาศัยและการพาณิชย์ โดยบริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดที่มีทำเลที่ตั้งดี นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถก่อสร้างโรงงานและงานสาธารณูปโภคอื่น ๆ รวมทั้งงานวางระบบและออกแบบด้วย บริษัทขยายไปสู่ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เพื่อเพิ่มรายได้และกำไร อย่างไรก็ดี รายได้จากธุรกิจทั้ง 2 ประเภทยังคงมีสัดส่วนค่อนข้างต่ำ แต่ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก โดยคิดเป็นสัดส่วน 80%-90% ของรายได้รวมของบริษัทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการคงความสามารถในการทำกำไรแม้ว่าบริษัทจะเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งนี้ บริษัทก่อสร้างโดยใช้ระบบแบบหล่อคอนกรีตสำเร็จ (Pre-cast Concrete System) ซึ่งทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนและระยะเวลาก่อสร้างได้ โดยทั้ง 2 ประการดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จ บริษัทคงอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ประมาณ 10%-20% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 13.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 แม้ว่าจะมีรายได้ลดลงก็ตาม ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 12.2% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สูงกว่าก็ช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการพึ่งพารายได้ที่สำคัญจากลูกค้ารายใหญ่จำนวนน้อยราย โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากลูกค้า 3 ราย คือ มูลนิธิวัดธรรมกาย กลุ่มบริษัท ควอลิตี้เฮ้า จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแต่ละรายสร้างรายได้ให้แก่บริษัทคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20%-30% ของรายได้รวมต่อปี ทั้งนี้ ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวจากการมีลูกค้าน้อยรายส่งผลลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวถูกลดทอนลงเนื่องจากความเสี่ยงของการไม่ได้รับชำระเงินจากลูกค้าหลักอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

นอกจากนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงสถานะทางการเงินของบริษัทที่ยอมรับได้ด้วย โดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ประมาณ 9% ระหว่างปี 2555-2556 โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 28% ณ สิ้นปี 2557 และเพิ่มขึ้นเป็น 31% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 จากการที่บริษัทลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งได้แก่โครงการ TEMPO Grand Sathorn-Wuttakard อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ดังกล่าวอยู่ในระดับที่ยอมรับได้เมื่อพิจารณาถึงสภาพคล่องของบริษัทที่เพียงพอและนโยบายการเงินที่ระมัดระวัง

ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากธรรมชาติที่ผันผวนและการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลต่อระดับรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัท โดยรายได้ของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ลดลงถึง 36.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้ โดยบริษัทมีรายได้ 3,050 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 บริษัทมีมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบจำนวน 7,800 ล้านบาท โดยมูลค่างานดังกล่าวจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ที่ระดับ 25% ของรายได้ของบริษัทในปี 2558 ที่ระดับ 85% ในปี 2559 ที่ระดับ 50% ในปี 2560 และที่ระดับ 20% ในปี 2561 ตามสมมติฐานของทริสเรทติ้ง

ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาทในปี 2558 และในระหว่างปี 2559-2561 คาดว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมาจากการโอนคอนโดมิเนียมในโครงการ TEMPO Grand Sathorn-Wuttakard อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 5%-6% เป็น 8% ในช่วงปี 2559-2561 เงินทุนจากการดำเนินงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกันจากระดับ 200-300 ล้านบาทต่อปีในปี 2557-2558 เป็น 450 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2559-2561 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ดังกล่าวน่าจะอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ โดยคาดว่าบริษัทจะรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้ต่ำกว่า 55% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า สภาพคล่องซึ่งสะท้อนได้จากอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมและอัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอ่อนตัวลง ทั้งนี้ ในระหว่างปี 2558-2561 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 25% ในขณะที่อัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 7 เท่า

บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) (PREB)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html






เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ