ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม “CGIF” ที่ “AAA/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 11, 2016 09:00 —ทริส เรตติ้ง

แนวโน้มอันดับเครดิตที่ “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่า CGIF จะขยายธุรกิจภายใต้วัตถุประสงค์และนโยบายการบริหารความเสี่ยงตามที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ อันดับเครดิตของ CGIF อาจได้รับแรงกดดันในทางลบได้หากระดับการให้การสนับสนุนของกลุ่มผู้ร่วมทุนปรับลดลง หรือหากความเสียหายจากการค้ำประกันทำให้ฐานะทางการเงินของ CGIF อ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ

CGIF ก่อตั้งในปี 2553 ภายใต้การริเริ่มของประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ร่วมกับประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และธนาคารพัฒนาเอเซีย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ CGIF ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการค้ำประกันความเสี่ยงด้านเครดิตแก่ผู้ออกตราสารหนี้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดเพื่อส่งเสริมให้ผู้ออกตราสารหนี้สามารถระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาคได้ด้วยสกุลเงินท้องถิ่นและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและความไม่สมดุลของระยะเวลาเงินกู้ ธนาคารพัฒนาเอเซียทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) และบริหารเงินกองทุนทั้งหมดของ CGIF ทั้งนี้ CGIF ดำเนินธุรกิจด้วยเงินกองทุนเท่านั้นโดยไม่สามารถกู้ยืมเงินจากแหล่งอื่น ๆ ได้ ยกเว้นเฉพาะเพื่อการบริหารสภาพคล่องเท่านั้น

สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ CGIF สะท้อนถึงโครงสร้างทางธุรกิจที่เหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจภายใต้วัตถุประสงค์และหน้าที่ขององค์การ โดย CGIF มีความได้เปรียบในการแข่งขันด้านการค้ำประกันตราสารหนี้ที่เสนอขายระหว่างประเทศหรือเสนอขายในประเทศที่มีส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจากความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Spreads) ในระดับสูง

CGIF มีนโยบายค้ำประกันตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตเทียบเท่ากับอันดับเครดิตสากล (International-scale Ratings) ในระดับ “BB-” หรือดีกว่า ส่วนในการลงทุนนั้น CGIF มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตสากลตั้งแต่ระดับ “AA-” ขึ้นไปในตราสารที่มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป

ทริสเรทติ้งมองว่าวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและหน้าที่ของ CGIF มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์และสร้างผลประโยชน์ร่วมให้แก่กลุ่มประเทศ ASEAN+3 ทั้งในด้านการส่งเสริมธุรกรรมในตลาดตราสารหนี้และการสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาค เมื่อพิจารณาถึงความเข้มแข็งทางการเงินของสมาชิกหลักในกลุ่มผู้ร่วมทุนตลอดจนความสำคัญของภารกิจที่ CGIF ได้รับมอบหมายแล้ว ทริสเรทติ้งเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ CGIF จะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากสมาชิกหลักในกลุ่มผู้ร่วมทุนในยามคับขัน

ณ เดือนมิถุนายน 2559 CGIF มีความสามารถในการค้ำประกันหนี้สูงสุด (Maximum Guarantee Capacity -- MGC) อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยความสามารถในการค้ำประกันหนี้สูงสุดคำนวณจากผลคูณระหว่างปัจจัย 2 ประการ ได้แก่ (1) ทุนที่เรียกชำระแล้วของ CGIF บวกด้วยกำไรสะสม ลบด้วยทุนสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต ทุนสำรองผลขาดทุนด้านอัตราแลกเปลี่ยน และเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่ขาดสภาพคล่อง และ (2) อัตราส่วนการค้ำประกันสูงสุด (Maximum Leverage Ratio) ที่ 2.5 เท่า ทั้งนี้ ณ เดือนกรกฎาคม 2559 CGIF ให้บริการค้ำประกันความเสี่ยงด้านเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้ 10 ราย (14 ตราสาร) มูลค่ารวม 864 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 48% ของความสามารถในการค้ำประกันสูงสุด

เมื่อพิจารณาอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Basel II) ที่ 19.3% ณ เดือนมิถุนายน 2559 ทริสเรทติ้งเห็นว่าฐานเงินทุนของ CGIF ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ การเข้าค้ำประกันของ CGIF จะต้องผ่านหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของ CGIF ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดอัตราส่วนการค้ำประกันสูงสุด การกำหนดวงเงินค้ำประกันที่ระมัดระวัง และแนวทางการพิจารณาความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกตราสารที่ CGIF จะค้ำประกัน ซึ่งในการกำหนดวงเงินค้ำประกันนั้นจะครอบคลุมความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของภาระค้ำประกันในด้านต่าง ๆ เช่น การกำหนดวงเงินค้ำประกันรวมของผู้ออกตราสารในแต่ละประเทศ สกุลเงิน และภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดวงเงินสูงสุดที่ CGIF สามารถค้ำประกันให้แก่ผู้ออกตราสารรายใดรายหนึ่งได้อีกด้วย ฐานเงินทุนของ CGIF ในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่เข้มแข็งมากเมื่อเทียบกับมูลค่าการให้บริการค้ำประกันซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำกว่าความสามารถในการค้ำประกันหนี้สูงสุด เมื่อ CGIF ขยายธุรกิจต่อไป ความสามารถของฐานเงินทุนในการรองรับความสูญเสียในภาวะวิกฤตจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกตราสารที่ค้ำประกัน ตลอดจนระยะเวลาการค้ำประกัน และความสามารถของ CGIF ในการเรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียมการค้ำประกันที่เพียงพอต่อความเสี่ยงด้านเครดิตที่เกิดขึ้น

ณ สิ้นปี 2558 หลักทรัพย์ที่ CGIF ลงทุนมีค่าเฉลี่ยของ Effective Duration อยู่ที่ 1.8 ปี ทั้งนี้ CGIF ประเมินว่าในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น 1% ตลอดเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss) จะเพิ่มขึ้นประมาณ 12.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.8% ของทุน ณ สิ้นปี 2558 ตามแผนการจัดสรรเงินลงทุนใหม่ CGIF พยายามเพิ่ม Effective Duration อย่างค่อยเป็นค่อยไปให้อยู่ในระดับ 2 ปีถึง 4 ปี ซึ่งจะทำให้ CGIF มีผลตอบแทนที่คาดหวังจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ CGIF มีความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk) เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ ในปี 2558 CGIF มีอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนต่อปีอยู่ที่ 1.3%

CGIF มีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งมากจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีสภาพคล่องและอันดับเครดิตสูง รายได้จากเงินลงทุนและค่าธรรมเนียมการค้ำประกันของ CGIF คาดว่าจะมีเพียงพอรองรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ CGIF ยังสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องด้วยการทำธุรกรรมซื้อคืนหลักทรัพย์ (Repo) ได้ด้วย

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าการประกอบธุรกิจของ CGIF น่าจะยังต้องเผชิญกับความท้าทายภายใต้การเปลี่ยนแปลงของตลาดตราสารหนี้ภูมิภาคที่ยังอยู่ในช่วงต้นของการร่วมพัฒนาและจากลักษณะของตลาดตราสารหนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอและมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ทั้งนี้ การค้ำประกันหุ้นกู้ของ CGIF ในบางตลาดตราสารหนี้ที่มีการพัฒนามากยังอาจเผชิญกับข้อจำกัดจากส่วนต่างที่แคบระหว่างอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ภาคเอกชนกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (Credit Spread) และ CGIF อาจมีการเข้าค้ำประกันหุ้นกู้ของผู้ออกตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตในระดับต่ำ นอกจากนี้ การขยายธุรกิจของ CGIF ยังมีข้อจำกัดจากความไม่แน่นอนในการเพิ่มทุนของกลุ่มผู้ร่วมทุน โดยในปัจจุบัน การขยายธุรกิจได้เริ่มมีข้อจำกัดจากวงเงินสูงสุดสำหรับประเทศผู้ออกตราสาร ทั้งนี้ แม้ว่าการออกหุ้นกู้อาจมีความล่าช้าในปี 2558 แต่คาดว่ามูลค่าการให้บริการค้ำประกันจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับความสามารถในการค้ำประกันสูงสุดภายใน 2 ปีข้างหน้า

Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF)
อันดับเครดิตองค์กร: AAA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ