ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “บ. บัตรกรุงศรี” ที่ “AAA” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 15, 2016 16:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรให้แก่ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด ที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกที่เป็นธุรกิจหลักสำคัญของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากทริสเรทติ้ง

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าบริษัทจะคงสถานะความเป็นบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาและยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป

สถานะด้านเครดิตของบริษัทอาจได้รับผลกระทบในกรณีที่สถานะด้านเครดิตของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปลี่ยนแปลงไป หรือเมื่อทริสเรทติ้งเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในระดับของการสนับสนุนที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีต่อบริษัท หรือเมื่อสถานะบทบาทความสำคัญของบริษัทที่มีต่อกลุ่มเปลี่ยนแปลงไป

บริษัทบัตรกรุงศรีมีฐานะเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีสถานะเป็นบริษัทในกลุ่ม Solo Consolidation ภายใต้การกำกับดูแลแบบรวมกลุ่มของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งทริสเรทติ้งพิจารณาเห็นว่าบริษัทมีฐานะเป็นบริษัทลูกที่เป็นธุรกิจหลักสำคัญของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีความร่วมมือและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธุรกิจหลักและฐานลูกค้าของธนาคารภายใต้ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทยังมีระบบปฏิบัติการร่วมกับธนาคารอย่างเต็มรูปแบบและประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจตามที่ธนาคารคาดหวังอีกด้วย

บริษัทได้รับคำปรึกษาและการดูแลจากธนาคารแม่อย่างใกล้ชิดโดยมี ธปท. เป็นผู้กำกับดูแลทางอ้อมผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา การกำกับดูแลภายใต้มาตรฐานเดียวกันโดย ธปท. ทำให้บริษัทมีระบบปฏิบัติการที่เข้มแข็งและมีระบบบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินในระดับสูงในฐานะที่เป็นบริษัทในกลุ่ม Solo Consolidation ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาด้วย กล่าวคือ บริษัทได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอและต่อเนื่องจากธนาคารในรูปของวงเงินสินเชื่อ และในส่วนของความร่วมมือทางธุรกิจนั้น บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารที่มีอยู่ทั่วประเทศในการขยายฐานลูกค้า รวมถึงเป็นช่องทางการชำระเงินและบริการด้วย โดยกว่า 50% ของจำนวนบัตรเครดิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้นมาจากการแนะนำผ่านสาขาต่าง ๆ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ ธนาคารยังให้การสนับสนุนบริษัทในด้านการรวมศูนย์ระบบปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานต่าง ๆ เช่น ระบบบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบภายใน และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อีกทั้งบริษัทยังมีผลงานที่ได้รับการยอมรับจากการมีคณะผู้บริหารที่มากประสบการณ์และสถานะความเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจบัตรเครดิตด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีแรงกดดันจากภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่ออุปโภคและบริโภคและภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพเครดิตและความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

บริษัทบัตรกรุงศรีเป็นบริษัทลูกหลักในกลุ่ม “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้บริการบัตรเครดิตในธุรกิจลูกค้ารายย่อยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา บัตรเครดิตของบริษัทออกภายใต้ชื่อ “บัตรกรุงศรี” และยังออกร่วมกับพันธมิตรอื่น ๆ อีก ได้แก่ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อ “บัตร HomePro” บริษัท เอไอเอ จำกัด ภายใต้ชื่อ “บัตร AIA” และสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ภายใต้ชื่อ “บัตร MANU” ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจที่ยาวนานมากกว่า 15 ปี บริษัทสามารถสร้างคณะผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพและพัฒนารูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็งจนทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการแข่งขัน บริษัทรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 11% ของสินเชื่อบัตรเครดิตรวมทั้งอุตสาหกรรมในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เงินให้สินเชื่อรวมของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วจาก 29,502 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 เป็น 37,789 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 เพิ่มขึ้น 28% หลังการรับโอนธุรกิจบัตรเครดิตของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (HSBC) สาขากรุงเทพฯ เข้ามา เงินให้สินเชื่อรวมของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 42,065 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งคิดเป็น 96% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท

การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่รัดกุมและระบบการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพช่วยทำให้บริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีโดยจะเห็นได้จากการที่บริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนสินเชื่อค้างชำระของบัตรเครดิต (เกิน 90 วัน) ต่อสินเชื่อบัตรเครดิตรวมให้อยู่ที่ระดับ 1.1% ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 3.1% เช่นเดียวกันกับสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งบริษัทรายงานอัตราส่วนสินเชื่อค้างชำระของสินเชื่อส่วนบุคคล (เกิน 90 วัน) ต่อสินเชื่อส่วนบุคคลรวม ที่ระดับ 2.2% ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 5.2% บริษัทเสนอสินเชื่อส่วนบุคคลให้แก่เฉพาะลูกค้าบัตรเครดิตของบริษัทเท่านั้น บริษัทมีนโยบายการตั้งสำรองที่เข้มงวดโดยกำหนดอัตราค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมไว้ที่ระดับ 6.2% ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อค้างชำระ (เกิน 90 วัน) เพิ่มขึ้นเป็น 504% ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงพอที่จะทำให้บริษัทสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนในทางลบจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้

บริษัทมีผลประกอบการทางการเงินที่เป็นไปในทิศทางบวก โดยกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 779 ล้านบาทในปี 2556 เป็น 989 ล้านบาทในปี 2557 และเป็น 1,213 ล้านบาทในปี 2558 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ในปี 2558 จาก 2.4% ในปี 2557 และ 2.1% ในปี 2556 โดยกำไรสุทธิของบริษัทสำหรับปี 2558 คิดเป็นสัดส่วน 7% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัทมีการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่ดีภายใต้การควบคุมของธนาคารแม่ ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องระยะสั้นของบริษัทมิได้เป็นประเด็นที่น่าห่วงมากนัก ทั้งนี้ การที่บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทในกลุ่ม Solo Consolidation ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาช่วยทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นและมีสถานะสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอจากการได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแม่ โดยการสนับสนุนดังกล่าวช่วยให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าคู่แข่งที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้จากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในจำนวนที่มากเพียงพอที่จะสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทอีกด้วย

บริษัทได้เพิ่มความแข็งแกร่งของฐานทุนผ่านการเพิ่มทุนในช่วงที่ผ่านมา โดยหลังจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นชาวต่างชาติ สถานะของบริษัทก็เปลี่ยนมาเป็นบริษัทต่างชาติด้วยเช่นกัน โดยภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวกำหนดให้บริษัทต้องดำรงฐานทุนชำระแล้วที่เพียงพอเพื่อรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ชำระแล้วไม่ให้ต่ำกว่า 7 เท่า ทั้งนี้ อัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมของบริษัทยังดำรงอยู่ในระดับสูงที่ 19.3% ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 4.2 เท่า ณ สิ้นปี 2558 และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนชำระแล้วอยู่ที่ 5.1 เท่า ณ สิ้นปี 2558

บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด (KCC)
อันดับเครดิตองค์กร: AAA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ