ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. ภัทรลิสซิ่ง” ที่ “A-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 15, 2017 09:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A-” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และความสามารถของคณะผู้บริหารในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่เข้มงวดซึ่งทำให้บริษัทสามารถดำรงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีแม้ว่าจะมีปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็ได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ตลอดจนการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง และการตั้งสำรองในจำนวนที่มากขึ้นจากปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ โดยปัจจัยเหล่านี้จำกัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

บริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์เอาไว้ได้โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิของผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้ง 30 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทให้บริการเช่าดำเนินงานและเช่าการเงินแก่ลูกค้านิติบุคคลที่เป็นบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ณ สิ้นปี 2559 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิรวม (สินทรัพย์ให้เช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงานสุทธิและลูกหนี้สัญญาเช่าทางการเงิน) ที่ระดับ 12,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.8% จากระดับ 11,829 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2558 และกลับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 11,771 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2560

การมีเครือข่ายบริการเข้มแข็งที่ครอบคลุมทั่วประเทศช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่ ทั้งนี้ การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ให้ประโยชน์แก่บริษัทจากการประหยัดต่อขนาด แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของฐานลูกค้าทั้งในด้านการผิดนัดชำระหนี้และการพึ่งพิงรายได้จากลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้บรรเทาลงจากการที่ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทมีคุณภาพเครดิตที่ค่อนข้างดี บริษัทมีความพยายามในการกระจายความหลากหลายของฐานลูกค้าซึ่งความก้าวหน้าของความพยายามดังกล่าววัดได้จากสัดส่วนของธุรกิจที่ได้จากลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานและสินเชื่อคงค้างภายใต้สัญญาเช่าการเงินแล้วปรากฏว่าลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 รายแรกมีสัดส่วนประมาณ 41% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท ณ ไตรมาสแรกของปี 2560 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มีการกระจุกตัวสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

หลังจากที่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในปี 2549 แล้ว ตัวแทนของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตซึ่งเข้ามามีบทบาทโดยผ่านช่องทางคณะกรรมการบริษัทก็ได้ให้การสนับสนุนความพยายามในการพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยงของบริษัท ทั้งนี้ ระบบการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดมีส่วนช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้เมื่อมีการขยายธุรกิจไปสู่สินทรัพย์ประเภทอื่นซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ประเภทรถยนต์ ความพยายามดังกล่าวสะท้อนจากความสามารถในการรักษาระดับอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค้างชำระเกิน 90 วัน) ต่อสินเชื่อรวมให้อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี จากปัญหาลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่งทำให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทถดถอยลงในปี 2559 บริษัทจึงมีค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองมากถึง 157 ล้านบาทเพื่อรองรับสินทรัพย์ที่มีปัญหาดังกล่าว

ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2558 ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคารถยนต์มือสอง ทั้งนี้ บริษัทมีผลกำไรน้อยลงจากการขายสินทรัพย์ให้เช่า ความต้องการรถยนต์มือสองในปี 2556 ลดต่ำลงมากเนื่องจากนโยบายด้านภาษีสำหรับผู้ซื้อรถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้กระตุ้นยอดขายรถยนต์ใหม่ในช่วงปี 2555-2556 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ราคารถยนต์มือสองตกต่ำลงตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมาและตกต่ำที่สุดในปี 2557 แต่หลังจากนั้นราคาก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การที่ราคาจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติได้นั้นยังไม่แน่นอนและอาจต้องใช้เวลานาน

บริษัทต้องการลดผลกระทบจากราคารถยนต์มือสองที่ลดลงโดยพยายามเลื่อนการจำหน่ายรถยนต์ที่หมดอายุสัญญาเช่าบางส่วนออกไปด้วยการต่ออายุสัญญาเช่า รวมทั้งการนำรถยนต์ที่หมดอายุเช่าดังกล่าวกลับมาให้เช่าระยะสั้นเพื่อเลื่อนเวลาในการจำหน่ายรถยนต์ออกไป นอกจากนี้ บริษัทยังพยายามจำหน่ายรถยนต์ที่หมดอายุสัญญาเช่าโดยผ่านช่องทางการขายปลีกไปสู่ผู้ซื้อโดยตรงด้วย ซึ่งวิธีนี้จะได้ราคาที่สูงกว่าช่องทางปกติของบริษัทคือการประมูลขายรถจำนวนมากในคราวเดียว แม้ว่าบริษัทจะพยายามลดผลกระทบดังกล่าวด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว แต่บริษัทก็ยังมีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าเพียง 49 ล้านบาทในปี 2556 และมีผลขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าจำนวน 21 ล้านบาทในปี 2557 และ 16 ล้านบาทในปี 2558 อย่างไรก็ตาม ผลของราคารถยนต์มือสองที่เริ่มดีขึ้นก็ทำให้บริษัทกลับมามีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าอีกครั้งจำนวน 63 ล้านบาทในปี 2559

บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงจาก 205 ล้านบาทในปี 2556 มาอยู่ที่ 140 ล้านบาทในปี 2557 ซึ่งเป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงและขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าที่หมดอายุสัญญาเช่า ในปี 2558 บริษัทยังคงขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าที่หมดอายุสัญญาเช่า แต่ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงและการเพิ่มทุนก็ช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 171 ล้านบาท แม้ว่าในปี 2559 จะมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้ที่มีปัญหา แต่กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าและสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่บริษัทได้รับจากการลงทุนซื้อสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ก็ช่วยทำให้กำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.8% จากปีก่อน สำหรับไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 245% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 16 ล้านบาท กำไรที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่บริษัทได้รับจากการลงทุนซื้อสินทรัพย์ให้เช่าใหม่

ในเดือนมิถุนายน 2558 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่อีกจำนวน 447 ล้านบาทโดยการขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม การเพิ่มทุนดังกล่าวส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ต่ำกว่าระดับ 4 เท่า โดยลดลงจากระดับ 5 เท่า ณ สิ้นปี 2557 ซึ่งเงินทุนใหม่ดังกล่าวช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทได้ต่อไป

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหมายว่าบริษัทจะมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นหลังจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยจากภาวะตลาดรถยนต์มือสองและราคารถมือสองที่ตกต่ำลง นอกจากนี้ ยังคาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะดีขึ้นจากการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและการลดผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ที่หมดอายุสัญญาเช่าด้วยเช่นกัน

อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับขึ้นหากบริษัทยังคงเป็นผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์และสามารถมีผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกัน อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับผลกระทบในเชิงลบได้หากมีปัจจัยที่ทำให้ระดับผลประกอบการทางการเงินของบริษัทเสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ อัตรากำไรขั้นต้นของรายได้ค่าเช่าที่ลดลงอย่างมาก คุณภาพสินทรัพย์ที่ถดถอยลง และการขยายขนาดของสินทรัพย์ให้เช่าโดยการก่อหนี้เพิ่มอย่างมาก

บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
PL179A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A-
PL182B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
PL185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
PL18OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 450 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
PL191A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
PL195A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
PL198A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A-
PL209A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
PL212A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A-
PL232A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ