ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บล. บัวหลวง” เป็น “AA” จาก “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 21, 2017 15:50 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (บล. บัวหลวง) เป็นระดับ “AA” จากเดิมที่ระดับ “AA-” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากการประเมินผลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความแข็งแกร่งด้านสถานะเครดิตของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บล. บัวหลวง รวมถึงสถานะการเป็นบริษัทลูกของบริษัทที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของธนาคารกรุงเทพ ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และความแข็งแกร่งของฐานรายได้ที่มาจากการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ตลอดจนแนวทางการบริหารงานที่ระมัดระวังของคณะผู้บริหาร ความยืดหยุ่นทางการเงินจากการเป็นบริษัทลูกของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพมีอยู่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทยังมีข้อจำกัดจากธรรมชาติที่ผันผวนของธุรกิจหลักทรัพย์และอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในปัจจุบันที่ลดลงซึ่งเป็นผลพวงจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจนี้ด้วย

ธนาคารกรุงเทพเป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำในประเทศไทยซึ่งมีฐานลูกค้าที่กว้างขวาง อีกทั้งยังมีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมและให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร โดยธนาคารกรุงเทพได้รับการจัดอันดับเครดิตจากสถาบันจัดอันดับเครดิตสากลคือ Moody’s Investors Service ที่ระดับ “Baa1” และ S&P Global Ratings ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากทั้ง 2 สถาบัน

ธนาคารกรุงเทพรวมทั้งพันธมิตรธุรกิจและบริษัทลูกมีแนวกลยุทธ์ในการที่จะสร้างสรรค์และเสริมสร้างความเข้มแข็งในการให้บริการทางการเงินแบบครบวงจรของกลุ่ม ธนาคารกรุงเทพจึงได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บล. บัวหลวงจาก 56.34% เป็น 99.75% ในปี 2555 ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพมุ่งหวังจะใช้ศักยภาพในตลาดทุนของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนและแสวงหาแหล่งเงินทุนของลูกค้าในกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่ธนาคารกรุงเทพถือหุ้นเพิ่มขึ้นยังช่วยให้การบริหารจัดการเงินทุนภายในกลุ่มกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยให้ธนาคารสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทได้ในจำนวนที่มากขึ้นด้วย

การเป็นบริษัทในกลุ่มธนาคารกรุงเทพให้ประโยชน์แก่บริษัทหลายประการ กล่าวคือ บริษัทได้ใช้สาขาของธนาคารกรุงเทพเป็นช่องทางสำคัญช่องทางหนึ่งในการขยายฐานลูกค้ารายย่อยของบริษัท โดยบัญชีลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 50% ที่บริษัทได้เพิ่มมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เป็นลูกค้าที่ผ่านการแนะนำจากธนาคารกรุงเทพทั้งสิ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 1 ใน 4 ของบัญชีลูกค้าในปี 2555 ความสัมพันธ์ที่ธนาคารกรุงเทพมีกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่จำนวนมากช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบในการให้บริการลูกค้ากลุ่มสถาบันในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทได้ลูกค้าด้านวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นข้อได้เปรียบเหนือบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากธนาคารกรุงเทพโดยบริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อดังกล่าวน่าจะเพียงพอต่อความต้องการด้านสภาพคล่องของบริษัท

บริษัทมีสถานะทางการตลาดที่เข้มแข็งในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ในระดับ 4%-5% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และมีอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 3.5% ในปี 2550 เป็น 6.7% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นำในธุรกิจวาณิชธนกิจด้วยโดยมีรายได้จากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์รวมกับรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของอุตสาหกรรมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

บริษัทมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ไม่มากเนื่องจากบริษัทมีการลงทุนที่จำกัดเพียงการหาผลตอบแทนแบบ Arbitrage และการป้องกันความเสี่ยงจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์เท่านั้น บริษัทได้ออกจำหน่ายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์เป็นครั้งแรกในปี 2553 และจัดได้ว่าเป็นผู้นำตลาดในผลิตภัณฑ์นี้ ส่วนในด้านการบริหารความเสี่ยงด้านราคานั้น บริษัทใช้กลยุทธ์ Dynamic Delta Hedging เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอ้างอิง ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าระบบบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัทจะยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้บริษัทต้องขาดทุนจากการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในระดับที่สูงจนเกินไป ในด้านความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์นั้น บริษัทมียอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์คงค้างจำนวน 2,257 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งคิดเป็น 28% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและคิดเป็น 4% ของการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของทั้งอุตสาหกรรม ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานในการให้สินเชื่อที่ระมัดระวังต่อไป

ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอยู่ในระดับที่เข้มแข็งกว่าคู่แข่งขันในตลาด ตัวอย่างเช่นอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 2.67% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.67% ในช่วงเวลาเดียวกัน กำไรสุทธิเท่ากับ 1,072 ล้านบาทในปี 2559 ปรับลดลง 6% จากปี 2558 อันเนื่องมาจากการที่ธุรกรรมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์มีมูลค่าลดลง อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ บล. บัวหลวงก็ยังคงดีกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม กำไรสุทธิของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ปรับลดลง 21% เป็น 377 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอันเนื่องมาจากการลดลงของกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าคู่แข่งขันในตลาด โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้สุทธิอยู่ที่ระดับ 49% สำหรับครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 60%

ฐานทุนของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมากภายหลังจากที่บริษัทมีฐานะเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นฐานทุนที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม อัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ที่ปรับตัวเลขแล้วอยู่ที่ระดับ 84% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 บริษัทได้เพิ่มทุน 1,600 ล้านบาทจากผู้ถือหุ้นเดิมในเดือนพฤศจิกายน 2556 โดยบริษัทจะใช้เงินทุนที่เพิ่มขึ้นในการขยายขีดความสามารถในการรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ รวมทั้งขยายสินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ และขยายธุรกิจใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ บริษัทไม่มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเนื่องจากผลประกอบการตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2556 แต่ต่อมาในปี 2557 บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลรวมเป็นเงินจำนวน 432 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ เดือนมิถุนายน 2560 มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 8,100 ล้านบาทเมื่อเทียบกับ 1,900 ล้านบาทในปี 2554 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไป ณ เดือนธันวาคม 2559 อยู่ที่ 129% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ทางการกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องดำรงไว้ที่ระดับ 7% เป็นอย่างมาก

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่า บล. บัวหลวงจะคงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของกลุ่มธนาคารกรุงเทพและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้หากสถานะด้านเครดิตของกลุ่มธนาคารกรุงเทพ หรือระดับที่บริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธนาคารกรุงเทพเปลี่ยนแปลงไป หรือสถานะในการเป็นบริษัทย่อยของ บล. บัวหลวงต่อกลุ่มธนาคารกรุงเทพเมื่อเทียบกับบริษัทย่อยอื่น ๆ ของธนาคารกรุงเทพนั้นเปลี่ยนแปลงไป

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS)
อันดับเครดิตองค์กร: AA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ