ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้ม “บ. พรีบิลท์” ที่ “BBB/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 20, 2018 17:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ยาวนานของบริษัทในการก่อสร้างโครงการอาคารสูง รวมถึงความสามารถในการทำกำไรที่สม่ำเสมอ และสภาพคล่องที่เพียงพอ ทว่าจุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงที่อยู่ในระดับสูงจากการกระจุกตัวของลูกค้า ตลอดจนธรรมชาติที่ผันผวนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และการแข่งขันที่รุนแรง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ผลงานที่ยาวนานของบริษัทในการก่อสร้างโครงการอาคารสูง

สถานะทางธุรกิจของบริษัทเป็นที่ยอมรับจากการมีผลงานที่ยาวนานของบริษัทในงานก่อสร้างอาคารสูงจำนวนมาก เช่น อาคารที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม อาคารเพื่อการพาณิชย์ โรงแรม และโรงงานอุตสาหกรรม

บริษัทยังสามารถก่อสร้างอาคารโรงงานและงานภาครัฐ เช่น งานโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของงานวางระบบและงานออกแบบได้ด้วย โดยบริษัทเน้นไปที่งานก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย บริษัทมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัทก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดที่มีทำเลที่ตั้งดี จากการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในแต่ละปี ทำให้บริษัทได้รับงานก่อสร้างจากผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย โดยมูลค่างานที่บริษัทได้รับการว่าจ้างจะอยู่ที่ระดับ 4,000-8,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2555-2559 ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 บริษัทได้เซ็นสัญญางานใหม่แล้วมูลค่าประมาณ 4,400 ล้านบาท

ความสามารถในการทำกำไรที่สม่ำเสมอ

บริษัทใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างด้วยระบบ Pre-cast ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและระยะเวลาก่อสร้างได้ตามแผนอันเป็น 2 ปัจจัยความสำเร็จของบริษัท บริษัทรักษาความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้ ถึงแม้อุตสาหกรรมจะมีการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งในปี 2558 และ 2559 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสูงกว่า 10% แม้ว่ารายได้จากธุรกิจดังกล่าวจะลดลง

ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ดีกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งเล็กน้อย อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทรงตัวอยู่ที่ 14% ในขณะที่รายได้รับเหมาก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้น

บริษัทขายบริษัทลูก ได้แก่ บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2560 เป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากระดับ 26% ในปี 2559 ไปอยู่ที่ประมาณ 20% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 โดยทั่วไปอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะสูงกว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง อย่างไรก็ดี อัตรากำไรขั้นต้นรวมของบริษัทยังคงสูงกว่าประมาณการของทริสเรทติ้ง

ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทจะยังคงสูงกว่า 10% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า อัตรากำไรขั้นต้นรวมของบริษัทจะลดลงในปี 2561 แต่ก็จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2562 จากการเริ่มรับรู้กำไรจากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์

?

ความเสี่ยงระดับสูงจากการกระจุกตัวของลูกค้า

บริษัทมีรายได้หลักมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยกเว้นปี 2559 บริษัทรับรู้รายได้จำนวนมากจากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ แต่หากมองไปข้างหน้า รายได้หลักของบริษัทจะยังคงมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะเกินกว่า 80% ของรายได้รวม

โครงการก่อสร้างที่บริษัทได้รับมาเกือบทั้งหมดเป็นงานก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งบริษัทมีการพึ่งพารายได้ที่สำคัญจากลูกค้ารายใหญ่จำนวนน้อยราย โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากลูกค้า 4 ราย คือ บริษัท

อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิวัดพระธรรมกาย บริษัท ควอลิตี้เฮ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแต่ละรายสร้างรายได้ให้แก่บริษัทคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20%-35% ของรายได้รวมต่อปี

ณ เดือนกันยายน 2560 บริษัทมีลูกค้ารายใหญ่คือบริษัทอนันดา และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมูลค่างานของทั้ง 2 รายมีมูลค่าถึง 60% ของมูลค่างานรอส่งมอบทั้งหมดของบริษัท ทั้งนี้ ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวจากการมีลูกค้าน้อยรายส่งผลลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวถูกลดทอนลงเนื่องจากความเสี่ยงของการไม่ได้รับชำระเงินจากลูกค้าหลักอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

อันดับเครดิตยังมีข้อจำกัดจากธรรมชาติที่ผันผวนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ความต้องการคอนโดมิเนียมลดลง และการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังคงเป็นปัจจัยลบของบริษัท

ความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพียงพอ

สถานะทางการเงินของบริษัทอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนก็ลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ 9.4% ณ สิ้นปี 2559 จากการรับรู้รายได้และกำไรจำนวนมากจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ณ เดือนกันยายน 2560 บริษัทจ่ายคืนหนี้ทั้งหมด หลังจากขายบริษัทบิลท์ แลนด์และปลดภาระหนี้ออกไปด้วย ซึ่งกระแสเงินสดที่ได้รับจากการขายบริษัทบิลท์ แลนด์จะเป็นเงินทุนที่จะนำไปลงทุนในกิจการอื่น ๆ ผ่านบริษัทลูก ได้แก่ บริษัท พรีบิลท์ โฮลดิ้ง จำกัดอีกด้วย โดยเงินสดจำนวนมากช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกหากบริษัทจะลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ ซึ่งในอนาคต อัตราส่วนเงินกู้ต่อทุนของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะไม่เร่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากเกินไป อนึ่ง ภาระหนี้ที่สูงขึ้นก็อาจได้รับการชดเชยจากภาวะสภาพคล่องที่เพียงพอและนโยบายการเงินที่ระมัดระวังของบริษัท

ในช่วงปี 2561-2563 ภาระหนี้ของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยภาระหนี้ทั้งหมดจะสามารถบริหารจัดการได้ ในการประเมินอันดับเครดิต ทริสเรทติ้งได้รวมภาระหนี้ในบริษัทร่วมทุนที่พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาด้วยเพื่อสะท้อนความสามารถในการขยายการลงทุนและภาระการค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งในงบการเงินของบริษัทไม่ได้รวมภาระหนี้ในส่วนนี้มาด้วย

สภาพคล่องที่แข็งแกร่ง

บริษัทมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทมีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวมูลค่ารวม 2,514 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2560 เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 12 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมและอัตราส่วนกำไร (ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงในช่วง 3 ปีข้างหน้า

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจหลักได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทจะรักษาความสามารถในการทำกำไรและสถานะทางการเงินได้ใกล้เคียงกับประมาณการ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 4,500-5,500 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2561-2563 อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับ 6%-9% เงินทุนจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ในช่วง 300-400 ล้านบาทต่อปี ภาระหนี้ของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกหากบริษัทจะลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้ดังกล่าวน่าจะอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (รวมภาระหนี้ตามสัดส่วนการค้ำประกันจากกิจการร่วมค้า) คาดว่าจะต่ำกว่า 30% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตยังไม่มีแนวโน้มที่จะมีการปรับเพิ่มในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม หากรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบันเป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่องและมีการบริหารจัดการภาระหนี้อย่างระมัดระวัง ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนการปรับเพิ่มอันดับเครดิตได้

ในทางกลับกัน อันดับเครดิต/และหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากบริษัทสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน หรือในกรณีที่รายได้และความสามารถในการทำกำไรลดลง หรือหากการลงทุนในโครงการกิจการร่วมค้าทำให้ระดับภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้นและทำให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงมาก
?
บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) (PREB)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ