ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “ธ. เมกะ สากลพาณิชย์” เป็น “AAA” จาก “AA+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 15, 2018 11:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “AAA” จากเดิมที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะของธนาคารซึ่งเป็นธนาคารย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega International Commercial Bank Co., Ltd. ในไต้หวัน (Mega ICBC-Taiwan) อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงกลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยงที่สอดคล้องกัน รวมถึงการได้รับการสนับสนุนด้านธุรกิจและการเงินจากธนาคารแม่ที่มีมาอย่างยาวนาน ในขณะที่ S&P Global Ratings ยังจัดอันดับเครดิต Mega ICBC-Taiwan ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อีกด้วย

อันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์มีปัจจัยสนับสนุนจากการมีสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง คุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ดี และสภาพคล่องที่มีเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบั่นทอนอันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารก็ยังเกิดจากการมีธุรกิจที่มีขนาดเล็ก การกระจุกตัวของธุรกิจ และการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เป็นอย่างมาก

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega ICBC-Taiwan

ทริสเรทติ้งคาดว่าธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์จะได้รับการสนับสนุนจาก Mega ICBC-Taiwan ในกรณีที่ธนาคารอาจเกิดปัญหาทางการเงิน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าธนาคารจะยังคงได้รับการสนับสนุนด้านธุรกิจและการเงินจากธนาคารแม่ต่อไปแม้ว่าธนาคารจะมีสัดส่วนของรายได้และกำไรอยู่เพียงเล็กน้อยก็ตาม

ในการนี้ ทริสเรทติ้งได้มีการพิจารณาถึงพันธสัญญาที่เหนียวแน่นในระยะยาว ของ Mega ICBC-Taiwan ที่จะให้การสนับสนุนแก่ธนาคาร การใช้ชื่อร่วมกันส่งผลทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีผลโดยตรงต่อชื่อเสียงของกลุ่ม ธนาคารยังรับกลยุทธ์ของกลุ่มในการมุ่งเน้นขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยธนาคารได้ให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทย ซึ่งลูกค้าหลายรายยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคารแม่ของธนาคารในไต้หวันด้วย นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังมองว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่ Mega ICBC-Taiwan จะขายธุรกิจของธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ออกไป

สถานะเงินกองทุนและผลกำไรที่แข็งแกร่ง

ทริสเรทติ้งประเมินว่าธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์จะสามารถรักษาระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งในระยะ 3 ปีข้างหน้าได้ โดยทริสเรทติ้งประมาณการอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์ Basel-III ของธนาคารในระดับ 25%-27% ในปี 2561-2563 ภายใต้สมมติฐานการจ่ายเงินปันผลที่ระดับ 90%-95% โดยทริสเรทติ้งมองว่าระดับของเงินกองทุนดังกล่าวนั้นเพียงพอต่อการรองรับการเติบโตของธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดย ณ สิ้นปี 2560 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของอยู่ที่ระดับ 26.31% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 14.75% และยังมีสัดส่วน 97% ของเงินกองทุนรวม ซึ่งบ่งชี้ถึงคุณภาพเงินกองทุนที่มีอยู่ในระดับสูง

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าผลกำไรของธนาคารจะคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารสามารถรองรับสภาวะความผันผวนตามวงจรธุรกิจได้ โดยคาดว่าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของธนาคารจะคงอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย ทั้งนี้ อัตราส่วนดังกล่าวของธนาคารในปี 2560 ที่ระดับ 1.5% นั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 1.2% อัตรากำไรจากดอกเบี้ยสุทธิหลังจากหักต้นทุนทางเครดิตของธนาคารที่ระดับ 2.4% ในปี 2560 อยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.0% ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนอัตรากำไรจากดอกเบี้ยสุทธิของธนาคาร โดยอัตราส่วนต้นทุนทางการเงินของธนาคารซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.98% ในปี 2560 นั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.50% ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมของธนาคารอยู่ที่ระดับ 43% ในปี 2560 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 44% ทริสเรทติ้งคาดกว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 43%-44% ในปี 2561-2563 จากค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่เพิ่มสูงขึ้น

คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีเงินสำรองอยู่ในระดับปานกลาง

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าธนาคารจะสามารถดำรงคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมให้อยู่ในเกณฑ์ดีได้จากนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม โดยประมาณการว่าต้นทุนทางเครดิตจะอยู่ที่ระดับ 0.2%-0.3% ในปี 2561-2563 ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับต่ำสำหรับธนาคารพาณิชย์ไทยเมื่อพิจารณาจากต้นทุนทางเครดิตเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.31% ระหว่างปี 2556 ถึงปี 2560 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ของธนาคารก็อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มเช่นกัน โดย ณ สิ้นปี 2560 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 2.0% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มซึ่งอยู่ที่ 3.7% อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำที่ 111% ณ สิ้นปี 2560 แต่ทริสเรทติ้งประมาณการว่าอัตราส่วนของธนาคารจะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยซึ่งอยู่ที่ระดับ 130%-140% ตามนโยบายเพิ่มการตั้งสำรองของธนาคาร ทั้งนี้ แนวโน้มผลกระทบที่จะเกิดจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9 จากประมาณการของธนาคารนั้นอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

สภาพคล่องที่เพียงพอ

ธนาคารมีสภาพคล่องที่เพียงพอ ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าธนาคารมีแหล่งเงินกู้และสินทรัพย์สภาพคล่องที่เพียงพอเมื่อเทียบกับความต้องการด้านแหล่งเงินทุนของธนาคาร สัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องสำหรับใช้รองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio) นั้นก็อยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์ (80% สำหรับปี 2561) และค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทย โดยธนาคารมีสัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 23% ณ สิ้นปี 2560

มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจชาวไต้หวันเป็นหลัก

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเชื่อว่าธนาคารจะยังคงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าชาวไต้หวันในประเทศไทยเป็นหลักต่อไป ในฐานะธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กที่มีสินทรัพย์รวมมูลค่า 20,267 ล้านบาทและมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อและเงินฝากเท่ากันที่ระดับ 0.1% ณ สิ้นปี 2560 ธนาคารได้อาศัยชื่อเสียงที่แข็งแกร่งของธนาคารแม่ในการขยายธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มลูกค้าก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Mega ICBC-Taiwan ด้วย โดย Mega ICBC-Taiwan ได้แนะนำลูกค้าเหล่านี้ให้แก่ธนาคารเมื่อกิจการในประเทศไทยของลูกค้าเหล่านี้มีความต้องการแหล่งเงินทุนหรือเข้าถึงบริการทางการเงิน ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารอยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งดำเนินกิจการอยู่ในเขตหรือใกล้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่ธนาคารมีสาขารองรับอยู่

ทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจสินเชื่อจะยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลกำไรให้แก่ธนาคาร ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อรายได้รวมที่ระดับ 79% ในปี 2560 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ 66% ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิของธนาคารมีสัดส่วนเพียง 8% ของรายได้รวม ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 22% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกรรมทางการเงินซึ่งประกอบด้วยค่าธรรมเนียมจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการธุรกรรมระหว่างประเทศ และการโอนเงินระหว่างประเทศ

ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวอันเนื่องมาจากการมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าการกระจุกตัวทางธุรกิจในระดับสูงเป็นความเสี่ยงทางเครดิตที่สำคัญต่อคุณภาพสินทรัพย์ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีของธนาคาร การกระจุกตัวของสินเชื่อในระดับสูงเกิดจากการมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ถึงแม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ความผันผวนทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้สินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สัดส่วนของลูกค้ารายใหญ่ 20 รายแรกต่อสินเชื่อรวมของธนาคารอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ไทยอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้ง

การพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการกระจุกตัวของแหล่งเงินทุนจะยังคงเป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตของธนาคารในระยะยาวต่อไป ธนาคารพึ่งพิงแหล่งเงินฝากจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่สำหรับเป็นแหล่งเงินทุนหลักของธนาคาร เช่นเดียวกับธนาคารต่างชาติอื่น ๆ ที่มีกิจการในประเทศไทย เงินฝากจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่นับเป็นสัดส่วนที่สูงของแหล่งเงินทุนรวมของธนาคาร

แม้กระนั้น สัดส่วนของเงินฝากต่อแหล่งเงินทุนของธนาคารยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสมในมุมมองของทริสเรทติ้ง ณ สิ้นปี 2560 เงินฝากของธนาคารมีสัดส่วน 79% ของแหล่งเงินทุนรวมเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 86% เงินทุนจากบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ (Current Account-Savings Account – CASA) ต่อเงินฝากรวมอยู่ที่ระดับ 58% ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 61% อัตราส่วนเงินสินเชื่อรวมต่อเงินรับฝากอยู่ในระดับสูงที่ 138% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 100% แต่ใกล้เคียงกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์จะยังคงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับสูงของ Mega ICBC-Taiwan และจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารอาจได้รับผลกระทบในกรณีที่สถานะอันดับเครดิตของ Mega ICBC-Taiwan เปลี่ยนไป หรือมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารที่มีต่อ Mega ICBC-Taiwan เปลี่ยนแปลงไป
?
ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (Mega ICBC)
อันดับเครดิตองค์กร: AAA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ