ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. เอ็ม บี เค” ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 22, 2018 11:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ซึ่งอันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่บริษัทมีกระแสเงินสดที่แน่นอนจากธุรกิจให้เช่าพื้นที่ค้าปลีก ตลอดจนการมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกลุ่มธนชาต และความยืดหยุ่นด้านการเงินที่อยู่ในระดับสูงจากการมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการที่บริษัทขยายสู่ธุรกิจให้บริการทางการเงินซึ่งมีความเสี่ยงที่สูงกว่า

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

กระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ปัจจุบันบริษัทให้บริการศูนย์การค้าจำนวน 4 แห่งและอาคารสำนักงานจำนวน 4 แห่งในเขตกรุงเทพฯ อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอให้แก่บริษัทจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการตามสัญญา โดยมากกว่า 80% ของพื้นที่เช่าของบริษัทเป็นการเช่าภายใต้สัญญาที่มีอัตราค่าเช่าคงที่ ทั้งนี้ ในปี 2560 บริษัทมีรายได้จากศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานคิดเป็น 41% ของรายได้ทั้งหมด และคิดเป็น 61% ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย

อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าของบริษัทตั้งอยู่ในทำเลที่ดีโดยอยู่ในแหล่งการจับจ่ายสินค้าใจกลางเมืองและพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรหนาแน่น ดังนั้น บริษัทจึงมีอัตราการเช่าพื้นที่โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับที่สูงกว่า 90% และยังมีค่าเช่าอยู่ในระดับสูงด้วยเช่นกัน ในช่วง 3 ปีข้างหน้าทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ได้มากกว่า 90% และจะสามารถเพิ่มอัตราค่าเช่าเฉลี่ยที่ประมาณปีละ 3%-5% ได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีสัดส่วนการลงทุน 48% ใน บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและเป็นผู้บริหารศูนย์การค้าหลายแห่งในย่านสยามสแควร์อีกด้วย

ธุรกิจโรงแรมปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจโรงแรมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 โดยบริษัทมีอัตรารายได้ต่อห้องพักที่มีอยู่ของบริษัท (Revenue Per Available Room -- RevPAR) เพิ่มขึ้น 11.8% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 3,288 บาทต่อคืน อันเนื่องมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น 15.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนอยู่ที่ 11.61 ล้านคน ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรารายได้ต่อห้องพักที่มีอยู่ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นปีละ 3% ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดให้บริการโรงแรมขนาด 128 ห้องแห่งใหม่ที่สนามกอล์ฟบางกอกกอล์ฟคลับในช่วงปลายปี 2561 อีกด้วย จึงทำให้ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากธุรกิจโรงแรมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ล้านบาทในปี 2563 จาก 1,297 ล้านบาทในปี 2560

จะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ในช่วงปลายปี 2661

บริษัทมีแผนจะก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ที่ถนนสุขุมวิทซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปุณณวิถี โครงการดังกล่าวเป็นอาคารสูงซึ่งมีห้องชุดจำนวน 348 ห้องและมีมูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จและพร้อมโอนให้แก่ลูกค้าได้ภายในปี 2563

สำหรับโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยอื่น ๆ ของบริษัทนั้นตั้งอยู่ในบริเวณสนามกอล์ฟและศูนย์การค้าของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังขยายโครงการที่อยู่อาศัยไปในจังหวัดระยองซึ่งมีกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลางถึงล่างด้วย ณ เดือนมีนาคม 2561 บริษัทมีมูลค่าคงเหลือของโครงการประมาณ 2,800 ล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยเหล่านี้ปีละประมาณ 500 ล้านบาทในช่วงปี 2561-2563

ธุรกิจให้บริการทางการเงินขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 3 ปีข้างหน้ารายได้จากธุรกิจให้บริการทางการเงินของบริษัทจะเติบโตประมาณ 12% ต่อปีตามแผนการเพิ่มยอดสินเชื่อของบริษัท บริษัทให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ผ่านการดำเนินงานของ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด และให้บริการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ผ่าน บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด ยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์คงค้างของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 5,659 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2561 จาก 3,010 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2559 ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รวมของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น 3.2% ณ เดือนมีนาคม 2560 จากระดับ 3.0% ในปี 2559 ในส่วนของการให้บริการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์นั้น บริษัทก็มียอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 7,252 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2561 จาก 5,631 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2559 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์รวมของบริษัทคงอยู่ที่ระดับ 2.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทริสเรทติ้งคาดว่ายอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านบาท และ 8,300 ล้านบาทในปี 2563 ตามลำดับ อีกทั้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถจัดการอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับระดับในปัจจุบันได้ด้วย

?

คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะยืนอยู่ที่ระดับเดิม

ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะคงอยู่ที่ระดับ 50%-55% ในช่วงปี 2561-2563 ในช่วง 3 ปีข้างหน้าบริษัทมีการจัดทำงบประมาณการลงทุนไว้ที่จำนวน 6,200 ล้านบาท โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากกระแสเงินสดภายในของบริษัทและเงินสดรับจากการขายหุ้นในบริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)

สภาพคล่องอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

สถานะสภาพคล่องของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดย ณ เดือนมีนาคม 2561 บริษัทมีแหล่งเงินทุนประกอบด้วยเงินสดจำนวน 514 ล้านบาทและเงินลงทุนในหลักทรัพย์จำนวน 2,061 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกประมาณ 6,655 ล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานจำนวน 2,500 ล้านบาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ส่วนในปี 2561 นั้น บริษัทได้รับเงินสดจากการขายหุ้นในบริษัทโรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) และบริษัทดุสิตธานีจำนวนประมาณ 2,200 ล้านบาท เมื่อรวมสภาพคล่องทั้งหมดของบริษัทแล้วคาดว่าจะมีเพียงพอสำหรับการชำระคืนหนี้และการลงทุนของบริษัทในอีก 12 เดือนข้างหน้าซึ่งบริษัทมีภาระในการชำระหนี้เงินต้นจำนวน 775 ล้านบาทและหนี้ระยะสั้นอีกจำนวน 5,037 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีงบลงทุนในปี 2561 จำนวนประมาณ 1,500 ล้านบาท

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขของหุ้นกู้ได้ในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราส่วนภาระหนี้ดอกเบี้ยสุทธิต่อเงินทุน ณ เดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ 0.8 เท่าซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเงื่อนไขของหุ้นกู้ที่กำหนดไว้ที่ 2 เท่า ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัท ณ เดือนธันวาคม 2560 ก็อยู่ที่ระดับ 6.7 เท่าซึ่งสูงกว่าเงื่อนไขของหุ้นกู้ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4 เท่า

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงมีกระแสเงินสดที่แน่นอนจากธุรกิจให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกและจะรักษาผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในธุรกิจอื่น ๆ ต่อไปได้ ภายใต้สมมุติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 12,000 ล้านบาทในปี 2563 ในช่วงปี 2561-2563 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 35%-40% ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมจะอยู่ที่ระดับประมาณ 12%-15% และอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายน่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4-5 เท่า

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากกระแสเงินสดของบริษัทขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนยังคงอยู่ในระดับปัจจุบัน ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทถดถอยลงอย่างมากเป็นเวลานาน หรือบริษัทมีการลงทุนที่มีการก่อหนี้เป็นจำนวนมาก

บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MBK188B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
MBK207A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
MBK207B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
MBK227A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
MBK229A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
MBK229B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
MBK27NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ