ทริสเรทติ้งยังไม่พบผลกระทบที่จะมีต่ออันดับเครดิตของ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในทันทีจากการที่บริษัทจะลงทุนในสินทรัพย์ของ บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด ภายใต้กระบวนการโอนกิจการทั้งหมดและการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัทให้แก่บุคคลในวงจำกัด
ทั้งนี้ คณะกรรมการของบริษัทไรมอน แลนด์ เพิ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้บริษัทเข้าลงทุนในสินทรัพย์ของบริษัทเคพีเอ็น แลนด์ ซึ่งประกอบไปด้วย 1) การซื้อโครงการ Diplomat 39 และโครงการ Diplomat สาทร จากบริษัทเคพีเอ็น แลนด์ และ 2) การลงทุนในสินทรัพย์ของบริษัทเคพีเอ็น แลนด์ โดยบริษัทเคพีเอ็น แลนด์ ตกลงที่จะดำเนินการให้บริษัทย่อยที่ตนถือหุ้นทั้งหมดโอนกิจการทั้งหมดของบริษัทย่อยดังกล่าวให้แก่บริษัทไรมอน แลนด์ ส่วนการซื้อโครงการ Diplomat 39 และโครงการ Diplomat สาทร นั้น บริษัทไรมอน แลนด์ จะใช้เงินสดภายในบริษัทร่วมกับเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ในขณะที่การลงทุนในบริษัทย่อยของบริษัทเคพีเอ็น แลนด์ นั้น บริษัทไรมอน แลนด์ จะชำระค่าโอนกิจการด้วยเงินสดและหุ้นสามัญมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,574.60 ล้านบาท โดยจะจ่ายเป็นเงินสดจำนวน 500 ล้านบาทและจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บริษัทเคพีเอ็น แลนด์ มูลค่า 1,074.60 ล้านบาท (หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 597 ล้านหุ้นด้วยราคา 1.80 บาทต่อหุ้น)
ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าการซื้อโครงการ Diplomat 39 และโครงการ Diplomat สาทร เป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การซื้อโครงการ Diplomat 39 จะทำให้บริษัทไรมอน แลนด์ รับรู้รายได้เพิ่มเติมจากยอดขายที่รอการส่งมอบของโครงการนี้จำนวน 1,400 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าผลกำไรจากโครงการนี้จะมีสัดส่วนต่ำกว่ากำไรที่ได้จากโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง ทั้งนี้ ระดับหนี้ที่สูงขึ้นจากธุรกรรมดังกล่าวจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อบริษัทเริ่มส่งมอบพื้นที่โครงการตามยอดขายที่รอการรับรู้รายได้
สำหรับการลงทุนในบริษัทย่อยของบริษัทเคพีเอ็น แลนด์ โดยกระบวนการรับโอนกิจการทั้งหมดนั้น หากประสบความสำเร็จ ก็จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของ JS Asset Management Pte. Ltd. (JS Assets) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุดของบริษัทไรมอน แลนด์ ลดลงมาอยู่ที่ 21% จาก 25% แต่ก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนสูงสุดเช่นเดิม ส่วนบริษัทเคพีเอ็น แลนด์ ก็จะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทไรมอน แลนด์ ในสัดส่วน 14.31% และจะได้รับสิทธิ์การเป็นคณะกรรมการบริหารของบริษัทจำนวน 2 ที่นั่ง ทั้งนี้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่และคณะกรรมการบริหาร โครงสร้างองค์กรของบริษัทไรมอน แลนด์ จึงอาจจะแตกต่างไปจากปัจจุบัน