ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. บี. กริม เพาเวอร์” ที่ “A” หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ “A-” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 28, 2019 17:15 —ทริส เรตติ้ง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

มีโรงไฟฟ้าที่กระจายตัวหลากหลาย

ณ เดือนธันวาคม 2561 บริษัทเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้าจำนวน 40 แห่งทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศด้วยกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,076 เมกะวัตต์ หรือเท่ากับ 1,217 เมกะวัตต์เมื่อคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนที่บริษัทถือหุ้น

โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจำนวน 15 โครงการคิดเป็นสัดส่วน 89% ของกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมของบริษัท โดยโรงไฟฟ้าเหล่านี้ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำในภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศไทย อาทิ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (ชลบุรี) อมตะซิตี้ (ระยอง) แหลมฉบัง ดับบลิวเอชเอชลบุรี1 และบางกะดี ในขณะที่กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมอีก 11% เป็นโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์จำนวน 22 แห่งในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังน้ำจำนวน 2 แห่งในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และ โรงไฟฟ้าดีเซลจำนวน 1 แห่งในประเทศเวียดนาม โรงไฟฟ้าทั้งหมดนี้ไม่มีโรงใดเลยที่มีสัดส่วนกำลังการผลิตเกิน 10% ของกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมของบริษัท

ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทคือ กฟผ. โดยในปี 2559-2561 บริษัทมีรายได้จาก กฟผ. คิดเป็นสัดส่วน 62% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้แก่ลูกค้า อุตสาหกรรมในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้ต่อปี และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ของไทย และการไฟฟ้าแห่งประเทศลาว หรือ Electricite du Laos (EDL)

กระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว

กระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้ของบริษัทนั้นมาจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวที่มีกับ กฟผ. ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กเป็นหลัก โรงไฟฟ้าของบริษัทส่วนใหญ่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ กฟผ. ซึ่งมีอายุสัญญาประมาณ 21-25 ปี สัญญาดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงด้านการตลาดเนื่องจาก กฟผ. ตกลงรับซื้อไฟฟ้าขั้นต่ำจำนวน 80% ของกำลังการผลิตตามสัญญาซึ่งคำนวณจากจำนวนชั่วโมงที่สามารถดำเนินงานได้ นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้ายังมีกลไกส่งผ่านภาระค่าก๊าซอีกด้วย

บริษัทยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไอน้ำกับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมอีกหลายรายซึ่งกระจายตัวอยู่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย เช่น ยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น โดยสัญญามีอายุระหว่าง 5-15 ปี ในส่วนของอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับสัญญาที่มีกับลูกค้าอุตสาหกรรมนั้นยังมีการระบุปริมาณรับซื้อขั้นต่ำด้วย โดยอัตราค่าไฟฟ้าจะอิงกับอัตราค่าไฟฟ้าของ กฟภ. ที่จำหน่ายให้แก่กิจการขนาดใหญ่ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการปรับราคาเพื่อสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิงผ่านค่าไฟฟ้าผันแปรหรือค่า Ft โครงการโรงไฟฟ้า SPP ของบริษัทยังมีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ระยะเวลา 21-25 ปีซึ่งเท่ากับอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่บริษัทมีกับ กฟผ. ด้วย

โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ของบริษัทมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 121 เมกะวัตต์ ทุกโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปีกับ กฟภ. และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Very Small Power Producer -- VSPP) โดยได้รับอัตราค่าไฟฟ้าคงที่จำนวน 4.12-5.66 บาทต่อหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่งของบริษัทซึ่งตั้งอยู่ใน สปป.ลาว มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ขนาด 14 เมกะวัตต์และมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ EDL ระยะเวลา 25 ปี ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำแต่ละโครงการของบริษัทมีอัตราค่าไฟฟ้าคงที่ที่ 0.065 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง

โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมมีผลการดำเนินงานที่ได้รับการยอมรับ

บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและบริหารโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซความร้อนร่วมโดยบริษัทมีบุคลากรของตนเองในการดำเนินงานและซ่อมบำรุงประจำวัน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมของบริษัทมีดัชนีความพร้อมอยู่ในระดับสูงเนื่องจากมีการหยุดซ่อมนอกแผนงานน้อยและอัตราความร้อนของโรงไฟฟ้าก็อยู่ในระดับที่ดีกว่าที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าด้วยเช่นกัน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าแต่ละแห่งของบริษัทมีค่าดัชนีความพร้อมอยู่ในช่วง 90%-100% ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าดังกล่าวยังมีอัตราความร้อนที่ดีกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอีกด้วยเช่นกัน

?

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าของบริษัทยังใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์แล้วจากผู้ผลิตชั้นนำ เช่น Siemens และ GE Power (GE) อีกด้วย ในขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแต่ละแห่งยังมีสัญญาบำรุงรักษาระยะยาว (Long-term Service Agreement -- LTSA) ที่มีอายุจนถึง 16 ปีเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเครื่องจักรจะมีความพร้อมในการเดินเครื่องตลอดเวลาและยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอีกด้วย

การซื้อกิจการโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 1

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 บริษัทได้ซื้อหุ้น 100% ในกิจการของ บริษัท โกลว์ เอสพีพี1 จำกัด จาก บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทจะใช้เงินจำนวน 3,300 ล้านบาทในการซื้อหุ้นดังกล่าว

บริษัทโกลว์ เอสพีพี1 เป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 124 เมกะวัตต์ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก ในเขตมาบตาพุด จังหวัดระยอง บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 110 เมกะวัตต์จำนวน 2 สัญญากับ กฟผ. โดยสัญญาทั้ง 2 สัญญาดังกล่าวจะหมดอายุลงในปี 2564 อย่างไรก็ตาม สัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้ง 2 สัญญาเข้าเกณฑ์การขยายอายุสัญญา 3 ปีและเกณฑ์การต่ออายุสัญญา 25 ปีตามแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติปี 2561 (Power Development Plan 2018 -- PDP2018)

มีความเสี่ยงจากการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม

บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ 2 แห่งขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 677 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนามโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 21,600 ล้านบาท การไฟฟ้าแห่งประเทศเวียดนาม (Vietnam Electricity -- EVN) เป็นผู้ซื้อไฟฟ้าเพียงรายเดียวสำหรับทั้ง 2 โครงการดังกล่าวโดยจะจ่ายอัตราค่าไฟฟ้าคงที่ที่ 0.0935 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม อัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าวจะให้สำหรับโครงการที่สามารถเปิดดำเนินงานได้ภายในเดือนมิถุนายน 2562 ดังนั้น ความล่าช้าในการก่อสร้างจะมีผลกระทบต่อผลตอบแทนของโครงการเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลเวียดนามยังไม่มีความชัดเจนเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าที่ไม่สามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนด

ทริสเรทติ้งเห็นว่าการลงทุนในประเทศเวียดนามมีความเสี่ยงมากกว่าในประเทศไทย ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทและผู้ประกอบการรายอื่น ๆ จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เหมือน ๆ กันคือ ความเสี่ยงของประเทศเวียดนาม ความเสี่ยงด้านกฎหมาย ความเสี่ยงด้านผู้ซื้อไฟฟ้า และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งประมาณการว่ารายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามจะมีสัดส่วนน้อยกว่า 10% ของรายได้รวมของบริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้า

โครงสร้างทางการเงินมีแรงกดดันในช่วงขยายกำลังการผลิต

การลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องทำให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทมีหนี้สินอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2561 หนี้สินที่รายงานแล้วของบริษัทอยู่ที่ระดับ 61,700 ล้านบาท (รวมภาระจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี. กริม เพาเวอร์ -- ABPIF) อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทอยู่ที่ระดับ 64% ณ สิ้นปี 2561 โดยอัตราส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 70% ในปี 2564 และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 6 เท่าในปี 2564

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• ในช่วงปี 2562-2564 ทริสเรทติ้งตั้งสมมุติฐานให้ค่าดัชนีความพร้อมของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมของบริษัทอยู่ในช่วง 90%-99%

• ในช่วงปี 2562-2564 ประมาณการรายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วงปีละ 43,100-47,300 ล้านบาท ประมาณการกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ในช่วง 11,600-14,400 ล้านบาทต่อปี และเงินสดในมือจะมีไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท

• เงินลงทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 17,000-20,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงที่ประมาณการ

• ภาระหนี้ที่จะต้องชำระคืนจะอยู่ที่ประมาณ 1,100-6,700 ล้านบาทต่อปีในช่วงที่ประมาณการ

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าของบริษัทจะเป็นไปอย่างราบรื่นและจะสร้างกระแสเงินสดได้ตามคาด แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถจัดการบริหารโครงสร้างเงินทุนให้สอดคล้องตามนโยบายบริษัทที่กำหนดให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนทุนต้องน้อยกว่า 2.0 เท่า

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถขยายกำลังการผลิตได้โดยสามารถควบคุมโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งอยู่ได้ ในทางกลับกัน อันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากโครงสร้างทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญซึ่งเป็นผลมาจากการขยายกำลังผลิตอย่างมากด้วยการลงทุนขนาดใหญ่โดยการก่อหนี้

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561
- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 31 ตุลาคม 2550
?
บริษัท บี. กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
BGRIM20OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A-
BGRIM21OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A-
BGRIM23OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
BGRIM28OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ