ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตประเทศของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) และอันดับเครดิตพันธบัตรชุดเดิมที่ออกโดย สปป. ลาว เป็นระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากเดิมที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ”
อันดับเครดิตสะท้อนสถานะเครดิตของ สปป. ลาว ที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากการมีขนาดของทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลงมาอยู่ในระดับเสี่ยงและการคาดการณ์ว่าภาระหนี้ต่างประเทศของรัฐบาลลาว จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะ 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารัฐบาล ลาว จะยังคงต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศเพื่อรองรับการขาดดุลทางการคลังและใช้จ่ายชำระหนี้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าหนี้ภาครัฐจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปแม้จะอยู่ในระดับที่ชะลอตัวลงก็ตาม
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
ขนาดของทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับเสี่ยง
จากข้อมูลของธนาคารแห่ง สปป. ลาว เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของ สปป. ลาว ณ สิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 873 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 14% จาก 1,016 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2560 ซึ่งเป็นระดับที่เทียบเท่าได้กับมูลค่าการนำเข้าในปี 2561 เพียง 1.7 เดือนเท่านั้น และยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเสี่ยง ทั้งนี้ สปป. ลาว มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับเฉลี่ย 901 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงระหว่างปี 2557-2561
ภาระหนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะ 3 ปีข้างหน้า
ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าภาระหนี้ที่จะต้องจ่ายชำระตามกำหนดจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งจะสร้างภาระหนี้ที่สูงให้แก่รัฐบาลลาวในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนของหนี้ที่จะต้องชำระต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ระดับ 34% ในปี 2560 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 78% ในปี 2561 ทริสเรทติ้งคาดว่าในระยะปานกลาง รัฐบาลลาวจะยังคงใช้แหล่งทุนจากเงินกู้ทวิภาคีและการออกพันธบัตรในตลาดทุนของประเทศไทยเพื่อการชำระคืนหนี้ที่จะครบกำหนด
หนี้ต่างประเทศจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หนี้ต่างประเทศของรัฐบาลลาว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9,762 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2561 หรือเพิ่มขึ้น 14% จากระดับ 8,561 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2560 ด้วยข้อจำกัดด้านสภาพคล่องภายในประเทศและความต้องการใช้เงินเพื่อโครงการลงทุนภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าหนี้ต่างประเทศของรัฐบาลลาวจะยังเพิ่มขึ้นต่อไปแม้จะเป็นระดับที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม โดยสัดส่วนหนี้ต่างประเทศของภาครัฐคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 54% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product) ในปี 2561 เทียบกับสัดส่วนประมาณ 50% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปีก่อนหน้า
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเติบโตดีในปี 2561
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงของ สปป. ลาว คาดว่าจะขยายตัวดีในอัตรา 6.4% ในปี 2561 ตามข้อมูลจากธนาคารแห่ง สปป. ลาว โดยทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของ สปป. ลาว ในปี 2562 เมื่อพิจารณาจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงแล้วจะขยายตัวอยู่ในช่วงระหว่าง 6.5%-6.8% โดยมีปัจจัยหนุนจากกิจกรรมในภาคการท่องเที่ยว การก่อสร้าง และการส่งออกที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของ สปป. ลาว ได้ในระยะสั้นถึงปานกลางเช่นกัน
ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น
ในปี 2560 ดุลการคลังของรัฐบาล สปป. ลาว ขาดดุล 954 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 5.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ยอดการขาดดุลการคลังในปี 2561 คาดว่าจะลดลงจากปี 2560 โดยคาดว่าจะมีสัดส่วน 4.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่า ในปี 2561 รายได้ของรัฐบาลลาวจะขยายตัวเพียงประมาณ 2% ในขณะที่งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะลดลง 2.5% อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าการขาดดุลงบประมาณภาครัฐในปี 2562 จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายเพื่อการลงทุนในโครงการภาครัฐซึ่งจะใช้เงินจากการกู้เงินของรัฐบาล ดังนั้น หนี้ของรัฐบาลลาวจึงคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ทั้งนี้ การขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้น ตลอดจนความสำเร็จของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศของรัฐบาลแห่ง สปป. ลาว จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาลและจะลดระดับการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศลงได้ในระยะยาว
?
เงินกู้พหุภาคีและทวิภาคีเป็นสัดส่วนใหญ่ของหนี้ต่างประเทศของรัฐบาล
เงินกู้ทวิภาคีซึ่งส่วนมากเป็นเงินกู้โครงการ (Project Loans) ระยะยาวแบบทยอยชำระคืนเงินต้นเพื่อใช้ในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลคิดเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดคือ 65% ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของรัฐบาลลาว (9,762 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ณ สิ้นปี 2561 ทั้งนี้ มากกว่า 50% ของหนี้ต่างประเทศคงเหลือซึ่งรวมเงินกู้ทวิภาคีและพหุภาคีนั้นเป็นหนี้ของเจ้าหนี้จากประเทศจีน ในขณะเดียวกัน พันธบัตรรัฐบาลของ สปป. ลาว ที่ออกในประเทศไทยมีมูลค่าคงเหลือประมาณ 1,613 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 16.5% ของมูลค่าหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของรัฐบาลในปี 2561 โดยในจำนวนนี้เป็นพันธบัตรรัฐบาลที่ออกในประเทศไทยซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดชำระในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่จะถึงนี้
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานมุมมองของทริสเรทติ้งว่าอันดับเครดิตที่ได้รับการปรับลดลงนั้นสะท้อนถึงสถานะเครดิตของ สปป. ลาว ในระยะปานกลาง และเห็นว่า รัฐบาลแห่ง สปป. ลาว จะสามารถกู้ยืมเงินก้อนใหม่เพื่อนำมาใช้จ่ายชำระคืนหนี้ที่จะถึงกำหนดในช่วงปี 2562-2563 ได้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิต/แนวโน้มเปลี่ยนแปลง
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นอยู่กับการลดลงของหนี้ต่างประเทศของรัฐบาลแห่ง สปป. ลาว รวมถึงการเพิ่มขึ้นของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ และการลดลงของการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ในทางกลับกัน การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศและการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของหนี้ต่างประเทศของรัฐบาลก็อาจนำไปสู่การลดอันดับเครดิตของ สปป. ลาว ได้ในอนาคต
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของประเทศ (Sovereign Credit Rating), 8 ตุลาคม 2556
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว)
อันดับเครดิตประเทศ: BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MOFL19NA: พันธบัตรรัฐบาล 4,802.90 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 BBB
MOFL206A: พันธบัตรรัฐบาล 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB
MOFL20OA: พันธบัตรรัฐบาล 2,791.30 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB
MOFL21NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,870.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 BBB+ BBB
MOFL21NB: พันธบัตรรัฐบาล 1,767.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 BBB+ BBB
MOFL22OA: พันธบัตรรัฐบาล 1,019.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 BBB
MOFL23NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,063.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB
MOFL23NB: พันธบัตรรัฐบาล 2,546.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB
MOFL24OA: พันธบัตรรัฐบาล 340.90 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB
MOFL256A: พันธบัตรรัฐบาล 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB
MOFL26NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,370.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 BBB
MOFL27OA: พันธบัตรรัฐบาล 2,967.00 ล้านบาท ไถ่ถอน 2570 BBB
MOFL28NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,891.30 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 BBB
MOFL28NB: พันธบัตรรัฐบาล 532.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 BBB
MOFL29OA: พันธบัตรรัฐบาล 1,505.50 ล้านบาท ไถ่ถอน 2572 BBB
MOFL30NA: พันธบัตรรัฐบาล 2,153.20 ล้านบาท ไถ่ถอน 2573 BBB
MOFL32OA: พันธบัตรรัฐบาล 5,375.50 ล้านบาท ไถ่ถอน 2575 BBB
MOFL25DA: พันธบัตรรัฐบาล 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2568 BBB
MOFL27DA: พันธบัตรรัฐบาล 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2570 BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable