ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ” ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 15, 2019 15:37 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด (สอ.รพ.) ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลประกอบการทางการเงินในระดับที่น่าพอใจของ สอ.รพ. ตลอดจนคุณภาพสินเชื่อที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสิทธิพิเศษด้านกฎระเบียบที่สหกรณ์ได้รับการยกเว้นภาษีและมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตลดทอนลงบางส่วนจากเกณฑ์การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วไปที่ค่อนข้างอ่อนแอ รวมทั้งการที่ สอ.รพ. มีนโยบายเชิงรุกในการระดมเงินทุนที่ต้องพึ่งพิงเงินฝากจากสมาชิกสมทบเป็นอย่างมาก การมีโครงสร้างเงินทุนที่ค่อนข้างอ่อนแอ และความเสี่ยงที่ต้องพึ่งพิงบุคคลสำคัญในคณะผู้บริหาร

การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความพร้อมของ สอ.รพ. ต่อการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบภายหลังจากที่กฎระเบียบใหม่ที่ใช้ควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์มีผลบังคับใช้ด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ความพร้อมของ สอ.รพ. ต่อการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ

กฎระเบียบใหม่ที่ใช้ควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์คือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ในเบื้องต้นแล้ว พ.ร.บ. ดังกล่าวใช้ในการกำกับดูแลสหกรณ์ให้เข้มงวดขึ้นทั้งในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการรับฝากเงิน การให้กู้ยืม และการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ ทริสเรทติ้งเห็นว่ากฎระเบียบใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในระยะยาวของสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญองค์ประกอบหนึ่งของระบบการเงินไทย

ทริสเรทติ้งมองว่า สอ.รพ. มีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับกฎระเบียบใหม่โดยไม่มีประเด็นกังวลร้ายแรงเกี่ยวกับผลกระทบต่อการดำเนินงานของ สอ.รพ. ทริสเรทติ้งคาดว่าการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอาจจะเป็นอุปสรรคต่อโอกาสในการเติบโตและจะทำให้ผลประกอบการทางการเงินของ สอ.รพ. อ่อนแอลงในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงสร้างเงินทุนที่เข้มงวดขึ้นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ สอ.รพ. อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมิได้คาดหวังว่าผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ สอ.รพ. จะทำให้มุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อสถานะเครดิตโดยรวมของ สอ.รพ. เปลี่ยนแปลงไป ในทางกลับกัน กฎระเบียบใหม่น่าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งในการบริหารความเสี่ยงและโครงสร้างทุน รวมถึงช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพในระยะยาวให้แก่ สอ.รพ. ได้ด้วย

สหกรณ์ออมทรัพย์จะยังคงได้รับสิทธิพิเศษภายใต้กฎระเบียบใหม่

สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ได้รับอันได้แก่ การยกเว้นภาษีหลัก ๆ ทุกประเภทและการมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ จะยังคงมีอยู่ต่อไปภายใต้กฎระเบียบใหม่ กล่าวคือ สหกรณ์ออมทรัพย์และสมาชิกได้รับการยกเว้นภาษีหลัก ๆ ทุกประเภท เช่น ภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีจากเงินลงทุน ตาม พ.ร.บ. สหกรณ์นั้น สอ.รพ. ยังมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ในการได้รับดอกเบี้ยและการได้รับชำระคืนเงินกู้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีข้อได้เปรียบในการให้กู้แก่สมาชิกเหนือกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ ในขณะที่เงินกู้ส่วนใหญ่ที่ให้แก่สมาชิกสามัญของสหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมินั้นดำเนินการภายใต้ข้อตกลงกับนายจ้างหรือหน่วยงานต้นสังกัดว่าการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของเงินกู้ตามงวดนั้นสามารถใช้วิธีหักจากเงินเดือนของสมาชิกได้ ส่งผลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมิส่วนใหญ่มีคุณภาพเครดิตที่ดีและช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายหนี้เสียของเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกของสหกรณ์ด้วย

เงินให้กู้ยืมมีคุณภาพดี

สอ.รพ. ไม่มีเงินให้กู้ยืมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค้างชำระมากกว่า 90 วัน) มาตั้งแต่รอบปีบัญชี 2550 ทั้งจากเงินที่ให้กู้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นและเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกสามัญ ในปี 2561 สอ.รพ. ได้มีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญไว้จำนวน 109 ล้านบาทเพื่อรองรับการจัดชั้นสินทรัพย์และการกันเงินสำรองตามกฎระเบียบใหม่

เงินให้กู้รวมของ สอ.รพ. รักษาระดับอยู่ที่ครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์รวมในช่วงรอบปีบัญชี 2556-2560 โดยอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ระหว่าง 52%-57% ในช่วง 5 ปีดังกล่าว จากนั้นก็ปรับลดลงเป็น 48% ณ เดือนมีนาคม 2562 โดย 84% ของเงินให้กู้ยืมทั้งหมดนั้นเป็นเงินที่ให้กู้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกสามัญของ สอ.รพ. เอง สอ.รพ. ได้ขยายปริมาณเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นมาตั้งแต่รอบปีบัญชี 2553 โดยเงินให้กู้ยืมดังกล่าวได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินลงทุนของ สอ.รพ. เอง เนื่องจากจวบจนถึงปัจจุบัน ความต้องการเงินกู้ยืมจากสมาชิกของ สอ.รพ. ยังอยู่ในระดับต่ำ

สอ.รพ. สามารถจัดการกับความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาได้ ทั้งนี้ เงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายใหญ่ 10 อันดับแรกคิดเป็นสัดส่วน 29% ของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นโดยรวม ณ เดือนมีนาคม 2562 ซึ่งลดลงจากระดับที่มากกว่า 50% ในปี 2558 ทริสเรทติ้งคาดหวังว่า สอ.รพ. จะลดความเสี่ยงการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นได้มากกว่านี้จากข้อบังคับของกฎระเบียบใหม่ที่จำกัดเงินให้กู้ยืมแก่ลูกหนี้รายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น

ข้อด้อยของการกำกับดูแล

การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มงวดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินซึ่งมีการกำกับดูแลที่ใกล้ชิดและเข้มงวดมากกว่า ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นข้อด้อยสำคัญที่สร้างข้อจำกัดให้แก่สถานะอันดับเครดิตของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย ถึงแม้ว่ากรอบกฎระเบียบใหม่จะช่วยควบคุมกิจการของสหกรณ์ได้เข้มงวดยิ่งขึ้น แต่กฎระเบียบดังกล่าวก็ไม่ได้รับประกันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งหมดจะยึดมั่นกับกฎระเบียบใหม่ได้จริงหรือไม่ การบังคับใช้กฎระเบียบทั้งหลายให้มีประสิทธิภาพได้นั้นจะต้องมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ปฏิบัติตาม ซึ่งดูเหมือนว่าจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

การพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากสมาชิกภายนอกมากเกินไป

เงินทุนของ สอ.รพ. มาจากเงินฝากของสมาชิกเป็นหลัก โดยสมาชิกของ สอ.รพ. จำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ สมาชิกสามัญและสมาชิกสมทบ ซึ่งโดยเงื่อนไขของสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วไป สมาชิกสามัญจะต้องเป็นพนักงานของหน่วยงานต้นสังกัด ดังนั้น ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ประจำของโรงพยาบาลตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเป็นกลุ่มบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกสามัญของ สอ.รพ. ได้เท่านั้น ส่วนสมาชิกสมทบของ สอ.รพ. นั้นคือสมาชิกที่ไม่ได้เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ประจำของโรงพยาบาลตำรวจแต่มีความเกี่ยวข้องกับสมาชิกสามัญของ สอ.รพ. หรือมีความเกี่ยวข้องในทางใดทางหนึ่งกับ สอ.รพ. ความพยายามในการขยายฐานเงินฝากในช่วงที่ผ่านมาทำให้ สอ.รพ. มีเกณฑ์การรับสมาชิกสมทบที่ค่อนข้างผ่อนปรน

หากพิจารณาจากเงินฝากจากสมาชิกทั้งหมดของ สอ.รพ. ณ เดือนมีนาคม 2562 แล้วจะเห็นว่าประมาณ 85% เป็นเงินฝากจากสมาชิกสมทบและอีก 15% มาจากสมาชิกสามัญ การมีอัตราดอกเบี้ยที่ดึงดูดใจและการได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้จากดอกเบี้ยรับช่วยให้ สอ.รพ. สามารถระดมเงินทุนจำนวนมากจากเงินฝากออมทรัพย์จากสมาชิกสมทบ การพึ่งพิงแหล่งเงินทุนภายนอกจากสมาชิกสมทบมากเกินไปส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของฐานเงินทุนในระยะยาวของ สอ.รพ. ทั้งนี้ สมาชิกสมทบส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะคงเงินฝากเอาไว้เพียงเพราะ สอ.รพ. ยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่น่าสนใจเท่านั้น ซึ่งต่างจากสมาชิกสามัญที่ยังมีผลประโยชน์อื่น ๆ จากการเป็นสมาชิกของ สอ.รพ.

เพื่อที่จะลดทอนความเสี่ยงจากเงินฝากที่มาจากสมาชิกสมทบดังกล่าวลง สอ.รพ. จึงได้ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องให้เพียงพอและคงวงเงินกู้ยืมที่มีกับสถาบันการเงินอื่น ๆ เอาไว้โดยยังไม่เบิกใช้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าระดับความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของ

สอ.รพ. อยู่ในระดับที่จัดการได้ตราบใดที่ สอ.รพ. ยังคงมีสิทธิพิเศษทางภาษีที่สามารถเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ดึงดูดใจและยังคงนโยบายการลงทุนที่ระมัดระวังเพื่อที่จะดำรงสัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเอาไว้ได้ ในอนาคตทริสเรทติ้งคาดหวังว่า สอ.รพ. จะทยอยลดเงินรับฝากจากสมาชิกสมทบลงจากผลของการบังคับใช้กฎระเบียบใหม่ซึ่งมีกฎเกณฑ์ในการรับสมาชิกสมทบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

โครงสร้างเงินทุนที่อ่อนแอ

โครงสร้างเงินทุนของ สอ.รพ. อยู่ในระดับที่อ่อนแอจากการมีนโยบายการระดมทุนในเชิงรุก แม้ว่าทุนเรือนหุ้นที่จดทะเบียนแล้วของ สอ.รพ. จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การขยายฐานเงินฝากในเชิงรุกซึ่งส่วนใหญ่มาจากสมาชิกสมทบนั้นยังคงกดดันอัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์รวมของ สอ.รพ. อยู่ อนึ่ง ด้วยนโยบายการระดมทุนที่ใช้เงินรับฝากเป็นหลัก โครงสร้างเงินทุนของ สอ.รพ. จะคงอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ต่อไปในระยะยาวแม้ว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ณ เดือนมีนาคม 2562 หลังจาก สอ.รพ. ลดฐานเงินฝากจากสหกรณ์อื่นลงก็ตาม ในขณะที่สหกรณ์ออมทรัพย์รายใหญ่อื่น ๆ ที่ก่อตั้งมายาวนานมีอัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์รวมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับประมาณ 40%

ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงบุคคลสำคัญ

ตั้งแต่รอบปีบัญชี 2552 เป็นต้นมา สอ.รพ. สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกที่ถือหุ้นในระดับสูงสุดเท่าที่กฎหมายอนุญาตคือ 10% ของทุนเรือนหุ้นที่ชำระแล้ว สถานะทางการเงินและผลประกอบการของ สอ.รพ. ค่อนข้างขึ้นอยู่กับสมาชิกสำคัญรายหนึ่งในคณะผู้บริหาร ซึ่งทริสเรทติ้งเห็นว่าการดำเนินงานของ สอ.รพ. มีการพึ่งพิงบุคคลเพียงรายเดียวมากเกินไป ปัจจุบัน สอ.รพ. มีความพยายามที่จะลดทอนความเสี่ยงจากการต้องพึ่งพิงบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากเกินไปด้วยการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายและกระบวนการดำเนินงานให้เป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการสนับสนุนกิจกรรมของธุรกิจหลักทั้งหมดของ สอ.รพ. ด้วย

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• เงินทุนจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 10%-15% ต่อปีในช่วงปีบัญชี 2562-2565

• เงินให้กู้ยืมจะชะลอตัวลงในอัตราเฉลี่ย 2%-7% ต่อปีในช่วงปีบัญชี 2562-2565

• ส่วนต่างดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วง 0.37%-0.46% ในช่วงปีบัญชี 2562-2565

• เงินฝากจากสมาชิกสมทบจะค่อย ๆ ลดลง

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า สอ.รพ. จะสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ต่อไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่า สอ.รพ. จะสามารถปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ได้อีกด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

แนวโน้มการเพิ่มอันดับเครดิตของ สอ.รพ. มีค่อนข้างจำกัดจากกรอบการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งยังขาดการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในทางตรงกันข้าม การบังคับใช้กฎระเบียบใหม่อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสถานะเครดิตของ สอ.รพ. การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากนโยบายในการดำเนินงานและการเงินในเชิงรุกทำให้สถานะเครดิตโดยรวมของ สอ.รพ. อ่อนแอลง นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใดใดที่จะลดทอนสิทธิพิเศษของสหกรณ์ออมทรัพย์ก็อาจมีผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ สอ.รพ. ได้ด้วยเช่นกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตสหกรณ์ออมทรัพย์, 30 มีนาคม 2558

สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด (PHSC)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ