ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ซิงเกอร์ประเทศไทย” ที่ “BBB-” แนวโน้ม “Negative”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 11, 2019 16:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังคงอ่อนแอของบริษัท ตลอดจนผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย และสถานะทางการตลาดที่ยังคงอยู่ในระดับพอประมาณ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความเข้มแข็งในด้านทุนของบริษัทภายหลังจากการเพิ่มทุน ทั้งนี้ แผนการขยายธุรกิจใหม่ของบริษัทถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก แต่เพื่อที่จะให้เป็นผลดีต่ออันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิต บริษัทก็จำเป็นจะต้องมีการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์เป็นอย่างดีโดยที่ผลประกอบการสามารถฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นอย่างมั่นคงได้ในระยะเวลาที่ยาวนานในระดับหนึ่ง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

คุณภาพสินทรัพย์ยังคงเป็นประเด็นกังวลต่ออันดับเครดิต

คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทยังคงเป็นประเด็นกังวลที่สำคัญเนื่องจากอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วันต่อสินเชื่อรวม) ของบริษัทยังคงสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผลประกอบการขาดทุนในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีบางส่วนของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 10.5% ณ สิ้นปี 2561 จาก 17.2% ณ เดือนมิถุนายน 2561 ภายหลังจากที่บริษัทได้มีการปรับปรุงกระบวนการเก็บหนี้และการขยายสู่ธุรกิจใหม่คือสินเชื่อที่มีทะเบียนรถยนต์เป็นประกัน ซึ่งคุณภาพสินทรัพย์ของธุรกิจใหม่นั้นค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม การที่สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นผลในด้านบวกต่ออันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิต บริษัทจำเป็นที่จะต้องรักษาคุณภาพสินทรัพย์ของธุรกิจใหม่ให้คงไว้ ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ควรจะต้องปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ของธุรกิจดั้งเดิมให้ดีขึ้นและดำรงเอาไว้ให้ได้ในระยะปานกลาง

ในขณะเดียวกันนั้น ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทซึ่งอยู่ที่ระดับ 32% ณ เดือนมิถุนายน 2562 นั้นก็ค่อนข้างต่ำเกินไปเมื่อพิจารณาจากสถานะความเสี่ยงด้านเครดิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท นอกจากนี้ มาตรฐานบัญชีฉบับใหม่ (IFRS9) ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2563 นั้นก็อาจกดดันให้บริษัทต้องตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงด้านเครดิตอีกด้วย

ผลกำไรคาดว่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้น

ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าผลประกอบการของบริษัทจะกลับมามีกำไรและจะทยอยปรับตัวดียิ่งขึ้นในระหว่างปี 2563-2564 โดยอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยคาดว่าน่าจะอยู่ในระดับ 2.7%-3.1% ในระหว่างปี 2562-2564 ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งที่บริษัทจะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5% ทั้งนี้ ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถยนต์เป็นประกันเป็นธุรกิจที่ทริสเรทติ้งคาดว่าจะขับเคลื่อนให้รายได้ของบริษัทเติบโต โดยบริษัทได้เริ่มขยายสู่ธุรกิจใหม่นี้มาตั้งแต่ที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจในปี 2560

ในปี 2561 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 81 ล้านบาทอันเนื่องมาจากการที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญจำนวนมากถึง 184 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2561 เป็นสำคัญ สำรองหนี้สูญที่เพิ่มสูงขึ้นเกิดจากการที่บริษัทเปลี่ยนระบบการเก็บเงินค่าผ่อนชำระสินค้า หลังจากรับรู้ถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว บริษัทจึงได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเก็บเงินมาเป็นให้พนักงานเก็บตามเดิม ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับการปรับปรุงกระบวนการทำงานมาเป็นระบบใหม่แล้วก็ทำให้ผลกำไรสุทธิของบริษัทค่อย ๆ พลิกกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 เป็นต้นมา

การเปลี่ยนพอร์ตสินเชื่อทำให้เกิดผลดีต่อคุณภาพสินทรัพย์แต่ก็ทำให้อัตราผลตอบแทนของสินเชื่อลดลงด้วย

ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่านโยบายเชิงกลยุทธ์ในการปรับพอร์ตสินเชื่อของบริษัทไปเป็นสินเชื่อที่มีทะเบียนรถยนต์เป็นประกันมากขึ้นนั้นทำให้คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทดีขึ้นเมื่อเทียบกับธุรกิจเดิมซึ่งได้แก่ลูกหนี้เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธุรกิจใหม่อยู่ที่ระดับ 0.3% ณ เดือนมิถุนายน 2562 เมื่อเทียบกับธุรกิจเดิมซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.5% เนื่องจากบริษัทยังคงเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อในธุรกิจใหม่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทน่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้า ๆ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในอนาคตลงได้

ในทางกลับกัน อัตราผลตอบแทนของสินเชื่อโดยรวมมีแนวโน้มที่จะลดลงเนื่องจากธุรกิจใหม่มีอัตราผลตอบแทนของสินเชื่อที่ประมาณ 15% เมื่อเทียบกับธุรกิจเดิมที่มีมากกว่า 20% ทริสเรทติ้งจึงเชื่อว่าสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างมั่นคง ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายหนี้สูญที่ลดลงจะสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ณ สิ้นปี 2561 สัดส่วนของลูกหนี้เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าคิดเป็นประมาณ 70% ของสินเชื่อรวมของบริษัท ในขณะที่สัดส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจใหม่ ตามสมมติฐานการเติบโตในระดับพอประมาณของลูกหนี้เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินเชื่อที่มีทะเบียนรถยนต์เป็นประกันที่เติบโตในระดับ 60% ในปี 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าสัดส่วนของลูกหนี้สินเชื่อที่มีทะเบียนรถยนต์เป็นประกันน่าจะปรับเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 40% ณ สิ้นปี 2562 และมีแนวโน้มจะค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไป

?

การเพิ่มทุนทำให้ขยายฐานการก่อหนี้

ฐานทุนของบริษัทแข็งแรงขึ้นภายหลังจากการเพิ่มทุนในเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งส่งผลทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1.2 เท่าเมื่อเทียบกับ 2.2 เท่าก่อนที่จะมีการเพิ่มทุน ภาระหนี้ที่ต่ำลงช่วยสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจของบริษัทได้ในระดับหนึ่งในกรณีที่มีการกู้ยืมเงินเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตามข้อกำหนดทางการเงินที่สำคัญของหุ้นกู้ บริษัทจำเป็นจะต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเอาไว้ไม่ให้เกิน 3 เท่า

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน (ในระหว่างปี 2562-2564)

• การขยายตัวของสินเชื่อคงค้างจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 15% ต่อปี

• ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับ 9.5%-10.5%

• ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจะอยู่ในระดับ 10% ต่อปี

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงความเห็นของทริสเรทติ้งว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทยังคงเป็นประเด็นกังวลที่สำคัญในขณะที่บริษัทควรจะดำรงผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นนั้นให้มีความยั่งยืนต่อไปในระยะปานกลาง ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งก็คาดหวังว่าบริษัทจะคุมให้ภาระหนี้อยู่ในระดับที่รับได้ไปพร้อมกับการรักษาฐานทุนให้แข็งแกร่งเอาไว้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีจำกัดในระยะใกล้ ในขณะที่การปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตมาเป็น “Stable” หรือ “คงที่” หรืออันดับเครดิตที่ปรับเพิ่มขึ้นจะเกิดขึ้นได้นั้นบริษัทจำเป็นจะต้องบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีในขณะเดียวกันกับที่ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนานในระดับหนึ่ง

อันดับเครดิตอาจปรับลดลงหากคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทเสื่อมถอยลงจนส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของบริษัท หรือบริษัทมีภาระหนี้ต่อทุนมากเกินกว่าข้อกำหนดของหุ้นกู้หรือเจ้าหนี้

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- การจัดอันดับเครดิตบริษัทให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร, 7 พฤษภาคม 2561

บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (SINGER)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ