ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี” ที่ระดับ “BBB” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 19, 2019 17:45 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (กองทรัสต์ฯ) ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสินทรัพย์ของกองทรัสต์ฯ ที่มีขนาดเล็กและค่อนข้างกระจุกตัว ตลอดจนภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากแผนการปรับปรุงโรงแรมที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนในโครงการ “โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์” (Dusit Thani Maldives) รวมทั้งธรรมชาติของธุรกิจโรงแรมที่มีลักษณะเป็นวงจรและมีความผันผวน นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการที่กองทรัสต์ฯ มีความเสี่ยงในเชิงลบจากการมีรายได้ค่าเช่าขั้นต่ำสัญญาเช่าของกองทรัสต์ฯ คือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อีกด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สินทรัพย์ขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงจากการกระจุกตัว

กองทรัสต์ฯ มีสินทรัพย์และรายได้ที่มีขนาดเล็ก ทั้งนี้ สินทรัพย์ดังกล่าวประกอบไปด้วยโรงแรม 4 แห่งในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำซึ่งมีการแข่งขันสูงทั้งในประเทศไทยและในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ได้แก่ “โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต” “โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน” “โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่” และ “โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์” ที่กองกองทรัสต์ฯ เพิ่งเข้าลงทุนไปปลายเดือนกันยายน 2562 ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2562 กองกองทรัสต์ฯ มีมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าตามมูลค่ายุติธรรมรวม 6.77 พันล้านบาท ในขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 รายได้ค่าเช่ามีจำนวนรวมทั้งสิ้น 158 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากโรงแรมในประเทศไทยเป็นหลัก

รายได้ค่าเช่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหลังจากการรวมผลการดำเนินงานของ โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ เข้ามา แต่ก็ยังถือว่ามีขนาดเล็กเชิงเปรียบเทียบ และความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของรายได้จะยังคงมีอยู่ต่อไปเนื่องจากประมาณ 60% ของรายได้ค่าเช่าของกองทรัสต์ฯ จะมาจาก โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

ความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้นหลังจากการปรับปรุงโรงแรมแล้วเสร็จ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โรงแรมของกองทรัสต์ฯ ไม่สามารถตั้งราคาค่าห้องที่สูงได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านคุณภาพของสินทรัพย์ อีกทั้งยังเป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรงภายในอุตสาหกรรมโรงแรมอีกด้วย ปัจจุบันกองทรัสต์ฯ กำลังดำเนินการปรับปรุงโรงแรมเพื่อพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสามารถกำหนดราคาค่าห้องพักให้สูงขึ้นได้

ในส่วนของโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต นั้นได้ใช้เวลาดำเนินการปรับปรุงในช่วงปี 2560-2561 จนแล้วเสร็จ ส่งผลให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (Revenue per Available Room -- RevPar) เพิ่มขึ้น 7% ในปี 2561 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยอยู่ที่ 3,361 บาทต่อห้องต่อคืน จาก 3,149 บาทต่อห้องต่อคืนในปี 2560 สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ 3,298 บาทต่อห้องต่อคืน เทียบกับอัตรา 3,302 บาทต่อห้องต่อคืนในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ในระหว่างปี 2562-2564 ทริสเรทติ้งคาดว่า อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยที่ระดับ 3%-5% ต่อปี

อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อยู่ที่ 2,042 บาทต่อห้องต่อคืนในปี 2561 ใกล้เคียงกับปี 2560 ซึ่งอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนมีอัตราลดลง 13% โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงในเดือนมิถุนายน 2562 โดยจะใช้เวลา 2 ปี เพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของโรงแรม สำหรับช่วงเวลา 9 เดือนแรกของปี 2562 อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของโรงแรมดุสิตธานี หัวหินอยู่ที่ 1,590 บาทต่อห้องต่อคืน ลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยคาดว่าอัตราค่าห้องพักจะได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงโรงแรม ในระหว่างปี 2562-2563 ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของ

ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จะอยู่ที่ 1,600-1,900 บาทต่อห้องต่อคืนในช่วงการปรับปรุงดังกล่าวและจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 2,300 บาทต่อห้องต่อคืนในปี 2564 เมื่อการปรับปรุงโรงแรมแล้วเสร็จ

อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของโรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ อยู่ที่ 2,114 บาทต่อห้องต่อคืนในปี 2561 ลดลง 5% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยอยู่ที่ 1,767 บาทต่อห้องต่อคืน โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากภาวะฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2562 ประกอบกับการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของ โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ จะใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าหรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงปี 2562-2563 ก่อนที่จะลดลงอย่างมากในปี 2564 เมื่อโรงแรมเข้าสู่การปรับปรุงครั้งใหญ่ตามแผน

ผลการดำเนินงานของโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากการทำการตลาดเชิงรุก ในปี 2561 อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของ โรงแรมดังกล่าวอยู่ที่ 444 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อห้องต่อคืน เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อห้องต่อคืน ในขณะที่ช่วง 9เดือนแรกของปี 2562 อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 427 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อห้องต่อคืน ในปี 2561 โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปรับตัวดีขึ้นเป็น 8.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 7.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ จะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยที่ระดับ 1%-5% ต่อปีในช่วงปี 2562-2564

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีต่อผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ฯ คือการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม การชะลอตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งล้วนส่งผลทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่มีความน่าดึงดูดใจน้อยลง

ความเสี่ยงในด้านลบที่จำกัด

จากการที่กฎหมายกำหนดกฎระเบียบที่เกี่ยวกับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ห้ามไม่ให้ทรัสต์หรือกองทรัสต์ฯดำเนินการบริหารโรงแรมเอง กองทรัสต์ฯ จึงต้องนำโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ และโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ไปให้ บริษัท ดุสิต แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกรายหนึ่งของบริษัทดุสิตธานี ทำการเช่าหรือเช่าช่วง ซึ่งสัญญาเช่าและเช่าช่วงโรงแรมทั้ง 3 แห่งดังกล่าวมีกำหนดเวลาคราวละ 3 ปี โดยที่กองทรัสต์ฯ มีสิทธิ์ต่ออายุสัญญาได้อีก 4 ครั้งจนถึงปี 2574

เนื่องด้วยสินทรัพย์ที่กองทรัสต์ฯ เข้าไปลงทุนนั้นเป็นโรงแรม รายได้จากการดำเนินงานของกองทรัสต์ฯ จึงมีความผันผวนและมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงดังกล่าวได้รับการป้องกันจากค่าเช่าคงที่ที่กำหนดให้ ผู้เช่าคือบริษัทดุสิต แมนเนจเม้นท์จะต้องจ่ายตลอดอายุสัญญาซึ่งจะต้องมีการปรับใหม่ทุกปีตามผลประกอบการจริงของโรงแรมแต่ละแห่งแต่ต้องไม่ต่ำกว่า 205 ล้านบาท นอกจากค่าเช่าคงที่แล้ว บริษัทดุสิต แมนเนจเม้นท์ยังจะต้องจ่ายค่าเช่าแปรผันในสัดส่วน 85% ของผลการดำเนินงาน ที่บริษัททำได้หลังหักส่วนของค่าเช่าคงที่และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโรงแรมแล้วอีกด้วย

สำหรับโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ นั้น บริษัท ดุสิต มัลดีฟส์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทดุสิตธานี จะเช่าช่วงโรงแรมมาบริหารในระยะเวลา 21 ปี โดยบริษัทดุสิต มัลดีฟส์ แมนเนจเม้นท์ จะชำระค่าเช่าคงที่ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีและจะชำระค่าเช่าแปรผันในสัดส่วน 90% ของผลการดำเนินงานที่บริษัททำได้หลังหักส่วนของค่าเช่าคงที่และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโรงแรมแล้ว

ภายใต้สมมติฐานพื้นฐาน ทริสเรทติ้งได้พิจารณารวมไปถึงการที่กองทรัสต์ฯ จะเริ่มมีรายได้จากโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 โดยทริสเรทติ้งประมาณการว่า EBITDA จากโรงแรมทั้ง 4 แห่งรวมกันจะเป็นรายได้ค่าเช่าของกองทรัสต์ฯ อย่างน้อย 270 ล้านบาทในปี 2562 และ 470-500 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2564 ในการนี้ ทริสเรทติ้งประมาณการว่ากองทรัสต์ฯ เองจะมี EBITDA จำนวน 245 ล้านบาทในปี 2562 และ 420-445 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2564 และจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานจำนวน 200 ล้านบาทในปี 2562 และ 310-335 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2564

ภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้น

ภาระหนี้ของกองทรัสต์ฯ เพิ่มขึ้นจากการเข้าลงทุนในโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ และการมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรม การซื้อกิจการโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์เสร็จสิ้นในเดือนกันยายน 2562 โดยกองทรัสต์ฯ ใช้เงินไปจำนวน 2.36 พันล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากการเพิ่มทุนจากผู้ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1.78 พันล้านบาทและส่วนที่เหลือมาจากเงินกู้ยืม ณ เดือนกันยายน 2562 กองทรัสต์ฯ มีเงินกู้ยืมรวม 1.49 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 599 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2561 ในขณะที่งบในการปรับปรุงโรงแรมอยู่ที่ 276 ล้านบาทในปี 2562 และ 150-220 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2563-2564

ทริสเรทติ้งคาดว่ากองทรัสต์ฯ จะมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 29%-32% ในระหว่างปี 2562-2564 เทียบกับระดับ 13.1 ในปี 2561 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 5-6 เท่าในช่วงปี 2562-2564 จาก 2.7 เท่าในปี 2561 และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วจะลดลง ไปอยู่ที่ระดับ 12%-14% ในช่วงปี 2562-2564 จากระดับ 33% ในปี 2561

สภาพคล่องเพียงพอ

ทริสเรทติ้งประเมินว่ากองทรัสต์ฯ จะมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า โดยแผนการใช้เงินของกองทรัสต์ฯ จะประกอบไปด้วยแผนลงทุนเบื้องต้นจำนวนทั้งสิ้น 400-460 ล้านบาทและการจ่ายเงินปันผลอีกจำนวน 180-260 ล้านบาท โดยแหล่งที่มาของเงินทุนที่สำคัญ ได้แก่ เงินทุนจากการดำเนินงานอย่างน้อย 200 ล้านบาทในปี 2562 และอย่างน้อย 310 ล้านบาทในปี 2563 รวมทั้งเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ เดือนกันยายน 2562 จำนวน 136 ล้านบาท และวงเงินกู้จากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 456 ล้านบาท

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

• EBITDA จากโรงแรมทั้ง 4 แห่งรวมกันจะเป็นรายได้ค่าเช่าของกองทรัสต์ฯ จำนวนอย่างน้อย 270 ล้านบาทในปี 2562 และ 470-500 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2564

• กองทรัสต์ฯ เองจะมี EBITDA จำนวน 245 ล้านบาทในปี 2562 และ 420-445 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2563-2564

• เงินทุนจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ที่ 200 ล้านบาทในปี 2562 และ 310-335 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2564

• งบปรับปรุงโรงแรมอยู่ที่จำนวน 276 ล้านบาทในปี 2562 และ 150-220 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2563-2564

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าสินทรัพย์ของกองทรัสต์ฯ จะยังคงสร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนจากรายได้ค่าเช่าต่อไป ในขณะที่การลงทุนเพิ่มเติมในกิจการใหม่ ๆ จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากการเพิ่มทุนจากผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของกองทรัสต์ฯ มีจำกัดอันเนื่องมาจากจำนวนสินทรัพย์และรายได้ที่มีขนาดเล็ก ในทางกลับกัน อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากกองทรัสต์ฯ มีการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยใช้การก่อหนี้เป็นจำนวนที่มากเกินกว่าคาดจนส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วสูงเกินกว่า 7.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เนื่องจากแหล่งรายได้ของกองทรัสต์ฯ นั้นมาจากบริษัทดุสิตธานีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ดังนั้น หากคุณภาพเครดิตของบริษัทดุสิตธานีแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญก็อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพเครดิตของกองทรัสต์ฯ ด้วย

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

- กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์, 12 ตุลาคม 2559

กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ