ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” ที่ “A” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 26, 2019 13:55 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ”Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย ตลอดจนการมีโรงภาพยนตร์ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ดีทั่วประเทศ และผลประกอบการที่ดีในธุรกิจสื่อและโฆษณาของบริษัท อย่างไรก็ตาม จุดเด่นดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ปริมาณของภาพยนตร์ที่เข้าฉาย รวมทั้งความเป็นที่นิยมของภาพยนตร์ และการแข่งขันจากกิจกรรมนันทนาการประเภทอื่น

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นผู้นำในธุรกิจโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย

บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 70% ของรายได้จากการฉายภาพยนตร์ในช่วงสัปดาห์แรก ทั้งนี้ การมีสถานะเป็นผู้นำทางการตลาดช่วยให้บริษัทมีอำนาจในการต่อรองกับผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ ผู้ผลิตภาพยนตร์ และผู้จัดหาสินค้าต่าง ๆ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังสามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำดังกล่าวได้เนื่องจากบริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนโรงภาพยนต์ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มจำนวนจอภาพยนตร์ให้เป็น 1,200 จอภายในปี 2568 เมื่อเทียบกับจำนวน 796 จอ ณ เดือนกันยายน 2562 ในการนี้ บริษัทจะเพิ่มจำนวนจอใหม่ในโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่

ปัจจุบันโรงภาพยนตร์ของบริษัทตั้งอยู่ใน 60 จังหวัดทั่วประเทศไทย รวมทั้งในประเทศกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยโรงภาพยนตร์เหล่านี้มักตั้งอยู่ในทำเลที่ดีในเขตเมืองที่มีจำนวนประชากรหนาแน่น เช่น สถานที่ที่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เป็นต้น

ผลการดำเนินงานขึ้นอยู่กับภาพยนตร์ที่ออกฉายทั้งในแง่จำนวนและความนิยม

รายได้จากผู้ชมภาพยนตร์ขึ้นอยู่กับจำนวนภาพยนตร์ที่ออกฉายรวมถึงคุณภาพและความนิยมของภาพยนตร์โดยเฉพาะภาพยนตร์ต่างประเทศ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้จากภาพยนตร์ต่างประเทศมีสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้จากการฉายภาพยนตร์ของบริษัท ทริสเรทติ้งเชื่อว่าผู้ผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวูดจะยังคงสร้างและฉายภาพยนตร์ที่ลงทุนสูงอย่างต่อเนื่องซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดฤดูร้อนและช่วงวันหยุดปลายปี

ความสำเร็จของภาพยนตร์ไทยไม่ได้เป็นแค่เพียงการลดความพึ่งพิงภาพยนตร์ต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อบริษัทในการเพิ่มรายได้อีกด้วย บริษัทมีจำนวนจอภาพยนตร์จำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัดและผู้ชมภาพยนตร์ที่อยู่นอกเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครก็ชื่นชอบภาพยนตร์ไทยมากกว่า บริษัทได้ร่วมมือกับผู้ร่วมทุนหลายรายในการผลิตภาพยนตร์ไทยเพื่อออกฉายในขั้นต่ำจำนวน 10 เรื่องต่อปี ทั้งนี้ จำนวนภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายมากขึ้นจะช่วยให้บริษัทมีรายได้จากโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นและจะลดการพึ่งพิงภาพยนตร์ฮอลลีวูดลง นอกจากนี้ บริษัทยังนำภาพยนตร์ไทยเข้าฉายแทนในช่วงที่มีภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ลงทุนสูงเข้าฉายน้อยได้อีกด้วย ในการนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จากภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์ต่างประเทศจะมีเท่า ๆ กันในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของภาพยนตร์ไทยที่บริษัทผลิตเองนั้นก็ยังต้องได้รับการพิสูจน์ด้วยเช่นกัน

เผชิญกับการแข่งขันจากกิจกรรมนันทนาการประเภทอื่น ๆ

ธุรกิจโรงภาพยนตร์ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากกิจกรรมนันทนาการประเภทอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของความบันเทิงผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งเป็นการสร้างทางเลือกที่มากขึ้นให้แก่ผู้บริโภค ดังนั้น เพื่อตอบสนองต่อการแข่งขัน บริษัทจึงได้มีการปรับปรุงโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องทั้งจอภาพยนตร์ระบบดิจิทัลและระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ นอกจากนี้ บริษัทยังนำเสนอนวัตกรรมโรงภาพยนตร์รูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้บริษัทรักษาความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงสร้างความแปลกใหม่ให้แตกต่างไปจากการชมภาพยนตร์ภายในบ้าน และพัฒนาคุณภาพของประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์ในโรงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากทริสเรทติ้งเชื่อว่ากิจกรรมนันทนาการในรูปแบบอื่น ๆ ยังไม่สามารถทดแทนประสบการณ์จากการชมภาพยนตร์ในโรงได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น พฤติกรรมของผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ในโรงจึงจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนักแม้ว่ากิจกรรมนันทนาการประเภทอื่น ๆ จะมีความแพร่หลายมากขึ้นก็ตาม

ธุรกิจโฆษณาเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดหลัก

ธุรกิจโฆษณายังคงสร้างกระแสเงินสดอย่างมีนัยสำคัญให้แก่บริษัท เนื่องจากธุรกิจสื่อและโฆษณามีค่าใช้จ่ายต่ำ บริษัทจึงได้รับกระแสเงินสดจากธุรกิจดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจากธุรกิจโฆษณาคิดเป็นประมาณ 50% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายทั้งหมดของบริษัท

บริษัทเป็นที่ดึงดูดความสนใจของนักโฆษณาเพราะบริษัทมีโรงภาพยนตร์จำนวนมากในหลากหลายพื้นที่และมีปริมาณลูกค้ามาก บริษัทสามารถเสนอรูปแบบการโฆษณาได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาในโรงภาพยนตร์ บนจอโฆษณาติดผนัง และบนจอโทรทัศน์ที่ติดตั้งภายในและรอบบริเวณโรงภาพยนตร์ โดยผู้โฆษณายังสามารถใช้โรงภาพยนตร์ของบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือเป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมทางการตลาดได้อีกด้วย ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจโฆษณาของบริษัทจะเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ในปี 2562 และ 5% ต่อปีในระหว่างปี 2563-2564

ภาระหนี้ปรับตัวดีขึ้น

ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะปรับตัวลดลงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ 3.2 เท่า (ปรับเป็นสัดส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ส่วนในช่วง 3 ปีข้างหน้านั้น เงินลงทุนของบริษัทคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 600 ล้านบาทถึง 800 ล้านบาทต่อปี ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นเป็นประมาณ 2.5 เท่าในปี 2564

สภาพคล่องอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2562 บริษัทมีแหล่งเงินทุนซึ่งประกอบไปด้วยเงินสดในมือจำนวน 515 ล้านบาทและวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ อีกประมาณ 3.6 พันล้านบาท ส่วนในช่วง 12 เดือนข้างหน้านั้น เงินทุนจากการดำเนินงานก่อนการปรับปรุงสัญญาเช่าดำเนินงานจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 พันล้านบาท สำหรับในช่วง 12 เดือนข้างหน้าบริษัทจะมีภาระในการชำระหนี้จำนวน 2.5 พันล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นหนี้ระยะสั้นจำนวน 2.1 พันล้านบาท ในขณะที่บริษัทจะต้องใช้งบลงทุนตามแผนจำนวนประมาณ 600 ล้านบาทและมีแผนการใช้เงินในการผลิตภาพยนตร์อีกประมาณ 200 ล้านบาท

บริษัทมีการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทหลายแห่ง ได้แก่ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ ณ เดือนกันยายน 2562 มูลค่าทางการตลาดของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทมีจำนวนทั้งสิ้น 6.6 พันล้านบาท ซึ่งมูลค่าทางการตลาดที่อยู่ในระดับสูงจากการลงทุนเหล่านี้จะเป็นส่วนเสริมให้แก่บริษัทในกรณีที่บริษัทมีความต้องการเงินทุน

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของหุ้นกู้ได้ในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ เดือนกันยายน 2562 อยู่ที่ 1.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 1.5 เท่าตามเงื่อนไขของหุ้นกู้ที่กำหนดไว้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2562-2564 ดังต่อไปนี้

• รายได้ของบริษัทจะอยู่ระหว่าง 1.1 หมื่นล้านบาทถึง 1.2 หมื่นล้านบาท

• อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่สูงกว่า 30%

• งบประมาณการลงทุนโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 2.8 พันล้านบาทในช่วงประมาณการ 3 ปี

• อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 2.5 เท่าในปี 2564

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะผู้นำตลาดในธุรกิจโรงภาพยนตร์และรักษาผลประกอบการให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเอาไว้ได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถเพิ่มกระแสเงินสดได้เป็นอย่างมากและอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงอย่างมาก ในขณะที่อันดับเครดิตอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากบริษัทมีการกู้ยืมเงินมาใช้ในการลงทุนจนส่งผลให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) (MAJOR)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MAJOR21OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A
MAJOR229A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ