ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร “บ. ไมโครลิสซิ่ง” ที่ “BB+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 8, 2021 09:53 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BB+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตสะท้อนฐานทุนที่แข็งแกร่งมากของบริษัท ความสามารถในการทำกำไรที่เพียงพอ และการบริหารจัดการความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากการที่บริษัทมีสถานะทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองรวมทั้งสถานะเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับปานกลาง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะทางการตลาดอยู่ในระดับปานกลาง

อันดับเครดิตของบริษัทได้รับแรงกดดันบางส่วนจากสถานะทางการตลาดของบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในธุรกิจเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว) อย่างไรก็ตาม ยอดสินเชื่อของบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ระดับประมาณ 20% ต่อปีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทริสเรทติ้งคาดว่าการเติบโตดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจากการที่บริษัทยังคงขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่บริการมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 บริษัทมีสาขาจำนวน 12 แห่งกระจายอยู่ในเขตภาคกลางซึ่งเชื่อมโยงกับตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกมือสองที่ดำเนินธุรกิจร่วมกับบริษัทกว่า 230 แห่ง

สถานะทางธุรกิจของบริษัทยังได้รับผลกระทบจากการกระจายตัวทางธุรกิจที่อยู่ในระดับพอประมาณ เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจเพียงประเภทเดียวซึ่งมุ่งเน้นสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง จึงส่งผลให้การกระจายตัวทางธุรกิจมีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่จัดสินเชื่อให้แก่สินทรัพย์หลากหลายประเภทกว่า อย่างไรก็ตาม ฐานลูกค้ารายย่อยที่กระจายตัวของบริษัทก็ช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากการสูญเสียลูกค้าหลักรายใดรายหนึ่งไปได้บ้าง

ฐานทุนที่แข็งแกร่งและความสามารถในการสร้างผลกำไรที่เพียงพอ

ปัจจัยที่สนับสนุนอันดับเครดิตของบริษัทคือฐานทุนที่แข็งแกร่งมากและภาระหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำของบริษัท โดยในเดือนกันยายน 2563 บริษัทประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมจำนวน 622 ล้านบาทจากการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ฐานทุนของบริษัทและส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 70.4% ณ สิ้นปี 2563 จาก 53.1% ณ สิ้นปี 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าฐานทุนของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าด้วยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50%-60% โดยมีสมมติฐานที่สินเชื่อจะเติบโตปีละ 20% ในปี 2564-2566 แม้ว่าสินเชื่อจะเติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ทริสเรทติ้งก็เชื่อว่าการสะสมกำไรอย่างต่อเนื่องและนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสมของบริษัทจะเป็นปัจจัยสนับสนุนสถานะฐานทุนที่แข็งแกร่งของบริษัท และทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ที่ระดับประมาณ 1 เท่าในระยะปานกลางเมื่อเทียบกับข้อกำหนดสำคัญทางการเงินที่กำหนดให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนดังกล่าวให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2 เท่า

ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการสร้างผลกำไรที่เพียงพอของบริษัทจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนสถานะฐานทุน ภาระหนี้ และความสามารถในการสร้างกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทต่อไปด้วยการมีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยที่ระดับ 7%-8% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ แผนการที่บริษัทจะมุ่งเน้นสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองที่มีอายุมากขึ้นซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการทำกำไรของบริษัท อีกทั้งประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนทางการเงิน รวมถึงค่าใช้จ่ายดำเนินงาน และคุณภาพสินทรัพย์น่าจะช่วยให้บริษัทรักษาความสามารถในการสร้างผลกำไรเอาไว้ได้ในระยะปานกลางด้วยเช่นกัน

สถานะความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

สถานะความเสี่ยงของบริษัทถือได้ว่าอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม สถานะความเสี่ยงดังกล่าวก็เป็นผลมาจากความสำเร็จในการบริหารในอดีต โดยบริษัทมีอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือสินเชื่อค้างชำระมากกว่า 90 วัน) ที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.8% ณ สิ้นปี 2563 จาก 12.2% ณ สิ้นปี 2560 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่งโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 3%-4% ทั้งนี้ พัฒนาการทางด้านคุณภาพเครดิตของบริษัทนั้นเกิดจากปัจจัย 2 ประการคือ 1) เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทได้พัฒนาแบบจำลองคะแนนเครดิตและใช้ข้อมูลจากรายงานของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด มาใช้กับการวิเคราะห์กระแสเงินสดเพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ และ 2) การเร่งรัดกระบวนการจัดเก็บหนี้และการยึดและจำหน่ายหลักประกันให้เร็วขึ้นซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560

บริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ถดถอยลงเล็กน้อยในปี 2563 จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตที่เกิดขึ้นใหม่ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.5% ในปี 2563 จาก 0.4% ในปี 2562 ต้นทุนทางเครดิตก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันโดยมาอยู่ที่ 1.6% ในปี 2563 จาก 0.2% ในปี 2562 บริษัทมีสินเชื่อภายใต้มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้คิดเป็นประมาณ 7% ของสินเชื่อคงค้างรวม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 โดย 80% ของสินเชื่อดังกล่าวกลับมาชำระคืนหนี้ตามปกติแล้ว ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทจะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าด้วยอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตที่ระดับประมาณ 4% ในระยะปานกลางเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการปรับปรุงเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง

ทริสเรทติ้งมีมุมมองว่าการที่บริษัทมุ่งเน้นรถบรรทุกที่มีอายุมากขึ้น (6-15 ปี) นั้นอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทางด้านลบ โดยหลักประกันที่มีอายุมากขึ้นนั้นแม้ว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าแต่ก็อาจทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงจากผลขาดทุนจากการจำหน่ายหลักประกันที่ยึดมา อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเชื่อว่าความเสี่ยงดังกล่าวจะบรรเทาลงจากความชำนาญในการประเมินมูลค่ารถบรรทุกมือสองของบริษัทซึ่งจะช่วยจำกัดผลขาดทุนดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นได้ อีกทั้ง ถึงแม้ว่าฐานลูกค้าของบริษัทจะเป็นลูกค้ารายย่อยที่อาจอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนตัว แต่ลูกค้าหลายรายของบริษัทก็มีแนวโน้มที่จะมีรายได้ที่ค่อนข้างแน่นอนจากสัญญาจ้างงานระยะยาวจากบริการขนส่งซึ่งจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า

สถานะเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับปานกลาง

บริษัทมีสถานะเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับปานกลางแต่ยังคงได้รับแรงกดดันจากการพึ่งพาเงินทุนระยะสั้นซึ่งส่งผลให้บริษัทอาจมีความเสี่ยงต่อโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินที่ไม่สอดคล้องกันและความเสี่ยงทางด้านการกู้เงินใหม่เพื่อชำระคืนเงินกู้เก่าหรือรีไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 บริษัทมีสัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นคิดเป็น 82% ของเงินกู้ยืมรวม นอกจากนี้ บริษัทยังมีแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่จำกัดเนื่องจากบริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินจำนวนน้อยแห่ง โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจำนวนทั้งสิ้นจำนวน 1.3 พันล้านบาท โดย 39% ของวงเงินดังกล่าวยังไม่ได้มีการเบิกใช้ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ในระยะ

ปานกลางเนื่องจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัทได้ ทั้งนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของหนี้สินของบริษัท (เงินกู้ยืมจากธนาคาร) เป็นหนี้สินที่มีหลักประกันโดยคิดเป็นสัดส่วน 59% ของหนี้สินรวม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563

สินเชื่อรถบรรทุกได้รับผลกระทบที่จำกัดจากสถานการณ์โรคโควิด 19

การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมเป็นอย่างมากโดยยอดขายรถยนต์ปรับตัวลดลง 21.4% ในปี 2563 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่มีต่อยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าผลกระทบที่มีต่อรถยนต์นั่งซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์ของรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่มีมากกว่าโดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากกิจกรรมการขนส่งสินค้าในช่วงมาตรการปิดเมือง ยอดจดทะเบียนใหม่ของรถบรรทุกก็เติบโตขึ้น 2% ในปี 2563 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบโดยรวมที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และความเข้มงวดที่มากขึ้นในการพิจาณาสินเชื่อของสถาบันการเงินก็ส่งผลให้ยอดสินเชื่อคงค้างของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับเพิ่มขึ้นในระดับที่จำกัดด้วยอัตราการเติบโตที่ 1.9% เท่านั้นในปี 2563 ซึ่งต่ำกว่าอัตราการเติบโตที่ 7.2% ในปี 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2564 จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสินเชื่อรถยนต์ ในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนตัวลงในปี 2563-2564 น่าจะเป็นเหตุการณ์เพียงชั่วคราวและอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งสำหรับผลการดำเนินงานบริษัทในระหว่างปี 2564-2566 มีดังนี้

? ยอดสินเชื่อคงค้างจะเติบโตที่ระดับประมาณ 20% ต่อปี

? ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะคงอยู่ที่ระดับประมาณ 11%

? อัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4%

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาตำแหน่งทางการตลาด ตลอดจนผลประกอบการทางการเงิน และระดับภาระหนี้เอาไว้ได้ในขณะที่ยังรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถพัฒนาตำแหน่งทางการตลาดให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นเวลานานในระดับหนึ่งในขณะที่ยังรักษาระดับคุณภาพสินทรัพย์รวมทั้งความแข็งแกร่งของฐานทุนและกำไรเอาไว้ได้ ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากบริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์หรือความสามารถในการทำกำไรที่ถดถอยลงอย่างมากซึ่งทำให้ความสามารถในการสร้างผลกำไรและสถานะเงินทุนอ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MICRO)

อันดับเครดิตองค์กร: BB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ