บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตสำหรับใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 4,000 ล้านบาท (BCP141A) ของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ซึ่งออกโดย บริษัท สยามดีอาร์ จำกัด ที่ระดับ "AA" ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงปัจจัยสนับสนุนในรูปของการรับประกันต้นเงินโดยกระทรวงการคลังในการซื้อคืนใบแสดงสิทธิในราคาที่เสนอขายครั้งแรกหากบริษัทบางจากปิโตรเลียมซึ่งเป็นบริษัทอ้างอิงไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ตลอดจนลักษณะของโครงสร้างธุรกรรมที่คุ้มครองผู้ถือใบแสดงสิทธิ และความน่าเชื่อถือของบริษัทอ้างอิง
คุณภาพอันดับเครดิตของบริษัทบางจากปิโตรเลียมขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของโครงการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมัน ตลอดจนความเป็นผู้นำของบริษัทในด้านพลังงานทดแทน การได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และงบดุลที่อยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบเหล่านี้ถูกลดทอนลงบางส่วนจากข้อจำกัดของสถานะโรงกลั่นน้ำมันที่มีอยู่ในปัจจุบันของบริษัท ตลอดจนความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าการกลั่น (Gross Refining Margin)
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทบางจากปิโตรเลียมเป็นผลมาจากการรับประกันต้นเงินจากกระทรวงการคลังและคุณภาพเครดิตของบริษัทบางจากปิโตรเลียม อันดับเครดิตของใบแสดงสิทธิดังกล่าวอาจได้รับการทบทวนหากคุณภาพเครดิตของบริษัทบางจากปิโตรเลียมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทบางจากปิโตรเลียมปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราการใช้กำลังการกลั่นของโรงกลั่นเพิ่มขึ้นจาก 48% ในปี 2549 เป็น 60% ในครึ่งแรกของปี 2551 เนื่องจากบริษัทสามารถส่งออกน้ำมันเตาเกรดพิเศษไปยังประเทศจีนและญี่ปุ่น นอกจากนี้ การที่บริษัทสามารถจัดหาน้ำมันดิบในประเทศที่มีราคาถูกในสัดส่วนเพิ่มขึ้นและสามารถขายน้ำมันเตาได้ในราคาที่สูง ทำให้ค่าการกลั่นรวมของบริษัทในครึ่งแรกของปี 2551 สูงถึง 13.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในด้านการตลาดของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมโดยรวม โดยค่าการตลาดรวมของบริษัทติดลบ 0.08 บาทต่อลิตร (-0.08 บาทต่อลิตร) ในครึ่งแรกของปี 2551
เมื่อรวมผลการดำเนินงานของธุรกิจทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกันแล้วมีผลให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในครึ่งแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 4,324 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน โครงสร้างเงินทุนของบริษัทก็ยังคงอยู่ในระดับดี โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 อยู่ที่ 36.7% และภายใต้แผนการลงทุนในช่วงปี 2551-2553 คาดว่าอัตราการก่อหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 40%-45% ทั้งนี้ คาดว่าหน่วยแตกโมเลกุล (Hydrocracking Unit) หน่วยใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโรงกลั่นและเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงให้แก่บริษัท ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ