ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิต “บ . ศุภาลัย ” องค์กรเป็น “A-” จาก “BBB+” หุ้นกู้มีประกันเป็น “A” จาก “A-” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday May 20, 2010 15:11 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็น “A-” จากเดิมที่ระดับ “BBB+” พร้อมทั้งเพิ่มอันดับ เครดิตหุ้นกู้มีประกันของบริษัทเป็น “A” จากเดิมที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงผลการดำเนินงานและฐานะทาง การเงินของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงผลงานที่ยาวนานในตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัย แบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับในตลาดผู้มีรายได้ระดับ ปานกลาง และความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากสถานการณ์ทางการเมืองภายใน ประเทศที่ไม่มีเสถียรภาพ ตลอดจนลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง และการแข่งขันในการซื้อที่ดินของผู้ประกอบการที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในขณะที่อันดับ เครดิตของหุ้นกู้นั้นได้รับแรงหนุนจากมูลค่าของอาคารสำนักงานให้เช่า “ ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ ” ซึ่งใช้เป็นหลักประกันที่ระดับ 1.7 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้คงค้างตลอด อายุของหุ้นกู้ด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “ คงที่ ” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ในระยะปานกลาง โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจแม้ว่ามาตรการด้านภาษีของรัฐบาลจะสิ้นสุดลงและการแข่งขันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ แม้บริษัทจะมีแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้นและมีโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่บริษัทก็ควรจะรักษากระแสเงินสด และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทศุภาลัยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยซึ่งก่อตั้งในปี 2532 โดยตระกูลตั้งมติธรรม ณ เดือน มีนาคม 2553 ตระกูลตั้งมติธรรมยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่ถือครองหุ้นในสัดส่วนทั้งสิ้น 28% บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนาประมาณ 4 0 โครงการ ด้วย มูลค่ายอดขายคงเหลือ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 ประมาณ 14,000 ล้านบาท และยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้เป็นจำนวนมากถึงประมาณ 18,300 ล้านบาท โครงการที่อยู่ อาศัยของบริษัทมีทั้งโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งคิดเป็น 64% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดและโครงการบ้านจัดสรรซึ่งคิดเป็น 36% ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมา จากความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้บริษัทสามารถเสนอขายที่อยู่อาศัยในราคาที่แข่งขันได้

ยอดขายของบริษัทในปี 2552 คิดเป็นมูลค่า 13,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จาก 9,091 ล้านบาทในปี 2551 ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 เพิ่ม ขึ้นอย่างมากเป็น 5,490 ล้านบาท จาก 1,979 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2552 ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความสำเร็จในการเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงปี 2552 ถึง 3 เดือนแรกของปี 2553 ส่วนรายได้ของบริษัทนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดขาย โดยในปี 2552 มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 56% เป็น 9,618 ล้านบาท จาก 6,170 ล้านบาทในปี 2551 ในไตรมาสแรกของปี 2553 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มถึง 52% เป็น 3,162 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการโอน คอนโดมิเนียมในโครงการศุภาลัย ริเวอร์ เพลส และศุภาลัย ปาร์ค ศรีนครินทร์ มูลค่ารวมประมาณ 4,600 ล้านบาทในปี 2552 และการโอนคอนโดมิเนียมโครงการซิตี้โฮ ม รัชดา - ปิ่นเกล้ามูลค่า 969 ล้านบาท รวมทั้งการโอนบ้านจัดสรรที่เพิ่มมากขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2553 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง กว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ระดับ 38.33% ในปี 2552 และ 39.69% ในไตรมาสแรกของปี 2553 ความสามารถในการทำกำไรที่สูงของบริษัทเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนการดำเนินงานที่ดี นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นก็ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่แข็ง แกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมที่ระดับ 77.06% ในปี 2552 และ 39.21% ( ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี ) ในช่วง 3 เดือน แรกของปี 2553 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงอย่างต่อเนื่องเป็น 30.10% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552 และ 21.59% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 โดยลดลงจาก 48.50% ณ สิ้นปี 2551

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2552 ที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวนซึ่งเป็นผลมาจากความไม่มีเสถียรภาพของการเมืองภายในประเทศและวิกฤติ การณ์ทางการเงินทั่วโลก แม้ตลาดจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 แต่ก็ยังถือว่าชะลอตัวอยู่และถูกครอบงำโดยผู้ประกอบการรายใหญ่มากยิ่งขึ้น หลังจากมีผลการ ดำเนินงานที่น่าพอใจในปี 2552 ผู้ประกอบการรายใหญ่ส่วนใหญ่จึงวางแผนขยายธุรกิจเชิงรุกในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า การซื้อที่ดินในทำเลดีจึงมีแนวโน้มที่จะมีต้นทุนสูงขึ้น ใน ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีของรัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่ได้สิ้นสุดลงในปี 2552 และมาตรการบางส่วนซึ่งกำลังจะสิ้นสุดในปี 2553 ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยใน ปี 2553 ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยทริสเรทติ้งคาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2553 จะค่อยๆ ฟื้นตัวตามการ เติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ — จบ

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI)

อันดับเครดิตองค์กร :                                                   เพิ่มเป็น A- จาก BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้ :
SPALI133A: หุ้นกู้มีประกัน 1 ,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556                     เพิ่มเป็น A จาก A-
แนวโน้มอันดับเครดิต :                                                  Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 25 53 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่ง
รายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต   ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับ
เครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ    แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ
หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ   ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏ
ในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้
รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน   บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับ
เครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูล
ใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบ
ต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ