GBS คาด SET สัปดาห์นี้ผันผวนทิศทางขาลงในกรอบ 1,590-1,617 จุด แม้ราคาน้ำมันขึ้นหนุน แต่ยังถูกดดันจากสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 22, 2019 12:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ส่งสัญญาณคงการปรับลดกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่การสู้รบในภูมิภาคตะวันออกกลางหนุนราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้มาจากภาพรวมสงครามการค้าสหรัฐ-จีนซึ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะจบและมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังสหรัฐฯกีดกันการค้ากับจีนในรูปแบบอื่นจากการห้ามบริษัทสหรัฐดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี แม้จะยกเลิกคำสั่งเป็นการชั่วคราวออกไป 90 วันจนถึง 19 ส.ค. ทั้งนี้ ข้อสรุปในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนอาจต้องรอไปถึงการประชุมผู้นำ G20 ในเดือนมิถุนายที่จะถึงนี้ รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศแสดงถึงแนวโน้มชะลอตัว ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2562 เหลือ 3.6% โดยอยู่ในกรอบ 3.3 - 3.8% จากเดิม 3.5-4.5% หลังรายงาน GDP ในช่วงไตรมาส 1/62 ขยายตัวเพียง 2.8% ต่ำกว่าระดับ 3.7% ในไตรมาส 4/61 และต่ำสุดในรอบ 17 ไตรมาส

ทั้งนี้ ให้จับตาในวันที่ 22 พ.ค. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) คลื่นความถี่ 700 MHz สหรัฐ เปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)เปิดเผยรายงานการประชุมระหว่าง 30 เม.ย.- 1 พ.ค. (เช้าวันที่ 23 พ.ค.) ส่วนวันที่ 23 พ.ค. สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเบื้องต้น สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเบื้องต้น และวันที่ 24 พ.ค. เปิดประชุมรัฐสภาของไทย ส่วนสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน

ด้านนายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้คาดว่ามีความผันผวนในทิศทางขาลง โดยคาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,590-1,617 จุด ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive เช่น กลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศ ชู CPALL และ MAKRO กลุ่มท่องเที่ยว เช่น AOT และ ERW กลุ่มโรงพยาบาลที่คาด เช่น BCH และกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น EGCO และ RATCH รวมทั้งหุ้นเข้าใหม่คำนวณในดัชนี MSCI มีผล 28 พฤษภาคมนี้ ได้แก่ RATCH, INTUCH, DTAC

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ มองว่าปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนทวีความรุนแรงขึ้นมากจากคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐฯที่กำหนดให้ผู้ผลิตที่ถือสิทธิบัตรทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯจะต้องขออนุญาตก่อนทำธุรกิจกับจีน มีผลให้ผู้ผลิตนอกสหรัฐฯต้องปฏิบัติตามไปด้วย แต่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าสหรัฐฯมีข้อได้เปรียบมากกว่าจีน แม้ทั้งคู่จะสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลก็ตาม ทำให้เงินดอลลาร์ทรงตัวในระดับที่แข็งค่าและกดราคาทองคำให้อ่อนตัวลงมา มองกรอบสัปดาห์นี้อยู่ระหว่าง 1,265–1,290 ดอลลาร์ ซึ่งการหลุดลงต่ำกว่า 1,265 ดอลลาร์จะเป็นสัญญาณขาย การขึ้นทะลุ 1,290 ดอลลาร์ จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรระยะสั้น และการยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์จะเป็นสัญญาณซื้อกลับสำหรับรอบระยะกลาง

ส่วนกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ยังคงแนะนำให้เก็งกำไรแบบ swing trade ในกรอบจำกัด โดยเน้นปิดทำกำไรเร็ว เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินบาทที่มีกรอบการเคลื่อนไหวกว้างขึ้นเป็น 31.50-32.15 บาทต่อดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ