FTE มองธุรกิจช่วง H2/62 โตดีหลังเร่งงานพร้อมส่งมอบ ,ประมูลงานต่อเนื่องหนุนเพิ่ม Backlog จาก 450 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 9, 2019 15:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง (FTE) เปิดเผยว่า ธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นการรับงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง ในส่วนของภาคเอกชนและโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น อาทิ งานติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานน้ำตาลเกษตรผล (ระยะที่ 2) จังหวัดอุดรธานี งานติดตั้งระบบดับเพลิงโรงงานผลิตกระดาษในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCG) 3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี อำเภอวังศาลา และอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น ซึ่งงานดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ภายใน 6 เดือน

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างดำเนินการงานที่ได้รับมากกว่า 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการนำเสนองานอีกกว่า 10 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่งานโครงการภาครัฐยังคงมีความเสี่ยงเรื่องความล่าช้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการต่างๆ จะทยอยเปิดให้ยื่นประมูลได้ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งบริษัทมีแผนจะเข้าประมูลโครงการภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง

ณ สิ้นเดือน มิ.ย.62 บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 100 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 350 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 40% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 63-64

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนปรับปรุงต้นทุนการดำเนินงาน เตรียมร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการรับงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าแผนการดำเนินงาน และความร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้ จะส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 2/62 บริษัทมีรายได้รวม 245.62 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 254.79 ล้านบาท จำนวน 9.17 ล้านบาท หรือลดลง 3.60% และมีกำไรสุทธิ 24.26 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 41.84 ล้านบาท จำนวน 17.58 ล้านบาท หรือลดลง 42.02%

ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 62 บริษัทมีรายได้รวม 499.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 478.94 ล้านบาท จำนวน 20.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.30% และมีกำไรสุทธิ 54.03 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.46 ล้านบาท จำนวน 4.43 ล้านบาท หรือลดลง 7.58%

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากโครงการติดตั้งระบบดับเพลิงในสถานีไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ชะลอการส่งมอบพื้นที่เข้าดำเนินงาน ส่งผลให้รับรู้รายได้ล่าช้า ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง ประกอบกับบริษัทมีการตั้งค่าเผื่อสินค้าที่ล้าสมัย ชำรุด และเคลื่อนไหวช้า อีกทั้งมีการแก้ไขกฎหมายอัตราค่าชดเชยพนักงาน จาก 300 วันเป็น 400 วัน ส่งผลให้มีการบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงของภาคเอกชนหลายแห่ง อาทิ งานติดตั้งระบบดับเพลิงในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ของ True และ UIH (DTAC) งานติดตั้งระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิงในบริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด งานติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานน้ำตาลเกษตรผล (ระยะที่ 1) จังหวัดอุดรธานี เป็นต้น รวมถึงรายได้จากงานจัดจำหน่ายที่มีปริมาณสินค้า และฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ