กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--โรงพยาบาลรามคำแหง
โรคกระดูกสันหลังคด ปัจจุบันไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ จะพบได้มากในช่วงที่เด็กเข้าสู่วัยรุ่น เนื่องจากเป็นช่วงที่กระดูกเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการวิเคราะห์พบว่ามักเกิดกับกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นหญิงวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยมีงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่าอาจเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมรูปแบบหนึ่งซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในหากมีอาการรุนแรง และเด็กที่เป็นไม่มากก็ทำให้เสียบุคลิกได้
กระดูกคดเกิดจากภาวะกระดูกสันหลังโค้งงอไปทางด้านซ้ายหรือด้านขวาจนผิดปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกระดูกสันหลังของคนเราจะโค้งงอไปด้านหน้าและหลังในระดับที่สมดุลกับร่างกาย
แต่ผู้ป่วยที่มีอาการกระดูกสันหลังคดกระดูกสันหลังจะบิดหรือผิดรูปออกทางด้านข้าง การที่กระดูกสันหลังโค้งไปข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้สะโพก เอว และไหล่ไม่เท่ากัน
มีผลอาจทำให้เกิดอาการปวดบริเวณ หลังเอว คอ เรื้อรัง เนื่องจากกล้ามเนื้อในแต่ละส่วนแบกรับน้ำหนักไม่เท่ากัน รวมทั้งมีอาการเหนื่อยง่าย เนื่องจากกระดูกหน้าอกไปกดทับปอดมากกว่าปกติด้วย
การรักษา ในกรณีที่มีความคดของกระดูกเล็กน้อย แพทย์จะนัดตรวจเพื่อติดตามอาการสม่ำเสมอและให้ผู้ป่วยใส่เสื้อเกราะให้รัด กระชับ เพื่อดัดกระดูกสันหลัง ป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังคดมากขึ้น ในกรณีที่กระดูกคดรุนแรงมีองศามากว่า45 องศา อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดรักษา โดยการใช้โลหะดามกระดูกสันหลังให้ตรงขึ้นและเชื่อมข้อกระดูกสันหลังให้ติดแข็งในแนวที่จัดไว้ ซึ่งหลังผ่าตัดควรงดกิจกรรมที่เคลื่อนไหวด้วยกระดูกสันหลัง เช่น การก้ม บิดตัว
แนะนำให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตรูปร่างของลูกหลานตั้งแต่ช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป เพราะหากมีอาการกระดูกสันหลังคดจะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที
วิธีสังเกตว่ามีอาการกระดูกสันหลังคดหรือไม่ ให้สังเกตดูความสูงของระดับหัวไหล่ ความนูนของกระดูกสะบัก และระดับแนวกระดูกสะโพกของร่างกาย ซึ่งมักจะมีระดับสูง-ต่ำไม่เท่ากันหรือทดสอบโดยการยืนให้เท้าชิดกันและให้ก้มไปด้านหน้า ใช้มือทั้ง 2 ข้างแตะให้ถึงพื้น จะเห็นความนูนของหลังไม่เท่ากัน
หากมีอาการผิดปกติดังกล่าวให้มาพบแพทย์เพราะหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้กลับมาใกล้เคียงภาวะปกติได้
สายด่วนสุขภาพโทร 0 2743 9999 ต่อ 2999