นิสสัน นำเสนอกลยุทธ์การสร้างระบบนิเวศสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในงาน Delta Future Industry Summit 2019 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนวิถีชีวิตคนเมืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต

ข่าวยานยนต์ Friday August 9, 2019 10:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ นิสสัน ประเทศไทย เปิดเผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของขับเคลื่อนในเมืองหลักของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและขับเคลื่อนด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่ไร้มลพิษ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนวิถีชีวิตคนเมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบให้ดีขึ้น ในการบรรยายพิเศษภายในงาน Delta Future Industry Summit 2019 ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมเรอเนสซองซ์ กรุงเทพ ราชประสงค์ ปีเตอร์ แกลลี รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย (Peter Galli, vice president of Communications) กล่าวว่า พลังงานไฟฟ้ากำลังเปลี่ยนอนาคตของหลายๆ เมือง และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของกลยุทธ์ด้านการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าและความสำคัญในการร่วมพัฒนาการการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของทุกภาคส่วน "ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวเข้าสู่การขับเคลื่อนยุคใหม่ ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้จากระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน" แกลลี กล่าว "ความสามารถและศักยภาพของเราในด้านการชาร์จพลังงานไฟฟ้าพร้อมระบบที่ทำหน้าที่สนับสนุนในส่วนต่างๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ใหม่ ในประเทศไทยนั้นได้รับความร่วมมือที่สำคัญอย่างยิ่งจาก การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ ภาคเอกชนอย่าง เดลต้า อิเลคโทรนิคส์" ความร่วมมืออันแข็งแกร่งนี้จะทำให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้จากทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และตามเส้นทางไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เป็นสิ่งที่นิสสัน ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยประเทศไทยได้วางเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.2 ล้านคัน ในปี พ.ศ. 2579 อีกทั้งรัฐบาลไทยยังได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันจะช่วยลดมลพิษ ลดการจราจรที่ติดขัด และลดมลพิษทางเสียง เมื่อเร็วๆ นี้ นิสสัน ประเทศไทย ได้ทำงานร่วมกับบริษัทวิจัยอย่าง ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน (Frost & Sullivan) ในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทการพัฒนาการขับเคลื่อนของเมืองอัจฉริยะในอนาคตของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เกี่ยวกับ "อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" และรวมถึง "การเป็นเมืองแห่งอนาคตในเอเชีย" ทำให้รับทราบถึงพฤติกรรมแบบเจาะลึกของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ สำหรับการวิจัยดังกล่าว ครอบคลุมทั้งใน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า 37% ของผู้ที่กำลังจะซื้อรถยนต์มีความสนใจที่จะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นคันต่อไป และพบว่าลูกค้าในประเทศไทยถึง 44 % ระบุว่าต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการซื้อรถยนต์คันใหม่ที่จะเกิดขึ้น รถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ใหม่ ที่ใช้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับเมืองอัจฉริยะในอนาคต นอกจากนี้ ความสามารถในการลดมลพิษทางเสียงและมลพิษทางอากาศนับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่นิสสันให้ความสนใจและใส่ใจ รถยนต์ไฟฟ้านิสสัน ลีฟ ใหม่ ปราศจากมลพิษและมีเครื่องยนต์ที่เงียบ จะมีส่วนอย่างมากในการช่วยส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดี ในเอเชียและโอเชียเนีย นิสสัน ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าให้กับคนไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จัดกิจกรรมทดสอบการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ลีฟ ใหม่ ในระยะเวลา 5 วัน สำหรับสื่อมวลชนกว่า 100 คน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับเทคโนโลยีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้กิจกรรม 'rEVolution education' ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในงาน Delta Future Industry Summit นี้ แกลลี ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ " Intelligent Solutions to Air Pollution in ASEAN Cities" หรือ "แนวทางอัจฉริยะเพื่อลดมลพิษทางอากาศสำหรับเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ร่วมกับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชั้นนำต่างๆ โดยผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญทุกๆ ท่านที่ร่วมเสวนา อันได้แก่ รศ.ดร.มาณิศา พิพัฒนสมพร รองศาสตราจารย์หน่วยปฎิบัติการวิจัยสมาร์ทกริด จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณอรรณพ กิ่งขจี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท EEC Engineering Network และ คุณภาสกร ธรรมวิทยากร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์พัดลมระบายอากาศ IAQ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยในช่วงการเสวนา แกลลี ได้กล่าวกับผู้ฟังว่า เขาภูมิใจที่ได้ร่วมทำงานกับบริษัทฯชั้นนำระดับโลก ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าในทั่วโลก "ประเทศไทยนับว่าเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้นำเทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยในบริบทการพัฒนาสังคมเมือง ซึ่งนับว่าได้รับประโยชน์มากมาย รวมถึงการลดมลพิษทางอากาศและเสียง" แกลลีกล่าวเสริม เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้ เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2561 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.52 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.6 ล้านล้านเยน สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.76 ล้านคันในปี 2561 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ