John Dewar & Sons เปิดตัวคอลเลคชั่น “Last Great Malts” นำเสนอรสชาติและนิยามใหม่ของซิงเกิลมอลต์อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 24, 2014 12:04 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

กลาสโกว์, สกอตแลนด์--24 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ บริษัท John Dewar & Sons จำกัด ผู้ผลิตสกอตวิสกี้ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดรายหนึ่งของโลก ประกาศแผนการเปิดตัวซิงเกิลมอลต์รสชาติใหม่และนิยามใหม่อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ดั่งอัญมณีล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์ของบริษัท ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในรอบหลายปี จะเป็นการเปิดขุมทรัพย์วิสกี้ชั้นเลิศให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้สัมผัสเป็นครั้งแรก สามารถรับชมสื่อมัลติมีเดียได้ที่: http://www.multivu.com/players/English/72762539-Last-Great-Malts-Scotch-Whisky ซิงเกิลมอลต์ ABERFELDY(R), AULTMORE(R), CRAIGELLACHIE(R), THE DEVERON(R) และ ROYAL BRACKLA(R) ได้รับการเปิดตัวภายใต้ชื่อ "Last Great Malts" ที่มาพร้อมกับเรื่องราวและบุคลิกอันน่าสนใจ กว่าหลายชั่วอายุคน วิสกี้ชั้นเลิศเหล่านี้ได้ผ่านกระบวนการกลั่นและบ่มในถังโอ๊ค จนกระทั่งในที่สุด คอวิสกี้ทั่วโลกกำลังจะได้ลองลิ้มชิมรสซิงเกิลมอลต์แท้ๆเหล่านี้จากโรงกลั่น “ผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์นับเป็นโอกาสดีเยี่ยมโอกาสหนึ่งสำหรับการเติบโตในอุตสาหกรรมของเรา และเราปลาบปลื้มกับห้าวิสกี้คุณภาพสูงชั้นเลิศของสกอตแลนด์” จอห์น เบิร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าว “เรามีความเคารพในผลิตภัณฑ์ของเรา และเชื่อมั่นว่าผลงานแต่ละชิ้นในคอลเลคชั่น Last Great Malts จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ที่หลงใหลในรสชาติของซิงเกิลมอลต์” คอลเลคชั่น "Last Great Malts" ABERFELDY หรือที่รู้จักในชื่อ "Golden Dram" ผลิตจากน้ำที่แหล่งน้ำ Pitilie Burn อันสะอาด บริสุทธิ์ และเลื่องชื่อว่าอุดมไปด้วยทองทราย ผลงานวิสกี้นี้ได้รับความนิยมจากรสสัมผัสของน้ำผึ้ง ที่แสดงให้เห็นถึงกลิ่นอาย Central Highland แบบคลาสสิกที่หาได้ยากในซิงเกิลมอลต์ยุคใหม่ ABERFELDY ถูกยกให้เป็น "Highland Whisky of the Year 2014" จากนิตยสาร Whisky Magazine โดยได้รับการบรรจุแพคเกจใหม่และวางจำหน่ายทั่วโลก ในอายุ 12 ปี และ 21 ปี และวางจำหน่ายรุ่นอายุ 18 ปีตามร้านค้าปลีกในสนามบิน บริษัทมีแผนเปิดตัววิสกี้กลิ่นเชอร์รี่อายุ 16 ปี และ 30 ปี ในปี 2558 AULTMORE เป็นมอลต์หายากจากเมืองสเปย์ไซด์ ซึ่งคนท้องถิ่นขนานนามว่าเป็น “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากถนนบัคกี้” ทางโรงกลั่นใช้น้ำที่กลั่นกรองลงมาจากแหล่งน้ำลึกลับที่ปกคลุมไปด้วยหมอกที่มีชื่อว่า Foggie Moss โดย AULTMORE ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมอลต์ชั้นเลิศ และเป็นที่ต้องการอย่างมาก อันเนื่องมาจากกลิ่นหญ้าอันนุ่มนวล AULTMORE จะวางจำหน่ายในเดือนพฤษจิกายน ในรุ่นอายุ 12 ปี และ 21 ปี ในร้านค้าปลีกตามสนามบิน และรุ่น 25 ปี ในจำนวนจำกัด CRAIGELLACHIE ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์เป็นครั้งแรก โดยโรงกลั่นยังคงยึดมั่นอยู่กับกรรมวิธีผลิตวิสกี้แบบดั้งเดิม รวมถึงการใช้ worm tub ซึ่งเป็นชื่อเรียกท่อทองแดงขด เพื่อทำให้ตัวเครื่องดื่มเย็นลง วิสกี้จากเมืองสเปย์ไซด์ที่แฝงไปด้วยความท้าทายนี้ ได้รับคำนิยามว่า “โบราณ” แม้แต่เมื่อปี 2434 เนื่องจากทางโรงกลั่นไม่ยอมให้กระบวนการสมัยใหม่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เหล่านักดื่มซิงเกิลมอลต์ต่างชื่นชอบ CRAIGELLACHIE ด้วยกลิ่น รส และสัมผัสอันโดดเด่น โดย CRAIGELLACHIE จะวางจำหน่ายวิสกี้ในเดือนนี้ ในรุ่นอายุ 13 ปี, 17 ปี รวมถึงอายุ 19 ปี จำหน่ายพิเศษที่สนามบิน และรุ่นอายุ 23 ปี เป็นจำนวนจำกัด THE DEVERON ซิงเกิลมอลต์ใหม่อายุ 12, 18 และ 25 ปี ซึ่งพร้อมจำหน่ายในฤดูร้อนปี 2558 ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากพื้นที่ที่แม่น้ำเดฟเวอรอนบรรจบกับทะเลเปิด อันเป็นตัวแทนของ “ความสงบจากพายุ” THE DEVERON เป็นมอลต์ที่เหมาะกับการดื่มด่ำอย่างเป็นกันเอง ด้วยรสสัมผัสหอมหวานคล้ายผลไม้เบาบาง ประกอบกับรูปแบบการดื่มอันสะดวกสบาย จนทำให้ THE DEVERON กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในโรงกลั่น การเปิดตัวมอลต์อายุ 35 ปี มูลค่าขวดละ 10,000 ปอนด์ (15,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ในจำนวนจำกัด ได้ทำให้ ROYAL BRACKLA เป็นมอลต์หรูหราอย่างแท้จริง มอลต์ขวดนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2355 ทางตอนเหนือของเขตไฮแลนด์ส โดยผลิตขึ้นจากโรงกลั่นแรกที่ได้รับพระบรมราชานุญาต และได้รับการยกย่องว่าเป็น “วิสกี้ของพระราชา” นับแต่นั้นเป็นต้นมา ROYAL BRACKLA เป็นมอลต์ชั้นดีสำหรับการดื่มด่ำ เนื่องจากจะค่อยๆเผยถึงความซับซ้อนผ่านรสสัมผัสของเชอร์รี่อันเข้มข้น หอมหวาน และกลมกล่อม พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ในรุ่นอายุ 12 ปี, 16 ปี และ 21 ปี “เราได้เก็บรักษาถังไม้ด้วยความอดทน และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะแบ่งปันมอลต์ที่มีกลิ่นอายแตกต่างกันห้ารุ่นแก่บรรดาผู้ที่หลงใหลวิสกี้ทั่วโลก โดยมอลต์แต่ละรุ่นประกอบไปด้วยฉลากบอกอายุในแต่ละขวด” คุณสตีเฟน มาร์แชล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดซิงเกิลมอลต์ทั่วโลก กล่าวเสริม “จนถึงปัจจุบัน เครื่องดื่มอันน่าทึ่งเหล่านี้กลายเป็นความลับอันน่าค้นหาของสกอตแลนด์ซึ่งมีผู้คนรู้จักน้อยมาก ขณะนี้เรากำลังเป็นจุดสนใจแก่บรรดาผู้ดื่มซิงเกิลมอลต์ ซึ่งเป็นผู้คนที่ชื่นชอบเรื่องราวต่างๆ ตลอดจนผู้ที่มีความสนใจในการสำรวจกลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ซับซ้อนที่สุดในโลก” การวางจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์เหล่านี้จะเปิดจำหน่ายตามช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป โดยจะวางจำหน่ายเป็นเซ็ตครบทั้งห้ารุ่น หรือเซ็ตผสมหลากหลายแบบใน 10 ตลาดทั่วโลก ได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น รัสเซีย สวีเดน ไต้หวัน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และร้านค้าปลีกในสนามบินทั่วโลก คอลเลคชั่นซิงเกิลมอลต์ Last Great Malts จะเปิดตัวสู่สายตาบุคคลทั่วไปเป็นครั้งแรก ที่เทศกาล Stockholm Beer & Whisky Festival เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้ http://www.LastGreatMalts.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์ โรงกลั่นทั้งห้าแห่ง รสสัมผัส กรรมวิธีผลิต และประวัติความเป็นมา สามารถรับชมได้ที่ http://www.LastGreatMalts.com เกี่ยวกับ John Dewar & Sons John Dewar & Sons มีพนักงาน 300 คนในสถานที่ต่างๆ เจ็ดแห่งทั่วสกอตแลนด์ บริษัทเป็นผู้ดำเนินงานโรงกลั่นวิสกี้ที่อเบอร์เฟลดี้ แมคดัฟฟ์ อัลต์มอร์ เครียคเกิลชี และเนิร์น โดยมีโรงงานบ่ม ผสม บรรจุขวด และแพคเกจในกลาสโกว์ และโรงงานบ่มอื่นๆในโพเนียล ทางตอนกลางของสกอตแลนด์ แบรนด์ซิงเกิลมอลต์ ABERFELDY(R), AULTMORE(R), CRAIGELLACHIE(R), THE DEVERON(R) และ ROYAL BRACKLA(R) เป็นผลิตภัณฑ์ของ Bacardi Limited ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแฮมิลตัน เบอร์มิวดา Bacardi Limited เป็นบริษัทในเครือ Bacardi ซึ่งรวมถึง Bacardi International Limited ดื่มด่ำกับ LAST GREAT MALTS อย่างมีความรับผิดชอบ (c)2014 DEWAR'S, THE LAST GREAT MALTS DEVICE, ABERFELDY, AULTMORE, CRAIGELLACHIE, THE DEVERON และ ROYAL BRACKLA เป็นเครื่องหมายการค้า แหล่งข่าว: John Dewar & Sons
แท็ก อัญมณี   นิยาม  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ