สิงคโปร์--26 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ซีอีโอของ APC กล่าวคำปราศรัยสำคัญว่าด้วยหลักแห่งความยั่งยืนแบบ ‘360 องศา’ และมีส่วนร่วมในคณะทำงานด้านอาหาร เครื่องดื่ม และการเกษตร เพื่อบรรลุข้อตกลงและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย สู่การยกระดับความยั่งยืนในอนาคต
แบร์รี่ รอว์ลินสัน ซีอีโอของ Asia Plantation Capital ได้กล่าวคำปราศรัยครั้งสำคัญในหัวข้อ Leadership Perspective ในการประชุม Responsible Business Forum on Sustainable Development 2014 ที่โรงแรม Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์
การประชุมดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสามวันนั้น ได้รวบรวมกลุ่มผู้บริหารธุรกิจ หน่วยงานที่ไม่แสวงผลกำไร และผู้กำหนดนโยบายจากทั่วโลก เพื่อร่วมแบ่งปันโซลูชั่นการดำเนินงานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างค่านิยมร่วมด้านเศรษฐกิจ สังคม และต้นทุนทางธรรมชาติ
ในการกล่าวคำปราศรัยครั้งนี้ แบร์รี่ รอว์ลินสัน ได้กล่าวถึงการส่งเสริมความยั่งยืน ไปพร้อมๆกับการก้าวนำเหนือแนวคิดทั่วไปในการตระหนักรับรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับความยั่งยืนในการดำเนินงาน
“การตระหนักรับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียวนั้น ยังไม่เพียงพอสำหรับภาคธุรกิจ” รอว์ลินสัน กล่าว
“ความยั่งยืนจำเป็นต้องมีรูปแบบองค์รวม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง Asia Plantation Capital ยึดมั่นเสมอมา หลักการดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราเชื่อมั่นและแสวงหา โดยนอกเหนือไปจากโครงการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมอันเป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมจากทางบริษัทแล้ว APC ยังได้ร่วมงานกับชุมชนต่างๆในพื้นที่ที่บริษัทดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมมาตรฐานการเรียนรู้ ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างเสริมสังคมผ่านการพัฒนาวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ แนวทางข้างต้นได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์อันดีมากมายในแง่ของความยั่งยืน เนื่องจากชุมชนนั้นเล็งเห็นถึงทางเลือกใหม่ๆที่ดีกว่าการตัดไม้แบบผิดกฎหมายและการทำลายป่า”
“การดำเนินงานตามแนวทางความยั่งยืนแบบองค์รวม” ซีอีโอกล่าวต่อ “จำเป็นต้องถือกำเนิดจากฝ่ายบริหารจัดการระดับสูง อีกทั้งมีการเผยแพร่ข้อความอย่างต่อเนื่องในรูปแบบที่สามารถสื่อสารได้ และได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกทุกคน”
เขากล่าวเสริม “สาสน์แห่งความยั่งยืนนั้นได้ฝังแน่นอยู่ในพันธกิจและค่านิยมของเราในฐานะองค์กร เรามั่นใจว่า เราจะดำเนินงานให้ได้อย่างที่เรายึดมั่น”
พันธสัญญาของ APC ที่แฝงไปด้วยความตระหนักในสังคม ปรากฎให้เห็นในโครงการของบริษัท ซึ่งช่วยจัดหาเงินทุนให้แก่พนักงานเพื่อนำไปซื้อบ้านหรือปรับปรุงสถานที่อยู่อาศัยเดิม นอกจากนี้ APC ยังส่งเสริมและเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถปลูกพืชผลที่สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นอาหารบนพื้นที่เพาะปลูกของบริษัทเพื่อเป็นปัจจัยเลี้ยงชีพได้ สำหรับส่วนเกินของพืชผลที่สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นอาหารนั้น ทางพนักงานสามารถนำไปวางขายที่ตลาดเปิดเพื่อเป็นรายได้เสริมอีกด้วย
เอเดรียน เฮง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ APC เป็นอีกหนึ่งผู้อภิปรายของคณะทำงานด้านอาหาร เครื่องดื่ม และการเกษตร ร่วมกับสมาชิกรายอื่นๆซึ่งเป็นตัวแทนจาก Unilever, ZSL, Monsanto, Food Industry Asia และ Landmark Asia
“ปัจจุบัน ภาคธุรกิจจำเป็นต้องเข้าใจถึงบทบาทของตนเอง และมีบทบาทที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อก่อให้เกิดความยั่งยืน” เฮง กล่าว “ความสามารถในการทำกำไรและความยั่งยืนนั้นสามารถเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันได้ ด้วยการวางแผนและความรับผิดชอบ หลักการทั้งสองสามารถเติมเต็มซึ่งกันและกัน และทาง APC ขอเสนอว่าหลักการทั้งสองนี้ไม่ควรแยกออกจากกัน โดยเราจำเป็นต้องแสวงหาหนทางในการร่วมงานกับรัฐบาล หน่วยงานเอ็นจีโอ และชุมชนท้องถิ่น เพื่อก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวก ทั้งนี้ เรามองว่าความรับผิดชอบของธุรกิจนั้นไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อมอบผลกำไรแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเพียงเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต้องเข้าไปกระตุ้นตัวบุคคลและองค์กรต่างๆ เพื่อเดินหน้าพัฒนาสังคมและสภาพแวดล้อมไปด้วยกัน”
ความสำเร็จของ Asia Plantation Capital ในแวงวงธุรกิจที่ดำเนินงานอย่างยั่งยืนนั้น ได้รับการยกย่องเป็นอย่างดีจากนานาประเทศ โดยบริษัทได้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติมากมาย รวมถึงรางวัล 'The best Sustainable Forestry Asset Manager 2014' จาก CFI.co อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกเพื่อเข้ารอบชิงรางวัล 'Sustainable Business Innovation Award' จาก Organic Monitor ในรอบตัดสินที่กรุงปารีส เช่นเดียวกับรางวัลอื่นๆ ที่ให้การยกย่องผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคขั้นสุดท้ายที่ผลิตขึ้นจากโครงการเพาะปลูกของบริษัท
APC ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ และสำนักงานย่อยทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเดินหน้าเพื่อกระตุ้นให้ภาคธุรกิจในเอเชียก้าวเป็นผู้นำการดำเนินธุรกิจด้วยหลักการแห่งความยั่งยืน
คณะทำงานระดับสูงนี้สามารถผลักดันให้เกิดข้อตกลงว่าด้วยพันธสัญญาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนในวงการอาหาร เครื่องดื่ม และการเกษตร โดยจะมีการเปิดเผยบทสรุปข้อเสนอแนะแก่ผู้บริหารและผู้วางนโยบาย ในการประชุมระดับภูมิภาคภายในปี 2557
การประชุม Responsible Business Forum ได้รับการยกย่องให้เป็น 'World's Greenest Event' ในพิธีมอบรางวัล Green Meeting Industry Council Awards ที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอแนวทางปฏิบัติในการเร่งโซลูชั่นเพื่อยกระดับความยั่งยืนทั่วโลก ไปพร้อมๆกับส่งเสริมการขยายตัวในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม อีกทั้งเปิดเวทีปราศรัยสำคัญโดยคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก รวมถึง WWF Singapore, WWF Philippines, Forum for the Future, FSG และอื่นๆอีกมากมาย
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
เอเดรียน เฮง (Adrian Heng)
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
อีเมล: adrian.heng@asiaplantationcapital.com
สำนักงาน: +65-6222-3386
มือถือ: +65-9750-7440
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital
Quick facts:
- 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – มูลค่ารวมสินทรัพย์ที่บริษัทเป็นเจ้าของ และอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัท
- 53.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – มูลค่าผลประกอบการในปีงบประมาณที่ผ่านมา
- 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – ประมาณการผลประกอบการในปีงบประมาณปัจจุบัน
- 2,000,000 – จำนวนต้นเอควิลาเรียที่มีอยู่ในปัจจุบันบนพื้นที่เพาะปลูกไม้กฤษณา
Asia Plantation Capital (APC) เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินธุรกิจเพาะปลูกและฟาร์มเชิงพาณิชย์อันหลากหลาย ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก ซึ่งอยู่ในเครือของ Asia Plantation Capital Group โดยมีเป้าหมาย คือ โครงการเพาะปลูกที่หลากหลายด้วยวัฒนธรรมและหลากหลายประเภท เพื่อรองรับความต้องการในประเทศและความต้องการเชิงพาณิชย์ในประเทศที่บริษัทดำเนินงาน ธุรกิจใน APC มีหลักการดำเนินงานผ่านการร่วมงานอย่างใกล้ชิด และให้การสนับสนุนอันดีแก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรม เช่นเดียวกับการลงทุน เพื่อขับเคลื่อนชุมชนเหล่านี้ให้ออกจากการตัดไม้ทำลายป่า และกิจกรรมตัดไม้ผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นแหล่งรายได้หลักของเอเชียในบางพื้นที่ บริษัทจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 แม้ว่าได้มีการดำเนินงานมาเพียงลำพังตั้งแต่ปี 2545 ในปัจจุบันเครือบริษัทมีโครงการเพาะปลูกและการเกษตรใน 4 ทวีป ได้แก่ โครงการดำเนินงานในขั้นต่างๆที่ประเทศไทย มาเลเซีย จีน ลาว อินเดีย กัมพูชา ศรีลังกา, พม่า, เวียดนาม, อเมริกาเหนือ และยุโรป
การส่งเสริมการใช้ทรัพยากรไม้ที่ผ่านการรับรองนั้น ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า การคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ และการต่อสู้กับปัญหาความยากจนในภูมิภาคป่าฝนเมืองร้อน ทั้งนี้ สำหรับวงการเดินเรือยอชต์ (ที่มีการใช้ไม้สักเป็นจำนวนมาก) ซึ่งแสวงหาความเป็นเลิศและเกี่ยวพันกับการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว นี่จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะสร้างความมั่นใจว่า จะไม่มีการตัดไม้ที่ผิดกฎหมาย