ฟิลลิป มอร์ริส พ่ายคดีฟ้องล้มกฎหมายควบคุมบุหรี่ของอุรุกวัย ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของสาธารณสุขโลก

ข่าวต่างประเทศ Monday July 11, 2016 14:52 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

วอชิงตัน--11 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ แถลงโดยไมเคิล อาร์ บลูมเบิร์ก และแมทธิว แอล ไมเออร์ส ชัยชนะด้านสาธารณสุขครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึก หลัง รัฐบาลอุรุกวัยมีชัยเหนือบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล (Philip Morris International) ในการต่อสู้ทางกฏหมายระหว่างประเทศเพื่อปกป้องกฎหมายควบคุมบุหรี่ของอุรุกวัย โลโก้ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20080918/CFTFKLOGO นับเป็นเวลานานกว่า 6 ปีที่ฟิลลิป มอร์ริสได้ดำเนินการฟ้องร้องอุรุกวัย และในวันนี้ (9 ก.ค.) ทางคณะอนุญาโตตุลาการของธนาคารโลกได้ตัดสินให้อุรุกวัยชนะคดี และปฏิเสธคำร้องของฟิลลิป มอร์ริส ที่ฟ้องร้องกฎหมาย 2 มาตราของอุรุกวัย อันมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ได้แก่ การบังคับให้พิมพ์ภาพเตือนพิษภัยของบุหรี่ กินพื้นที่ 80% บนซองทั้งสองด้าน และการบังคับให้บุหรี่แต่ละแบรนด์ใช้ซองได้แบบเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้คำหรือสีที่ทำให้เข้าใจผิดว่าบุหรี่มีอันตรายน้อยลง (เช่น คำว่า "light" และ "mild" เป็นต้น) ถ้อยแถลงของไมเคิล อาร์ บลูมเบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Bloomberg Philanthropies และอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก 3 สมัย นี่คือชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวอุรุกวัย และแสดงให้เห็นว่าทุกประเทศสามารถลุกขึ้นมาต่อต้านและเอาชนะบริษัทยาสูบได้ รัฐบาลต้องสามารถปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน และเราพร้อมให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเมื่อบริษัทยาสูบพยายามเข้ามาขัดขวาง ไม่ว่าประเทศใดก็ไม่สมควรถูกบริษัทยาสูบฟ้องร้องดำเนินคดี และนี่จะเป็นคดีตัวอย่างที่ทำให้หลายประเทศกล้าทำในสิ่งต่างๆที่จะช่วยรักษาชีวิตของประชาชน ถ้อยแถลงของแมทธิว แอล ไมเออร์ส ประธาน Campaign for Tobacco-Free Kids คำตัดสินดังกล่าวมีความสำคัญในระดับโลก เพราะมิได้เป็นเพียงการยืนยันสิทธิอธิปไตยของอุรุกวัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิทธิอธิปไตยของทุกประเทศทั่วโลกในการปกป้องสุขภาพของพลเมือง ด้วยการใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการสูบบุหรี่ นอกจากนั้นยังเป็นการตำหนิฟิลลิป มอร์ริสอย่างรุนแรง จากการที่บริษัทนำข้อตกลงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมาใช้ในทางที่ผิด เพื่อท้าทายกฏหมายควบคุมยาสูบที่เข้มงวดของอุรุกวัยและประเทศอื่นๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฟิลลิป มอร์ริส คิดว่าสามารถทำให้อุรุกวัยยอมผ่อนปรนกฎหมายควบคุมยาสูบที่เข้มงวด ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการคุกคามประเทศอื่นๆทั่วโลกด้วย แต่อุรุกวัยกลับต่อสู้อย่างกล้าหาญ การที่อุรุกวัยไม่ยอมแพ้จนประสบชัยชนะเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าทุกประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ร่ำรวยหรือไม่ ก็สามารถต่อกรกับอุตสาหกรรมยาสูบและปกป้องกฎหมายคุ้มครองชีวิตได้เช่นเดียวกัน คำตัดสินนี้จะช่วยกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆทั่วโลกหันมาดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกซึ่งลงนามโดย 180 ประเทศอย่างเต็มตัวและเร่งด่วน ทั้งนี้ หากยังปราศจากท่าทีที่เด็ดขาดตั้งแต่วันนี้ ภายในศตวรรษนี้จะมีผู้คนอีกนับพันล้านคนทั่วโลกที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับบุหรี่ Campaign for Tobacco-Free Kids ขอยกย่องอุรุกวัยและประธานาธิบดีทาบาเร วาสเควซ ที่ต่อสู้กับบุหรี่อย่างกล้าหาญด้วยการบังคับใช้กฎหมายควบคุมบุหรี่ที่เข้มงวดและต่อสู้กับฟิลลิป มอร์ริส กฎหมาย 2 มาตราที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการอันครอบคลุมที่อุรุกวัยได้บังคับใช้เพื่อลดการสูบบุหรี่ ซึ่งรวมถึงกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ 100% ห้ามโฆษณาบุหรี่ และเพิ่มภาษีบุหรี่อย่างหนักหน่วง ทุกวันนี้ อัตราส่วนเยาวชนอุรุกวัยที่สูบบุหรี่มีเพียง 8% ลดลงจาก 23% ในปี 2550 และเพื่อสานต่อความพยายามในการลดการสูบบุหรี่ของคนในประเทศ ประธานาธิบดีวาสเควซได้ประกาศแผนการใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้มีการใช้ซองบุหรี่แบบเรียบ ความเป็นมา ฟิลลิป มอร์ริส ฟ้องร้องอุรุกวัยโดยให้เหตุผลว่า กฎหมายของอุรุกวัยละเมิดสนธิสัญญาการลงทุนระหว่างอุรุกวัยกับสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่สำนักงานใหญ่ของฟิลลิป มอร์ริสตั้งอยู่ โดยยื่นฟ้องต่อศูนย์ยุติข้อพิพาทด้านการลงทุนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นคณะอนุญาโตตุลาการของธนาคารโลก และในวันนี้ (9 ก.ค.) รัฐบาลอุรุกวัยได้เปิดเผยคำพิพากษา ซึ่งตัดสินให้รัฐบาลอุรุกวัยชนะคดี และมีคำสั่งให้ฟิลลิป มอร์ริส ชดใช้ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายให้แก่รัฐบาลอุรุกวัยด้วย ชัยชนะของอุรุกวัยในครั้งนี้ นับเป็นชัยชนะครั้งล่าสุดในการต่อสู้ทางกฎหมายกับบรรดาบริษัทยาสูบที่ต่อต้านการบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาสูบที่เข้มงวด โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ศาลระหว่างประเทศ ก็ได้พิพากษาให้ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล แพ้คดีที่ยื่นฟ้องรัฐบาลออสเตรเลียที่ออกกฎหมายให้ใช้ซองบุหรี่แบบเรียบ โดยสรุปว่าเป็นการละเมิดสิทธิ นอกจากนั้นในเดือนพฤษภาคม ศาลสูงของสหราชอาณาจักร ยังสนับสนุนกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบ ในขณะที่ ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ก็ได้สนับสนุนกฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่ ที่บังคับให้มีการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ลงบนซองเพื่อเตือนพิษภัยของบุหรี่ รวมทั้งให้ประเทศสมาชิกใช้ซองบุหรี่แบบเรียบ คำตัดสินเหล่านี้ได้กระตุ้นให้ทั่วโลกลุกขึ้นมาร่วมกันต่อสู้กับบุหรี่ และเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ทั่วโลกจะไม่ยอมให้บริษัทยาสูบเห็นกำไรสำคัญกว่าชีวิตคนอีกต่อไป ทั้งนี้ Bloomberg Philanthropies และ Campaign for Tobacco-Free Kids เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงินและเทคนิคแก่ทีมกฎหมายของรัฐบาลอุรุกวัย นอกจากนี้ ในปี 2558 Bloomberg Philanthropies ได้ร่วมมือกับ Bill & Melinda Gates Foundation ในการก่อตั้งกองทุน Anti-Tobacco Trade Litigation Fund เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องในลักษณะนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ