ผลการศึกษาชี้ยา Tarceva(R) ของบริษัทโรชช่วยยืดชีวิตผู้ป่วยมะเร็งปอดได้นานขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 5, 2007 12:13 —Asianet Press Release

โซล--5 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดขั้นสุดท้ายทั่วโลก อาจจะมีความหวังที่จะมีชีวิตยืนยาวขึ้น หลังจากมีข้อมูลการศึกษาครั้งใหม่ของ TRUST ซึ่งนำเสนอในงานการประชุมโรคมะเร็งปอดโลกครั้งที่ 12 (WCLC) ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยผลการเฝ้าสังเกตการณ์ครั้งใหม่ทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก (NSCLC) ซึ่งได้รับการรักษาด้วยยา Tarceva (erlotinib) ในการรักษาทางคลินิคอย่างสม่ำเสมอนั้น มีชีวิตยืนยาวขึ้น ผลการศึกษาจาก TRUST ยังได้ยืนยันอีกครั้งถึงประโยชน์ที่ผู้ป่วยได้รับในการศึกษา BR.21 ที่มีความสำคัญ เนื่องจากยา Tarceva ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกว่า 80 ประเทศ ทั้งนี้ โรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กเป็นโรคมะเร็งปอดรูปแบบที่พบได้ทั่วไป และมีผู้ป่วยโรคนี้มากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก
ในการศึกษา BR.21 ผู้ป่วยจำนวน 31% ที่ได้รับยา Tarceva มีชีวิตยืนยาว 1 ปี เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ทดลองใช้ยาหลอก (คือยาที่มีผลทางจิตใจแต่ไม่มีฤทธิ์ยาในการรักษา หรือ placebo) 22% และอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยที่ยาวนานขึ้นคิดเป็น 42.5% (6.7 เดือนเทียบกับ 4.7 เดือน) ในการศึกษา TRUST ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วยจำนวน 6,181 รายมีอัตราการรอดชีวิตเฉลี่ย 7.5 เดือน ขณะที่ข้อมูลจากผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่งอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ และจะมีการประกาศให้ทราบในภายหลัง
"อัตราการรอดชีวิตที่ยาวนานขึ้นในผู้ป่วยจากการศึกษา TRUST เป็นการตอกย้ำถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการปฏิบัติทางคลินิค" โทนี่ ม็อค ศาสตราจารย์ประจำแผนกมะเร็งวิทยาทางคลินิค มหาวิทยาลัย ไชนีส ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฮ่องกง กล่าว "ข้อมูลชิ้นใหม่นี้เน้นให้เห็นถึงศักยภาพของยาตัวนี้ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในวงกว้าง และสะท้อนว่ายา Tarceva มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสใช้เวลาที่มีคุณค่ากับครอบครัวและคนรักของพวกเขาได้ยาวนานขึ้น"
การศึกษา TRUST เป็นการศึกษาต่อเนื่องเกี่ยวกับยา Tarceva ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีระยะเวลายาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งมีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กขั้นสุดท้ายเกือบ 12,000 ราย ในมากกว่า 59 ประเทศทั่วทั้งทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เข้าร่วมการศึกษาครั้งนี้
นับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวยาดังกล่าวเมื่อ 3 ปีก่อน มีผู้ป่วยมากกว่า 182,000 รายจากทั่วโลกได้รับการรักษาด้วยยา Tarceva แล้ว ซึ่งข้อมูลล่าสุดในครั้งนี้ย้ำว่ายา Tarceva เป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ชีวิตที่ยืนยาวกว่า และคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็น เพศชาย เพศหญิง ผู้สูบบุหรี่ ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ รวมไปถึงประชาชนจากทุกชาติพันธุ์ ซึ่งโรคมะเร็งปอดชนิดนี้นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งมากที่สุดของโลกรูปแบบหนึ่ง
"ผลการศึกษา TRUST แสดงให้เห็นว่า แม้กระทั่งการใช้ยา Tarceva ทางคลินิคเป็นประจำก็มีประสิทธิภาพเทียบเคียงได้กับการศึกษา BR.21" ดร.อูลริช กาทเซมายเออร์ ผู้ตรวจสอบการศึกษา TRUST ประจำแผนกมะเร็งทรวงอก โรงพยาบาลโกรสฮันส์ดอร์ฟ เมืองฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี กล่าว"การศึกษาครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการรักษาโรคมะเร็งปอด และแพทย์ที่ต้องการให้ความหวังกับผู้ป่วยและครอบครัวจำนวนมาก ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งชนิดนี้"
ความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้งของโรชที่ทำเพื่อผู้ป่วย
ขณะนี้ยา Tarceva ได้รับการประเมินในโครงการการพัฒนาทางคลินิคขนาดใหญ่ ให้ใช้รักษาโรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กขั้นแรก โดยพันธมิตรระดับโลก ซึ่งประกอบด้วยบริษัท โอเอสไอ ฟาร์มาซูติคอล (OSI Pharmaceuticals) เจเนนเทค (Genentech) และ โรช (Roche) โครงการนี้มีการศึกษาทางคลินิคเกือบ 20 แห่งเกี่ยวกับยา Tarceva เพื่อค้นหาวิถีทางใหม่ในการยืดชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดและมะเร็งชนิดอื่นๆ ขณะนี้มีการศึกษาการใช้ยา Tarceva ร่วมกับยา Avastin ในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก และในชนิดมะเร็งเนื้องอกชนิดอื่นๆอย่างกว้างขวาง
"TRUST เป็นเพียงการศึกษานำร่องโครงการหนึ่งจากโครงการศึกษาทางการแพทย์ครั้งสำคัญหลายโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากโรช ซึ่งปัจจุบันสามารถช่วยระบุได้ว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการศึกษาประเภทใดจะสามารถได้รับประโยชน์จากการรักษาด้วยยา Tarceva ได้ดีที่สุด" วิลเลี่ยม เอ็ม เบิร์น ซีอีโอของแผนกเวชภัณฑ์ของโรชกล่าว "สิ่งที่พวกเราให้ความสำคัญ คือ อัตราการการรอดชีวิตของผู้ป่วยที่ยาวนานขึ้นและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ทนทุกข์ทรมานจากมะเร็งทุกชนิด"
หากต้องการข้อมูลและข่าวสารล่าสุดทั้งหมดเกี่ยวกับยา Tarceva และมะเร็งปอด กรุณาเข้าชมที่เว็บไซต์ www.tarcevapressoffice.com
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ TRUST
TRUST เป็นโครงการศึกษายา Tarceva ที่ใช้ในการรักษามะเร็งปอดทั่วโลกที่จัดเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดและยาวนานมากที่สุด ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยมะเร็งแบบ NSCLC เกือบ 12,000 คน จาก 59 ประเทศทั่วเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา โครงการศึกษาครั้งนี้มีลักษณะเป็นศูนย์กลางที่มีความหลากหลาย และเป็นการศึกษายา Tarceva ในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดระดับโลกที่เปิดกว้าง ซึ่งผู้ป่วยดังกล่าวได้รับการรักษาโรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก (NSCLC) ที่ทันสมัยในระดับรองลงไป นอกเหนือจากโครงการเข้าถึงยา TRUST ที่ได้มีการขยายขอบเขตแล้ว การศึกษาดังกล่าวยังช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งปอดประเภท NSCLC ระยะรุนแรงนับพันคนทั่วโลก สามารถเข้าถึงยา Tarceva ด้วยการเติมเต็มช่องว่างระหว่างวันที่ทำการร้องขอยาใหม่และวันที่ได้มีการอนุมัติในวันสุดท้าย นับตั้งแต่ที่ได้มีการศึกษายา TRUST ในปี 2547 มีผู้ป่วย 93% ในประเทศที่เข้ารับการรักษาที่ได้รับการรับรองว่ายา Tarceva เป็นยารักษาหลักสำหรับผู้ป่วยโรค NSCLC ระยะรุนแรงได้
เกี่ยวกับผลการศึกษา BR.21
สหภาพยุโรป (EU) ได้ให้การรับรองยา Tarceva บนพื้นฐานของโครงการศึกษาระยะที่สามของผลการศึกษา BR.21 ที่ตีพิมพ์ในวารสารด้านเภสัชกรรมของนิว อิงแลนด์ ผลการศึกษา BR.21 จัดทำขึ้นโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติของกลุ่มการศึกษาทางการแพทย์ของแคนาดาภายใต้ความร่วมมือกับโอเอสไอ ฟาร์มาซูติคอลส์ โดยมีผู้ป่วยเข้าร่วมจากสถานที่ต่างๆ 86 แห่งจาก 17 ประเทศทั่วโลก การศึกษาชิ้นนี้มีผู้ป่วยโรค NSCLC ระยะรุนแรง 731 รายที่เชื้อมะเร็งลุกลามหลังจากที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดในระยะที่หนึ่ง และระยะที่สองเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยา Tarceva ร่วมกับยาหลอก หรือ placebo เพียงอย่างเดียว
ผลการศึกษาที่สำคัญได้แก่:
-การรักษาด้วยยา Tarceva ในผู้ป่วยโรค NSCLC ระยะรุนแรงปรากฏว่าผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตยาวนานกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับยาหลอก หรือ placebo โดยผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น 42.5% (6.7 เดือน เมื่อเทียบกับ 4.7 เดือน)
-31% ของผู้ป่วยที่ได้รับยา Tarceva สามารถยืดชีวิตอยู่ได้ 1 ปีเมื่อเทียบกับ 22% ของผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอก
-ผู้ป่วยที่ได้รับยา Tarceva สามารถควบคุมอาการที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปอดเช่น ไอ หายใจติดขัด และเจ็บ ยาวนานกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
-ผู้ป่วยยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีลักษณะทางกายภาพที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ใช้ยาหลอก
ประโยชน์ของยา Tarceva แสดงให้เห็นว่ามีแบคทีเรียที่ยาปฎิชีวนะออกฤทธิ์ได้ผลกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับยา Tarceva
ยา Tarceva เป็นยาชนิดแรกและเป็นยารับประทานเพียงชนิดเดียวที่ออกฤทธิ์ยับยั้ง EGFR ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งลุกลามในร่างกาย และช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดระยะรุนแรงและผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนรอดชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันนี้ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อนส่วนใหญ่ได้รับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดซึ่งทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ง่ายเนื่องจากธรรมชาติของสารพิษที่คั่งค้างอยู่ในร่างกาย แต่ Tarceva ออกฤทธิ์ต่างจากการักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดเนื่องจากยาจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์เนื้อร้าย ที่ไม่ทำใหเกิดอาการข้างเคียงอย่างที่พบได้ทั่วไปในวิธีการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด
ยา Tarceva ได้รับการอนุมัติในสหรัฐและทั่วสหภาพยุโรปตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2548 ให้ใช้ในผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก (NSCLC) ) ที่เกิดในระยะแรกเริ่มหรือระยะที่เซลล์เริ่มลุกลาม หลังจากที่ไม่สามารถรับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดมาก่อนหน้านี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ ยาดังกล่าวยังได้รับอนุมัติให้ใช้ร่วมกับวิธีเคมีบำบัดเป็นการรักษาครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนรอดชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังได้รับอนุมัติในสหรัฐให้ใช้ร่วมกับยา gemcitabine ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนระยะแรกเริ่ม ระยะฟักตัวและระยะลุกลาม และใช้รักษามะเร็งตับอ่อนระยะลุกลามในสหภาพยุโรป นับตั้งแต่มีการเปิดตัวยา Tarceva ครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่ผ่าน ได้มีการใช้ยาดังกล่าวในการรักษาผู้ป่วยกว่า 182,000 คนและได้รับการรับรองให้ใช้รักษาผู้ป่วยในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
เกี่ยวกับโรช
บริษัทโรช ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบาเซล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คือกลุ่มบริษัทด้านการดูแลรักษาสุขภาพระดับแนวหน้า ซึ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในแวดวงเวชภัณฑ์และการตรวจวินิจฉัยโรค ในฐานะผู้จัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับการตรวจหา การป้องกัน การวินิจฉัย และการรักษาโรคเบื้องต้น กลุ่มโรชจึงมีส่วนร่วมในระดับแนวหน้า ในการสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชากรโลก โรชเป็นผู้นำของโลกในการตรวจวินิจฉัย และเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายชั้นนำสำหรับยารักษาโรคมะเร็งและการปลูกถ่าย อีกทั้งเป็นผู้นำตลาดไวรัสวิทยาด้วย ในปี 2549 ยอดขายในแผนกเวชภัณฑ์ของโรช มีมูลค่าทั้งสิ้น 3.33 หมื่นล้านฟรังค์สวิส ขณะที่ยอดขายในแผนกตรวจวินิจฉัย อยู่ที่ 8.7 พันล้านฟรังค์สวิส และมีข้อตกลงด้านการวิจัยและพัฒนา และมีการรวมกลุ่มพันธมิตรกับหุ้นส่วนจำนวนมาก รวมทั้งเป็นเจ้าของหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทเจเนนเทคและชูไก และมียอดการลงทุนด้านการวิจัยประมาณ 7 พันล้านฟรังค์สวิส โรชมีพนักงานประมาณ 75,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรช กรุ๊ป สามารถพบได้ทางอินเทอร์เน็ตที่ www.roche.com
คำแถลงการณ์เกี่ยวกับอนาคต
เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เกี่ยวกับอนาคตที่อาจระบุถึงคำต่างๆที่แสดงถึงความหมาย เช่น "ความเชื่อ" "การคาดหวัง" "การคาดการณ์" "การตั้งเป้าหมาย "เจตนารมณ์" "ความน่าจะเป็น" "การค้นหา "การประมาณการณ์" "อนาคต"mailto:lester.davis@roche.com>
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ