ฉบับที่ 07/2556
ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนมีนาคม 2556 ชะลอตัวจากเดือนก่อน แม้รายได้จากภาคเกษตรจะปรับตัวดีขึ้นจากราคามันสำปะหลังที่สูงขึ้น แต่การอุปโภคบริโภคกลับชะลอลง เนื่องจากประชาชนเร่งใช้จ่ายค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ภาคการค้าชะลอตัวลงจากเดือนก่อนทุกหมวด ส่วนด้านการลงทุนภาคเอกชนชะลอลง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐบาลที่งบประจำลดลงแต่งบลงทุนยังขยายตัวดี อย่างไรก็ตาม สินเชื่อของสถาบันการเงินยังขยายตัวดี และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตามการผลิตน้ำตาลเป็นสำคัญ สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.91 ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 3.28 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ชะลอลงจากเดือนก่อน สะท้อนจากดัชนีเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 เป็นการลดลงในทุกหมวดทั้งหมวดรถยนต์ หมวดน้ำมันเชื้อเพลิง หมวดภาษีมูลค่าเพิ่ม และหมวดการใช้ไฟฟ้าในภาคครัวเรือน เนื่องจากกำลังซื้อเริ่มแผ่วลงจากที่เร่งตัวมากในช่วงก่อนหน้านี้ตามมาตรการจ่ายคืนเงินของโครงการรถยนต์คันแรกเป็นสำคัญสะท้อนจากยอดจดทะเบียนรถทุกประเภทที่ลดลงตามลำดับ สอดคล้องกับภาคการค้า โดยดัชนีการค้าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.4 แต่ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการค้าปลีกและค้าส่งที่ชะลอตัวในเกือบทุกหมวด โดยเฉพาะการค้าในหมวดยานยนต์ หมวดวัสดุก่อสร้าง สี กระจก หมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดน้ำมันเชื้อเพลิง ด้านการลงทุนภาคเอกชน ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ชะลอตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อน สะท้อนจากพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างลดลง อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการใหม่เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนกว่า 5 เท่าตัว สำหรับการใช้จ่ายของภาครัฐ แม้จะลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 27.8 ตามการหดตัวของงบประจำแต่งบลงทุนยังคงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 81.0
ภาคเกษตร ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.9 เป็นผลจากด้านราคาเป็นสำคัญ โดยดัชนีราคาพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.0 ตามการสูงขึ้นของราคามันสำปะหลัง เนื่องจากตลาดมีความกังวลต่อปริมาณผลผลิตที่อาจลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้จากปัญหาภัยแล้งรวมทั้งส่วนหนึ่งเป็นผลจากเกษตรกรเข้าร่วมโครงการรับจำนำเพิ่มขึ้นก่อนสิ้นสุดโครงการในเดือนนี้ ขณะที่ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคายังอยู่ในเกณฑ์ดี เป็นผลจากมาตรการรับจำนำของภาครัฐเป็นสำคัญ ส่วนราคาข้าวเปลือกเหนียว อ้อยโรงงาน และยางพารา ราคาลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามทิศทางของราคาตลาดต่างประเทศ สำหรับดัชนีผลผลิตพืชสำคัญลดลงจากปีก่อนร้อยละ 1.0 ตามผลผลิตข้าว และอ้อยโรงงานที่ลดลงจากปัญหาภัยแล้ง ในส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.7 เป็นผลจากการผลิตของอุตสาหกรรมน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 (โดยผลิตเพิ่มขึ้นทั้งน้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายดิบ) อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3 ตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ อุตสาหกรรมมันสำปะหลังขยายตัวตามความต้องการของตลาดในประเทศจีนเป็นสำคัญขณะที่การผลิตอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทรงตัวจากเดือนก่อน สำหรับภาคบริการ อัตราการเข้าพักแรมอยู่ที่ร้อยละ 49.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย
ภาคการเงิน ณ สิ้นกุมภาพันธ์ 2556 สินเชื่อของธนาคารพาณิขย์มียอดคงค้าง 666.4 พันล้านบาทขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 23.3 โดยเฉพาะสินเชื่อภาคครัวเรือน เช่น สินเชื่อการซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มียอดคงค้าง 879.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.3 ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินเชื่อเพื่อสังคม สินเชื่อตามโครงการของรัฐ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ร้อยละ 2.91 ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 3.28 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.49 ชะลอตัวจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.63 ตามราคาอาหารสำเร็จรูปบริโภคในบ้าน สำหรับอัตราการว่างงานเดือนกุมภาพันธ์ 2556 อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ลดลงจากจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.1 เป็นผลจากมีการจ้างงานในภาคนอกเกษตรเพิ่มขึ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค
โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410
E-mail: Rotelakp@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย