1. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยกรอบความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2557 -2560 (Memorandum of Understanding on the Collaborative Framework between the World Health Organization and the Association of Southeast Asian Nations 2014 - 2017) และหากมีการแก้ไขถ้อยคำหรือประเด็นที่มิใช่สาระสำคัญขอให้อยู่ในดุลยพินิจของ สธ. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
2. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (Memorandum of Understanding between Association of Southeast Asian Nations and the United Nations Population Fund ) และหากมีการแก้ไขถ้อยคำหรือประเด็นที่มิใช่สาระสำคัญให้อยู่ในดุลยพินิจของ สธ. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ ทั้ง 2 ฉบับ มีดังนี้
1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยกรอบความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2557 – 2560 (Memorandum of Understanding on the Collaborative Framework between the World Health Organization and the Association of Southeast Asian Nations 2014 - 2017) โดยผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียนกับผู้แทนองค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกกับอาเซียนในการดำเนินความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยเป็นการแสดงเจตจำนงของประเทศสมาชิกอาเซียนผ่าน สำนักเลขาธิการอาเซียนในการยืนยันและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับองค์การอนามัยโลก ซึ่งไม่มีถ้อยคำที่ก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่มีประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
2. บันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (Memorandum of Understanding between Association of Southeast Asian Nations and the United Nations Population Fund ) โดยผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียนกับผู้แทน United Nations Population Fund เป็นข้อตกลงระหว่างอาเซียนกับกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติที่จะดำเนินความร่วมมือด้านสุขอนามัยทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ ซึ่งไม่มีถ้อยคำที่ก่อให้เกิดพันธกรณี ภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่มีประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 กันยายน 2557--จบ--