ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงพลังงานแห่งสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน

ข่าวการเมือง Tuesday November 18, 2014 18:55 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจระหว่าง พน. แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงพลังงานแห่งสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ

3. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้ พน. หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

สาระสำคัญของเรื่อง

ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ยังคงมีเนื้อหาเหมือนเดิมตามที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเห็นชอบไปแล้ว (เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556) โดยสรุปสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ได้ดังนี้

1. ความร่วมมือระหว่างคู่ภาคีจะดำเนินการโดยสอดคล้องกับกฎหมายของรัฐคู่ภาคี และจะครอบคลุมขอบเขตต่าง ๆ ได้แก่ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก

2. คู่ภาคีจะดำเนินความร่วมมือตามที่อ้างถึงในข้อ 1 ในด้านการสำรวจไฮโดรคาร์บอน การพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับพลังงาน การก่อสร้างและการใช้โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่ง การเก็บ และการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ การผลิต การขนส่ง และการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว การผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ และจากความร้อนใต้พิภพ การปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน ความร่วมมือด้านอื่น ๆ ตามที่คู่ภาคีจะตกลงกัน

3. ความร่วมมือระหว่างคู่ภาคีภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้สามารถดำเนินการได้ตามรูปแบบการหารือแบบทวิภาคี การแลกเปลี่ยนข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับพลังงานที่หาได้จากแหล่งที่เปิดเผยอย่างสม่ำเสมอ และรูปแบบความร่วมมืออื่น ๆ ตามแต่คู่ภาคีจะตกลงกัน

4. การประสานความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้ คู่ภาคีจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของคู่ภาคี และของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะทำงานจะกำหนดโครงการต่าง ๆ สำหรับการดำเนินงานร่วมกัน จัดทำโครงการความร่วมมือและการทำงานร่วมกันระยะยาวที่ครอบคลุม ตามทิศทางของกิจกรรม และกำหนดมาตรการสำหรับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จำเป็นเพื่อให้โครงการสามารถประสบความสำเร็จได้ วาระ เวลา และสถานที่ สำหรับการประชุมคณะทำงานจะจัดขึ้นตามที่คู่ภาคีจะตกลงกัน การประชุมของคณะทำงานจะจัดขึ้นที่สหพันธรัฐรัสเซียและประเทศไทยสลับกัน โดยคาดว่าจะจัดการประชุมปีละครั้ง

5. คู่ภาคีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของตนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามบันทึกความเข้าใจนี้ นอกจากจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น

6. คู่ภาคีอาจตกลงยึดหลักการการเก็บรักษาความลับและการคุ้มครองสิทธิของทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเกิดจากผลของกิจกรรมที่ดำเนินร่วมกัน ภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้ ทั้งนี้ต้องไม่ขัดกับกฎหมายของรัฐคู่ภาคี

7. บันทึกความเข้าใจนี้มิใช่สนธิสัญญาระหว่างประเทศหรือเอกสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิ หรือข้อผูกพันใด ๆ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ

8. ข้อโต้แย้งที่เกิดจากการแปลหรือการใช้บันทึกความเข้าใจนี้ จะตกลงกันโดยการปรึกษาหารือฉันมิตรระหว่างคู่ภาคี

9. บันทึกความเข้าใจนี้อาจมีการแก้ไขโดยความเห็นชอบเป็นลายลักษณ์อักษรของคู่ภาคีโดยช่องทางการทูต

10. บันทึกความเข้าใจนี้จะมีผลนับแต่วันลงนามและมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 3 ปี และจะต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลาเดียวกัน เว้นแต่ว่าภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งให้ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบถึงความตั้งใจที่จะไม่ขอต่ออายุบันทึกความเข้าใจนี้ ซึ่งการสิ้นสุดการใช้บันทึกความเข้าใจนี้จะไม่มีผลต่อกิจกรรมและโครงการความร่วมมือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หรือที่กำลังดำเนินการอยู่ตามบันทึกความเข้าใจนี้ จนกว่ากิจกรรมและโครงการนั้น ๆ จะเสร็จสิ้น หรือแล้วแต่ที่คู่ภาคีจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น

11. บันทึกความเข้าใจระหว่าง พน. ไทยและกระทรวงพลังงานสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน จะจัดทำเป็น 3 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และภาษารัสเซีย โดยหากมีข้อโต้แย้งและมีการตีความที่คลาดเคลื่อนจะยึดร่างบันทึกความเข้าใจฉบับภาษาอังกฤษเป็นหลักในการตีความ

พน. พิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการวางกรอบความร่วมมือด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน โดยวางกรอบกว้าง ๆ ในการดำเนินงาน และไม่มีข้อผูกมัด รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมาย และจะไม่มีผลเป็นการผูกพันโดยเจาะจงแก่ประเทศไทยในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือการค้าการลงทุนอย่างกว้างขวางแต่อย่างใด

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ