เรื่อง ขออนุมัติจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฉบับใหม่
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฉบับใหม่
2. ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยโดยให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ร่วมลงนามในร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่ดังกล่าว
3. หากมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญให้กระทรวงกลาโหม (กห.) พิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
ร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือทั้งสองฝ่ายร่วมกันอย่างใกล้ชิดในด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศ เช่น การร่วมมือด้านความมั่นคง การป้องกันรักษาชายแดน การรักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อย การรักษาสิ่งแวดล้อมและการร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันบนพื้นฐานของหลักการของความเสมอภาค การเคารพอธิปไตยของกันและกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยสอดคล้องกับระเบียบและกฎหมายของแต่ละประเทศ
2. การปฏิบัติตามความตกลงฯ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ส่วนราชการของตนทำหน้าที่เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการปฏิบัติตามความตกลงฉบับนี้ โดยรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยมอบให้ กห. และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมอบให้กระทรวงป้องกันประเทศ ทำหน้าที่เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก
3. ความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับนับตั้งแต่วันลงนามเป็นต้นไป ยกเว้นกรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความจำเป็นที่จะยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขความตกลงฉบับนี้ฝ่ายนั้นจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรโดยผ่านช่องทางการทูตให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 6 เดือน การเปลี่ยนแปลงแก้ไขซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ให้ความเห็นชอบ จะมีผลใช้บังคับในวันที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดร่วมกันกห. เห็นว่า ร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่ จัดทำขึ้นในระดับรัฐบาลโดยมีรูปแบบและถ้อยคำที่ก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับกฎหมายระหว่างประเทศ จึงถือเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการลงนาม แต่ไม่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติ เพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือที่กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง จึงไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาที่จะต้องขอรับความเห็นชอบจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามมาตรา 23 วรรคสองของรัฐธรรมนูญฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 กันยายน 2558--