คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อการสนับสนุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะพิเศษและสำนักงาน ก.พ.ร. ไปประกอบพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
2. สำหรับงานธุรการและสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกองทุนเพื่อการสนับสนุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยในระยะแรกนั้น ให้ กค. ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ส่วนในระยะต่อไป ในการจัดตั้งสำนักงานกองทุนเพื่อการสนับสนุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยให้ กค. ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (19 ธันวาคม 2549) [เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ] ต่อไป
3. ให้ กค. และธนาคารแห่งประเทศไทย รับความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติทที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะพิเศษ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
1. กำหนดให้มีกองทุนเพื่อการสนับสนุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองการจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้มีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้กองทุนเพื่อการสนับสนุนฯ เป็นหน่วยงานภายใต้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย
2. กำหนดให้เงินและทรัพย์สินของกองทุนเพื่อการสนับสนุนฯ ประกอบ ไปด้วย 2 บัญชี คือ บัญชีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองการจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับความคุ้มครอง โดยจะมีเงินทุนตั้งต้นซึ่งรัฐบาลจัดสรรให้เป็นเงินสำรองจำนวน 9,000 ล้านบาทจากเงินผลประโยชน์ตอบแทนจาก กค. ในฐานะผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมวายุภักษ์ และบัญชีที่ 2 มีวัตถุประสงค์ให้เป็นเงินสำรองของกองทุนเพื่อการสนับสนุนฯ เพื่อจ่ายสมทบให้กับบัญชีที่ 1 ตามจำนวนที่ได้จ่ายออกไปเพื่อคุ้มครองการจ่ายผลตอบแทน โดยเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับภายหลังจากการจัดตั้งกองทุนเพื่อการสนับสนุนฯ จะนำเข้าเป็นเงินและทรัพย์สินของบัญชีที่ 2 อย่างไรก็ตาม กรณีที่เงินและทรัพย์สินของบัญชีที่ 2 ไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายสมทบให้แก่บัญชีที่ 1 โดยม่สามารถหาเงินจากแหล่งที่อื่นได้ รัฐพึงจัดสรรงบประมาณแผ่นดินให้แก่บัญชีที่ 2
3. กำหนดให้มีคณะกรรมการกองทุนเพื่อการสนับสนุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกิน 3 คน และมีผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเป็นกรรมการและเลขานุการ ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนการลงทุนของเงินกองทุน กำกับดูแลการบริหารจัดการกองทุน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ให้ความเห็นชอบในการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนของกองทุนรวม และดำเนินการจ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าวให้แก่กองทุนรวม รวมทั้งให้มีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
4. กำหนดให้จัดตั้งสำนักงานกองทุนเพื่อการสนับสนุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยในสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ โดยให้มีหน้าที่หลักในการทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการให้กับกองทุน คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคลที่คณะกรรมการแต่งตั้ง
5. กำหนดข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการบัญชีและการตรวจสอบ เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559--