คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบต่อการขยายระยะเวลาโครงการนำร่องระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน โครงการที่ 1 ออกไปจนกว่าระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (ASEAN-wide Self - Certification) จะมีผลใช้บังคับ
2. มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือแจ้งการให้ความเห็นชอบของไทยต่อการขยายระยะเวลาโครงการนำร่องฯ โครงการที่ 1 ออกไปจนกว่าระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (ASEAN-wide Self-Certification) จะมีผลใช้บังคับ และนำส่งไปยังเลขาธิการอาเซียนก่อนสิ้นสุดอายุโครงการฯ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559
สาระสำคัญของเรื่อง
พณ. รายงานว่า
1. ระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (AWSC) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้อาเซียน มีระบบการรับรองถิ่นกำเนิดเป็นระบบเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลของภาคีสมาชิกในโครงการนำร่องระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (“โครงการนำร่องฯ โครงการที่ 1 ”) ซึ่งรัฐสภามีมติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2554 เห็นชอบให้ไทยเข้าร่วมเป็นภาคี และไทยได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีบันทึกความเข้าใจโครงการนำร่องฯ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2554 โดยโครงการนำร่องฯ มีระยะเวลา 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2554
2. โครงการนำร่องฯ โครงการที่ 1 จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตให้รับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง ลดขั้นตอนพิธีการการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า และช่วยลดเวลาและต้นทุนการดำเนินการของภาคเอกชน ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย บรูไน กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมา และสิงคโปร์ โดยมีจำนวนผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตรวมทั้งสิ้น 426 ราย แบ่งเป็นผู้ส่งออกไทย 172 ราย บรูไน 10 ราย กัมพูชา 2 ราย มาเลเซีย 173 ราย เมียนมา 4 ราย และสิงคโปร์ 65 ราย นอกจากนี้ อาเซียนบางประเทศเห็นพ้องให้มีโครงการนำร่องฯ โครงการที่ 2 เพิ่มขึ้น โดยมีความเข้มงวดกว่าในบางประเด็น และไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการที่ 2 คือ อินโดนีเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม ซึ่งจะใช้คู่ขนานไปกับโครงการนำร่องฯ โครงการที่ 1 และจะพยายามปรับประสานระเบียบปฏิบัติของโครงการนำร่องฯ ทั้งสองโครงการเข้าด้วยกันแต่ยังไม่สำเร็จเป็นเหตุให้อาเซียนจำเป็นต้องขยายระยะเวลาโครงการนำร่องฯ โครงการที่ 1 ออกไป รวม 3 ครั้ง ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2559
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 ธันวาคม 2559--