บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฎาน

ข่าวการเมือง Tuesday September 19, 2017 17:10 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฎาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of the Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan)

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบต่อบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฎาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of the Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan)

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้ สธ. ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ดัวย และให้ สธ. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมต่อยอดให้เกิดการใช้ประโยชน์จากความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านการแพทย์ดั้งเดิมและสมุนไพร หายากของภูฎาน รวมทั้งประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำดื่มในชนบทของภูฎาน มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ กับประเทศไทยต่อไป

บันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับภูฎาน โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นความสนใจร่วมกันรวม 10 ประเด็น ได้แก่

(1) การควบคุมโรค

(2) การแพทย์ดั้งเดิม

(3) ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง

(4) การรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการ

(5) ทรัพยากรบุคคลด้านสาธารณสุข

(6) การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ

(7) การให้บริการด้านการบำบัดและรักษายาเสพติด

(8) การวิจัยและการศึกษาด้านการแพทย์

(9) ระบบการกำกับดูแลยาของประเทศ และ

(10) สาขาร่วมมืออื่น ๆ

โดยผลการวิจัยและการศึกษาที่ดำเนินร่วมกันและผลประโยชน์ที่เกิดจากการวิจัยและการศึกษาร่วมกันจะมีการแบ่งปันกันระหว่างคู่ภาคีโดยเท่าเทียมและเสมอภาคกันตามข้อกำหนดที่ได้ตัดสินใจโดยคู่ภาคี ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมต้องได้รับการตัดสินใจร่วมกันโดยคู่ภาคีเป็นรายกรณี

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 กันยายน 2560--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ