การลงนามร่างความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับฮังการีเกี่ยวกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในฮังการี

ข่าวการเมือง Tuesday April 17, 2018 16:19 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การลงนามร่างความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับฮังการีเกี่ยวกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในฮังการีโดยร่วมมือกับวิทยาลัยพระพุทธศาสนาธรรมเกท

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามร่างความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับฮังการีเกี่ยวกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในฮังการีโดยร่วมมือกับวิทยาลัยพระพุทธศาสนาธรรมเกท (AGREEMENT BETWEEN THE KINGDOM OF THAILAND AND HUNGARY ON THE FUNCTIONING OF THE MAHACHULALONGKORNRAJAVIDYALAYA UNIVERSITY IN HUNGARY IN COOPERATION WITH THE DHARMA GATE BUDDHIST COLLEGE) ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างความตกลงฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ.โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) หารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) โดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

2. อนุมัติและมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงฯ

3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามตามข้อ 2

4. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือแจ้งฝ่ายฮังการีเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการทูตเพื่อดำเนินการให้ร่างความตกลงฯ มีผลผูกพัน

สาระสำคัญของร่างความตกลงฯ เป็นการรับรองและสนับสนุนการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในฮังการีโดยร่วมมือกับวิทยาลัยพระพุทธศาสนาธรรมเกทในสาขาพระพุทธศาสนศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เช่น ภาคีคู่สัญญาให้ความมั่นใจว่าจะสนับสนุนการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยจุฬาภรณราชวิทยาลัยในฮังการี โดยร่วมมือกับวิทยาลัยพระพุทธศาสนาธรรมเกทในสาขาวิชาพุทธศาสนาศึกษาและจะให้การยอมรับซึ่งกันและกันซึ่งประกาศนียบัตรที่ออกให้เป็นหลักฐานที่แสดงถึงคุณวุฒิทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาและคุณวุฒิทางวิชาชีพ การรับรองว่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีสถานะเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ดำเนินงานอยู่ในราชอาณาจักรไทย และการคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันจากการดำเนินงานและเจตนารมณ์ของภาคีคู่สัญญาในการสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งเพิ่มเติมซึ่งความร่วมมมือทางวิชาการในสาขาพุทธศาสนาศึกษา โดยระบุองค์กรหลักที่รับผิดชอบในการดำเนินงานตามความตกลงนี้ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงศักยภาพมนุษย์ของฮังการี

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 เมษายน 2561--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ